"กูไม่เข้าใจ ในเมื่อมึงไม่ต้องการน้องเอง แล้วทำไมมึงยังทำเหมือนว่าหวงก้างอยู่วะ" เหนือตะวันคุยกับเสกสรรในขณะที่เดินเข้ามาในบริษัท
"กูหวงก้างที่ไหน กูแค่อยากทำงาน ก็มึงเองไม่ใช่เหรอที่อยากให้กูทำงาน"
"ทำก็ทำ แล้วนี่มึงทำอะไรเป็นบ้าง"
"กูอยากเป็นหัวหน้าแผนก ที่เธอทำงานอยู่"
"ไม่ได้! หัวหน้าแผนกมีอยู่แล้วกูก็บอกมึงแล้วไง"
"มึงก็ไล่ไอ้หมอนั่นออกไปสิวะ" เรื่องนั้นเสกสรรก็รู้แล้ว ว่าใครเป็นหัวหน้าแผนกของจั๊กจั่น
"มันไล่กันออกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง"
"ก็มึงเป็นเจ้าของบริษัทนี้ไม่ใช่หรือไง"
"มึงอย่าพูดดังสิ คนมองแล้วเห็นไหม"
"มองก็ช่างปะไร กูไม่สนใจ" คราวก่อนที่เสกสรรเข้ามาบริษัทนี้พร้อมกับเหนือตะวันและมิลาน เขามีท่าทางสนใจผู้หญิงทุกคนที่แต่งตัวสวย แต่มาคราวนี้ดูเปลี่ยนไป เพราะเขาไม่มองใครเลย
ลิฟต์ได้ถูกเปิดออกที่ชั้นผู้บริหาร ทั้งสองก้าวเดินออกจากลิฟต์มาพร้อมกัน
"สวัสดีครับคุณพ่อ" พอออกมาก็เจอกับภูธรพ่อของภรรยา ที่กำลังจะเข้าห้องทำงานของท่าน
"อ้าว..ทำไมมาทำงานเร็วจังเลย ไม่ไปฮันนีมูนที่ไหนกันก่อนเหรอ"
"ผมอยากจะเคลียร์งานก่อนสักระยะค่อยไปครับ"
"แล้วนี่มากับเขาด้วยเหรอ" ภูธรหันมาพูดกับเสกสรร เพราะทั้งสองเจอกันอยู่ในงานแต่งไปแล้ว ก็เลยดูไม่แปลกใจเท่าไรที่เห็นคนในหมู่บ้านโผล่มาบริษัทแบบนี้
"ผมจะมาทำงานด้วยครับ"
"มาทำงาน?"
"คุณพ่ออย่าดูตกใจเหมือนไอ้เหนือมันสิครับ"
"จัดการกันเองเลยแล้วกัน พ่อเข้าห้องก่อนนะ"
"กูอยากเป็นหัวหน้าแผนกนั้นจริงๆ นะเว้ย" เสกสรรเดินตามเหนือตะวันเข้ามาในห้องของท่านประธาน
"กูให้มึงเป็นไม่ได้"
"ถ้างั้นมึงต้องให้กูรับตำแหน่งที่ใหญ่กว่าไอ้หมอนั่นแล้วล่ะ"
"มึงจบวุฒิอะไรวะ"
"ปริญญาตรี"
"ขี้คุย"
"กูจบจริงเว้ย"
"จริงเหรอ?" ขนาดเพื่อนยังไม่อยากจะเชื่อ เพราะเห็นสำมะเลเทเมาไปวันๆ
"จริง!"
"แล้วมึงอย่าไปหาเรื่องเขาล่ะ ถ้าจะทำงานก็ทำแต่งานเข้าใจไหม" เหนือตะวันก็เลยเรียกฝ่ายบุคคลขึ้นมา เพื่อสอบถามว่ามีตำแหน่งไหนที่ว่างบ้าง
"วันนี้จะมีหัวหน้าฝ่ายมารับตำแหน่งใหม่นะ"
"ทำไมไม่เห็นแจ้งมาล่วงหน้าก่อนล่ะครับ" คนที่ถามก็คือเกม เพราะถ้าจะมีคนมารับตำแหน่งก็ต้องได้แจ้งมาก่อนล่วงหน้า มันเป็นกฎของบริษัทอยู่แล้ว
"เป็นคำสั่งโดยตรงจากท่านประธาน" ได้ยินแค่นี้ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรต่ออีกแล้ว
"คงจะเส้นใหญ่พอตัว" แต่ลับหลังไม่ใช่ว่าจะไม่มีใครพูด เพราะหลายคนต่างก็พูดกัน
หัวหน้าฝ่ายก็คือหัวหน้าของทุกคนบนชั้น 3 ใช่แล้วนั่นก็คือหัวหน้าของหัวหน้าแผนกอีกทีหนึ่ง ซึ่งชั้น 3 แบ่งเป็นโซน มีด้วยกัน 4 แผนก แต่ละแผนกต้องรับคำสั่งโดยตรงจากหัวหน้าฝ่าย ..ตั้งแต่หัวหน้าฝ่ายคนเดิมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไป ก็ยังไม่มีใครมารับตำแหน่งนี้
"ไปได้แล้วครับ" พอได้ยินจั๊กจั่นพูดแบบนั้นเกมก็พอใจยิ่งนัก ดีกว่าไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันสะอีก
เสกสรรได้แต่กัดฟันไว้อย่าเพิ่งระเบิดออกมา เพราะเขาไม่ได้มาในมาดของไอ้เสก
"คุณเสกสรรเคยทำงานที่ไหนเหรอคะ" หัวหน้าแผนกอีกสามคนก็คือผู้หญิง แต่หนึ่งในนั้นท้องโตแล้ว แต่อีกสองคนคาดว่าคงจะเป็นสาวโสด
"ยังไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันครับ เคยช่วยแต่ช่วยกิจการของครอบครัว" กิจการของครอบครัวเขาก็คือทำไร่ไถนา..
"วันหลังขอกุ๊กไก่ไปชมกิจการของครอบครัวคุณเสกสรรบ้างได้ไหมคะ"
"มันไม่น่าชมหรอกครับ" ในขณะที่พูดกับสาวอยู่สายตาของเขายังแอบมองเกมที่เอาแต่กดโทรศัพท์ เหมือนแชทคุยกับใครอยู่
15 : 45 น.
"คุณสั่งงานเยอะขนาดนี้ คงเสร็จไม่ทันตอนเย็นหรอกครับ" ตอนนี้ก็ใกล้เลิกงานแล้ว แต่เกมหัวหน้าแผนกถูกเรียกให้มารับงาน
"ถ้าเสร็จไม่ทันพวกคุณก็ทำงานล่วงเวลาไปสิ"
"แต่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอทำงานล่วงเวลาเลยนะครับ"
"เรื่องนั้นเดี๋ยวผมจัดการเอง"
เกมหอบงานออกมาจากห้องหัวหน้าฝ่ายแบบไม่ค่อยพอใจนัก เพราะวันนี้มีนัดดินเนอร์กับจั๊กจั่นด้วย แถมยังเป็นนัดแรกอีกต่างหาก
"มึงนึกยังไงถึงอยากจะติดรถกูกลับมาด้วย กูก็เลยต้องได้ลำบากไปส่งมึงที่คอนโดก่อน"
"ทำไมวะกูมากับมึงไม่ได้หรือไง"
"มาได้อยู่แล้ว แต่กูอยากจะกลับถึงบ้านเร็วๆ มึงเข้าใจข้าวใหม่ปลามันหน่อยสิวะ"
"ถ้างั้นมึงก็หาห้องที่บ้านมึงให้กูสักห้องแล้วกัน เดี๋ยวกูจะไปพักที่นั่น จะได้ไปกลับพร้อมกันไม่ต้องเสียเวลาไปส่งกูที่คอนโด" สายตาของเสกสรรมองผ่านกระจก เพื่อที่จะสบตาใครอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจที่จะมองมา ใช่แล้วจั๊กจั่นไม่ได้ทำงานล่วงเวลากับเพื่อน เพราะต้องรีบกลับพร้อมกับเหนือตะวัน แต่เธอก็ไม่คิดว่าเสกสรรจะกลับด้วยถ้าไม่งั้นเธอคงนั่งแท็กซี่กลับเองแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สยบรัก