ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 810

“แต่ถ้าหากว่าเธอยังสนใจคุณอยู่ ฉันจะยอมแพ้แต่โดยดี และฉันจะไม่หลอกตัวเองเกี่ยวกับเรื่องของคุณอีกต่อไป” ยูเลียนา ลินช์ พูดออกมาด้วยความเด็ดเดี่ยว

เกรเกอรี เกรแฮมพยักหน้ารับ

"ดี ขอให้คุณจดจำในสิ่งที่คุณพูดเอาไว้ด้วยนะ"

หลังจากพูดจบเขาก็ลุกขึ้นจากโซฟา

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะส่งคนไปสอนบางอย่างให้แก่คุณ ขอให้คุณเรียนรู้มันด้วยใจ เพราะมันจะเป็นประโยชน์มากเมื่อคุณได้ไปอยู่กับชิม่อน ฟลินเดอร์ ในอนาคต และคุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ อีก”

จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและเดินออกไป

ยูเลียนายังคงยืนอยู่ที่เดิม เธอมองตามการจากไปอย่างไร้ความปราณีของเขา มันจึงทำให้หัวใจของเธอยังคงรู้สึกหดหู่อยู่เล็กน้อย

แม้ว่าเธอได้สัญญาว่าจะทำแบบนั้น แต่เธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดระแวงอยู่บ้างเล็กน้อย

ทันใดนั้นเธอก็ถามว่า "เกรกอรีคะ! ฉันขอถามคุณอีกหนึ่งคำถามจะได้ไหม?"

เกรกอรีหยุดเดินทันที เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย และหันกลับมามองที่เธอ

"แค่ถามนะ"

ยูเลียนากลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลรินออกมาจากดวงตาของเธอ พลางเอ่ยถามเขาว่า “เมื่อคุณส่งฉันไปอยู่กับคุณฟลินเดอร์แล้ว คุณไม่กลัวว่าวันหนึ่งฉันจะทรยศหักหลังคุณเหรอ?”

เธอคิดว่าคำถามนี้จะทำให้ผู้ชายคนนั้นหันมาสนใจเธอบ้าง

แม้ว่าความห่วงใยของเธอจะเป็นได้เแค่พียงเบี้ยเดินเกมสำหรับเขาเท่านั้น ไม่ใช่ความห่วงใยในฐานะผู้ชายกับผู้หญิง

แต่ความจริงก็คือไม่

ไม่มีอะไรทั้งนั้น

แม้ว่าเธอจะเป็นเบี้ยเดินเกมในมือของเขา แต่เขาก็ไม่เคยสนใจ และไม่แยแสราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี

เขาพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “หากว่าคุณสามารถรักเขา และครอบครองหัวใจของเขาได้ แม้ว่าคุณจะทรยศผมก็ไม่เป็นไร เพราะนั่นถือว่าเป็นความสามารถของคุณ และมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย”

หลังจากที่เกรกอรีพูดจบ เขาก็เดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย

ยูเลียนายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นด้วยความมึนงง

เมื่อผ่านไปได้สักพัก เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดมันหมายถึงอะไร

มันหมายความว่าอย่างไร ที่ว่าถึงแม้ว่าเธอจะทรยศหักหลังเขาก็ไม่เป็นไร?

ในหัวใจของเขา เธอมันไม่มีตัวตนเลยเหรอ? เธอมันก็เป็นแค่คนไม่สำคัญอย่างนั้นเหรอ?

ยูเลียนารู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที เธอนั่งยอง ๆ ลงกับพื้น พลางยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วกรีดร้องออกมา

เธอไม่รู้ว่าเธอเป็นแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว

เมื่อเธอร้องไห้จนเบื่อแล้ว เธอก็ลุกขึ้นและเดินลากเท้าทีละก้าวอย่างช้า ๆ เพื่อออกไปข้างนอก

ในขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง

เนื่องจากตอนนี้มันก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว วิกกี้ โทมัสจึงโบกมือให้แอนเดรียปิดไฟ เพราะเธอกำลังจะเข้านอนแล้ว

ในขณะนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าต่าง

เธอเป็นใคร? เธอเป็นถึงนักฆ่ามือหนึ่งที่เก่งกาจเรื่องการได้ยิน และการมองเห็นที่ยอดเยี่ยม

แม้ว่าจะเป็นแค่เพียงเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เธอก็ยังได้ยิน เธอจึงลืมตาขึ้นในทันที ก่อนจะมองออกไปทางนอกหน้าต่าง และตะโกนว่า “นั่นใคร?”

เมื่อหน้าต่างถูกเปิดออก ก็มีร่างเงาร่างหนึ่งกระโดดเข้ามาพร้อมกับเสียงของการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว

หัวใจของวิกกี้บีบรัดตัวมากขึ้น และทันใดนั้นเอง เธอก็นึกถึงอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งก่อนของเธอขึ้นมา ดวงตาของเธอเย็นชาขึ้นมาทันที เธอเอื้อมมือไปจับลูกดอกที่อยู่ใต้หมอนโดยไม่รู้ตัว

เมื่อร่างเงานั้นกระโดดเข้ามาในห้อง มันก็มองไปรอบ ๆ อาจจะเป็นเพราะว่าดวงตาของมันยังไม่ได้ปรับให้เข้ากับความมืด ดังนั้นมันจึงไม่ได้ขยับตัวไปไหน

ในช่วงเวลานี้ วิกกี้ยกมือขึ้นก่อนจะปาลูกดอกออกไปสองสามครั้งอย่างเต็มแรง

อีกฝ่ายรู้สึกประหลาดใจ พลางหลบลูกดอกด้วยการพลิกตัวไปอีกด้าน

วิกกี้ตกใจมากเมื่อรู้ว่าคน ๆ นี้มีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม และเธอก็คงจะไม่สามารถต่อสู้กับเขาด้วยร่างกายที่พิการครึ่งหนึ่ง พร้อมกับอาการบาดเจ็บทั้งหมดได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็คือกรีดร้องขอความช่วยเหลือ

ในขณะนั้น ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะรู้ทันถึงความตั้งใจของเธอ มันจึงรีบกระโจนไปที่เตียงของเธอทันที

เธอตกใจอ้าปากค้าง ก่อนจะกัดเข้าไปที่มือของมัน ที่กำลังปิดปากของเธอเอาไว้ตามสัญชาตญาณ

วิกกี้มองเขาด้วยความเย็นชา ภายในห้องยังคงมืดมืดเนื่องจากไม่มีการเปิดไฟดวงใดเลย ดังนั้นเธอจึงมองไม่เห็นสีหน้าของผู้ชายคนนี้ แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าผู้ชายคนนี้จะต้องมีรอยยิ้มยียวนกวนประสาทอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างแน่นอน เมื่อรู้แบบนี้เธอจึงรู้สึกหมั่นไส้เขามากขึ้นไปอีก

เธอไม่มีอารมณ์ที่จะมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระพวกนี้ เธอจึงตะโกนออกมาว่า “บอกมาสิ นายมาที่นี่ทำไม?”

เกรกอรีเห็นว่าในที่สุดเธอก็กลับมาเข้าประเด็น และเลิกโวยวาย เขาจึงหัวเราะเบา ๆ ออกมา

“ฉันเห็นว่าเธอมาหาฉันเมื่อตอนเย็น เธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันเหรอ?”

วิกกี้หยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง

ใช่แล้ว ในตอนนั้นเธอจำเรื่องสำคัญบางเรื่องขึ้นมาได้ เธอจึงต้องการที่จะไปคุยกับเขา

ดังนั้นเธอจึงรีบไปหาเขาในทันที หลังจากที่เธอรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ไหน

เมื่อเธอไปถึงที่นั่น เธอก็เห็นฮาโรลด์ยืนอยู่ข้างนอกประตูห้องรับรอง เขาบอกกับเธอว่าเกรกอรีอยู่ข้างใน

อาจจะเป็นไปได้ว่าฮาโรลด์ได้รับคำสั่งมาว่าให้ปล่อยเธอไปได้ทุกที่ที่เธอต้องการ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ห้ามเธอเอาไว้ และต่อมาเธอก็ได้เห็นฉากที่พวกเขากำลังนัวเนียกัน

ทันทีที่เธอนึกภาพที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เชื้อเพลิงที่วิกกี้ได้พยายามระงับมันเอาไว้ด้วยความยากลำบากก็ได้ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

เธอพูดจาเยาะเย้ยออกมา

“มันมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ฉันคิดว่าเราควรจะลืมมันไปซะเถอะ เพราะดูนายไม่มีเวลาแม้กระทั้งจะดูแลผู้หญิงของนายเลยด้วยซ้ำ แล้วนายจะมีกระจิตกระใจฟังเรื่องที่ฉันกำลังจะบอกได้ยังไง สำหรับฉัน ฉันสามารถจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวของฉันเองได้ ฉันจะไม่รบกวนนายหรอก นายกลับไปได้ละ!"

หลังจากที่เธอพูดจบแล้ว เธอก็พลิกตัวไปด้านข้างหันหลังให้กับเขา

คำพูดเหล่านี้บ่งบอกถึงความเคียดแค้น

ถึงแม้เธอจะไม่ได้พูดออกมา แต่เกรกอรีก็ได้ยินเช่นนั้น

เขาเลิกคิ้วขึ้นและยังไม่ได้รีบกลับไป ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้าง ๆ เธอ แล้วบอกกับเธออย่างแผ่วเบาว่า “ก็ได้ ถ้าเธอไม่อยากบอกฉัน งั้นก็นอนเถอะ”

ลมหายใจของผู้ชายคนนั้นกำลังห่อหุ้มตัวเธอเอาไว้จากด้านหลัง ไม่นานหลังจากนั้น แขนที่แข็งแรงและทรงพลังของเขาก็โอบกอดไปที่เอวของเธอด้วยความอ่อนโยน

วิกกี้รู้สึกแค่เพียงว่าหัวของเธอกำลังจะระเบิดออกมา!

เธอกรีดร้องและหันหน้ากลับมา ก่อนจะพูดด้วยความโมโหว่า "เกรกอรี เกรแฮม! นี่นายกำลังทำอะไร?!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก