ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก นิยาย บท 904

แต่เกรกอรี เกรแฮม ก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร

เขาดื่มเบียร์เข้าไปอีกหนึ่งอึก และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นมาว่า "เธอจะไม่ตายง่าย ๆ หรอก"

ใช่แล้ว นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขามั่นใจ

อีกฝ่ายใช้ความพยายามอย่างมาก ให้สายลับของพวกเขาได้เข้ามาสอดแนมที่นี่ เพียงเพื่อแค่จะจับตัว วิกกี้ โทมัส ไปพวกเขาต้องเสียสละคนที่ซ่อนตัวไว้มาเป็นเวลานาน

คนที่พยายามจะจับตัวเธอมาได้ยาวนานขนาดนี้ จะไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องตายไปอย่างง่ายดายแน่นอน

นั้นเป็นเหตุผลที่เกรกอรี มีความอดทนที่จะค่อย ๆ โจมตีสมาคมจีน

เขารู้สึกสองจิตสองใจกับความคิดนั้น

ความคิดแรกคือถ้าวิกกี้ไม่ได้อยู่ในกำมือของสมาคมจีนจริง เขาจะยังคงสามารถหาที่อยู่ของเธอได้โดยการรวบรวมกองกำลัง เพื่อกำจัดสมาคมจีนและเปิดเผยผู้ทรยศคนนั้น

ความคิดที่สองก็คือ คนเหล่านั้นกำลังโกหก และวิกกี้ยังอยู่ในกำมือของพวกเขา

หรือมันอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะปล่อยตัวเธอ เพราะมีเรื่องใหญ่บางอย่างที่ตกลงกันไม่ได้

ถ้าเขาเดินหน้าเข้าไปในตอนนี้ เขาจะทำให้พวกเขาได้ลิ้มรสว่าการถูกต้อนให้จนมุมที่ไม่มีทางออกนั้น มันหมายความว่าอย่างไร สุดท้ายพวกเขาก็จะต้องยอมปล่อยเธอ

ทั้งสองทางเลือกนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ที่เขาสามารถทำได้ในขณะนี้

เนลล์ฟังเขาอธิบายเรื่องทั้งหมดนี้แล้วก็เงียบไป

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมเกรกอรีถึงได้ยืนกรานที่จะโจมตี และปฏิเสธที่จะประนีประนอมกับสมาคมจีนต่อไป

มันก็จริงที่เมื่อมาถึงจุดนี้ พวกเขาอาจจะอยู่ห่างจากตัววิกกี้แค่เพียงหนึ่งก้าวเท่านั้น หากพวกเขายอมสงบศึก อีกฝ่ายอาจจะพาเธอไปซ่อนไว้อีกก็เป็นได้

ในเวลานั้น แม้ว่าพวกเขาจะพลิกโลกทั้งใบเพื่อตามหาเธอก็ตาม มันก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะเจอ

ขณะที่เธอคิดเรื่องนี้อยู่นั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

แม้ว่าเนลล์จะไม่เคยเจอกับวิกกี้มาก่อน แต่ผู้หญิงที่สามารถทำให้ผู้ชายอย่างเกรกอรีตกหลุมรักได้อย่างสุดซึ้งนั้น จะต้องเป็นคนที่น่าสนใจมากแน่ ๆ

เนลล์หยิบขวดเบียร์ขึ้นมาจากพื้น แล้วยกขวดชนกับเกรกอรี

“ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น ฉันก็จะไม่ขอพูดอะไรอีก ฉันขออวยพรให้พรุ่งนี้มีแต่สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นกับคุณ!”

เกรกอรีมองมาที่เธอก่อนจะยิ้มจาง ๆ ที่มุมปาก เขายกขวดเบียร์ชนกับเธอ ก่อนจะดื่มมันเข้าไป

ทั้งสามคนนั่งอยู่ในสวนจนถึงเที่ยงคืนก่อนจะกลับห้องของตนเอง

คราวนี้เมื่อเนลล์และกิดเดียนได้ออกมา ทั้งคู่ไม่ได้บอกความจริงกับคุณปู่และคุณย่า

นั่นเป็นเพราะว่าพวกผู้ใหญ่ไม่ค่อยสบาย และกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นอยู่ ทั้งเนลล์และกิดเดียนจึงไม่อยากให้พวกเขารู้สึกกังวลมากจนเกินไป

ดังนั้นพวกเขาจึงบอกกับ คุณปู่และคุณย่าว่า พวกเขาจำเป็นต้องเดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศ จึงต้องฝากลูกไว้กับพวกเขาที่ลีย์เรสซิเด้นช์ โดยมีพี่เลี้ยงและคนรับใช้คอยดูแลพวกเขาด้วย เพื่อพวกผู้ใหญ่จะได้ไม่เหนื่อยมากเกินจนไป

พวกเขากลับมาถึงห้องก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว

หลังจากอาบน้ำเสร็จเนลล์ก็เดินตรงไปที่สวนเลย เธอจึงไม่ได้นำโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย

เมื่อเธอกลับมาที่ห้อง เธอก็พบว่ามีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาหลายสาย รวมทั้งข้อความอีกหลายข้อความ

เธอกดเข้าไปดูในแอป และเห็นว่ามันเป็นข้อความเสียงที่ถูกส่งมาจากลิซซี่

ลิซซี่ถามว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ และทำไมเธอถึงไม่โทรหาลิซซี่ในคืนนั้น แถมยังพูดว่าคิดถึงหรืออะไรสักอย่างอีกด้วย

เนลล์กดฟังข้อความเสียงอยู่หลายครั้ง เธอรู้สึกปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของเด็กน้อย

แต่ตอนนี้เธอเห็นว่ามันเป็นเวลาดึกมากแล้ว และพวกเด็ก ๆ ก็น่าจะเข้านอนกันแล้ว

เธอจึงไม่ได้ตอบกลับในทันที เพราะกลัวว่าจะเป็นการไปปลุกให้พวกเขาตื่น เธอคิดว่าเธอควรจะรอให้ถึงเช้าวันรุ่งขึ้นแล้วค่อยตอบกลับไป

ในทางกลับกัน กิดเดียนยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ขณะที่มองเห็นเธอกอดโทรศัพท์ของเธอเอาไว้ด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง

เช้าวันรุ่งขึ้น เนลล์โทรกลับไปหาลิซซี่

เธอคุยกับเด็กน้อยทั้งสองคนผ่านทางโทรศัพท์อยู่สักพัก และบอกให้พวกเขาเชื่อฟังคุณปู่คุณย่าของพวกเขาด้วย เธอยังสอนลิซซี่ทำการบ้านอีกสองสามข้อก่อนจะวางสายไป

ไม่จำเป็นต้องพูดก็รู้ว่า พวกเขาได้จ้างติวเตอร์ที่ดีที่สุดไว้ให้กับลูก ๆ ของพวกเขาแล้ว แต่ลิซซี่ก็ยังคงชอบทำการบ้านของเธอกับเนลล์มากกว่า

ลิซซี่บอกว่าเธอต้องการความช่วยเหลือในการทำการบ้าน แต่จริง ๆ แล้วเธอแค่คิดถึงแม่ของเธอเท่านั้น

ทั้งสองคนกอดกันแน่น ในขณะเดียวกันของอีกด้านหนึ่ง

เกรกอรีได้มาถึงสถานที่นัดหมายการเจรจากันแล้ว

สถานที่ที่ได้รับเลือกสำหรับการเจรจาสันติภาพ ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

มันไม่ใช่ที่อาณาเขตของเกรกอรี หรือว่าอาณาเขตของสมาคมจีน

หากเป็นเช่นนั้น ทั้งสองฝ่ายคงจะรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมาที่นี่ เพราะพวกเขาอาจจะกังวลว่าจะมีคนมาซุ่มโจมตีพวกเขาก็เป็นได้

ดังนั้นในท้ายที่สุด ที่นัดหมายจึงอยู่กึ่งกลางระหว่างดินแดนของพวกเขาทั้งสอง ที่นั้นก็คือโรงน้ำชาในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้

โรงน้ำชาแห่งนี้ ได้ถูกเคลียร์ผู้คนออกไปทั้งหมดแล้ว แม้แต่ในบริเวณใกล้เคียงก็ไม่มีฝูงชนเลยแม้แต่คนเดียว

หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายพบกันที่ปากทางเข้า พวกเขาก็เดินเข้าไปในโรงน้ำชาที่ชั้นบนด้วยกัน

ในคราวนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าบุคคลที่ถูกส่งมาจากสมาคมจีนคือ แดน ทินน์เพิล

โดยปกติเกรกอรีรู้จักกับแดน ทินน์เพิล เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว

เขาไม่เพียงแต่รู้จักอีกฝ่ายข้างเดียวเท่านั้น เพราะว่าแดน ทินน์เพิล ก็ยังรู้จักเขาดีด้วยเหมือนกัน

ในสงครามระหว่างองค์กรนกหงษ์หยก และกองทัพทหารมังกร พวกเขาทั้งคู่เป็นหัวหน้าของทั้งสององค์กร และต่อสู้กันเองมานับครั้งไม่ถ้วน

ในเวลานี้เมื่อศัตรูได้มาพบกัน ทั้งคู่จึงดูเกลียดชังกันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

แต่ทว่าพวกเขาต้องคำนึงเอาไว้ว่า พวกเขามาที่นี่เพื่อพูดคุยกันอย่างสันติ ดังนั้นพวกเขาทั้งสองจึงจำเป็นต้องฝืนยิ้มให้กันและกัน

เมื่อพวกเขาขึ้นมาถึงชั้นบน พวกเขาก็โบกมือให้กับคนอื่น ๆ เพื่อเป็นสัญญาณให้พวกเขาคอยเฝ้าประตูเอาไว้ จากนั้นแต่ละฝ่ายก็นำบอดี้การ์ดติดตามเข้ามาแค่เพียงสองคนเท่านั้น

ในครั้งนี้เกรกอรีไม่ได้พาฮาโรลด์มือขวาของเขามาด้วย แม้กระทั้งตลอดทั้งทางที่มาที่นี่ ก็ไม่เคยมีใครเห็นฮาโรลด์เลย

แน่นอนว่าแม้แต่คนที่รู้เรื่องนี้ ก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถามอะไร

แม้ว่าแดน ทินน์เพิล จะรู้ว่ามีคนแบบนี้อยู่ข้างกายของเกรกอรี แต่เขาก็ไม่เคยรู้ว่าฮาโรลด์ สำคัญต่อเกรกอรีมากแค่ไหน

ดังนั้นเขาจึงไม่รู้เลยว่ามันผิดปกติมากแค่ไหน ที่เกรกอรีไม่ได้พาฮาโรลด์มาด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก