ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน นิยาย บท 593

บทที่593 เฉินเกอมาขอร้องถึงที่

“ฉันเข้าใจแล้ว เรื่องของคุณมันสุดขีดขนาดนี้ นั่นเป็นเพราะว่า คุณไม่รู้ว่านั่นคือความรัก ชื่อเสียงที่พูดถึงกันพวกนั้น เป็นเพียงแค่ฟองสบู่ นั่นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา ต่อให้ได้รับมากกว่านี้ คุณเองก็จะไม่มีทางมีความสุข!”

“เพราะว่าภายในใจของคุณมันว่างเปล่า คุณเสียของที่คุณรักไปตลอด ส่วนสิ่งที่คุณแลกกลับมาก็คือชื่อเสียง แต่ไม่อาจจะมาเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ได้ คุณจะเจ็บปวด และจะเจ็บปวดต่อไป!”

ถึงแม้ฟางเจี่ยนนันจะไม่รู้ว่าหยุนฉิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวเองเป็นใครกันแน่ แต่ว่า นี่ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองใส่ใจ และชัดเจนด้วยว่า เธอนั้นแก่งกาจ เก่งแบบที่ไม่อาจเทียบได้ แต่ว่าเธอมีจุดอ่อนที่ถึงกับชีวิต

เธอน่าจะได้รับความเจ็บปวดมามากกับความรัก

ส่วนหยุนฉิงพอฟังจบ ก็จ้องฟางเจี่ยนนันด้วยความประหลาดใจ เธออยากจะฆ่าฟางเจี่ยนนัน ทำให้ท่าทางน่าเกลียดของฟางเจี่ยนนันตอนใกล้จะตายแสดงออกมา

แต่ว่าเธอผิดไปแล้ว ฟางเจี่ยนนันไม่ได้คร่ำครวญ ทำให้หยุนฉิงคิดว่าตัวเองก็คือผู้แพ้

ราวกับว่าเธอชนะตัวเองแล้ว

“แกฉลาดมาก คำพูดพวกนี้ โดนใจฉันเข้าเต็มๆ! ฉันจะเล่าเรื่องๆหนึ่งให้แกฟัง แกบอกฉันหน่อยผู้หญิงทั้งสองคนในเรื่องนี้ ตกลงว่าใครผิดใครถูก! ถ้าแกว่าแกสามารถพูดให้กระจ่างได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไป!”

หยุนฉิงนั่งลงข้างๆ ในที่สุดบนใบหน้าของเธอก็มีการขยับ

ฟางเจี่ยนนันก็แค่มองเธอ

“พวกเธอ เป็นพี่สาวน้องสาวฝาแฝด แต่ว่า แตกต่างไปจากพี่น้องฝาแฝดในความหมายของพวกเธอ พวกเธอทั้งสองคนหน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ พี่สาวชื่อชิงเยียน น้องสาวชื่อจื่อเยียน พี่น้องทั้งสองคนสนิทกันมากตั้งแต่ยังเด็ก สุขก็สุขไปด้วยกัน ทุกข์ก็ทุกข์ไปด้วยกัน!”

จนถึงตอนที่ทั้งสองคนอายุสิบหกปี พวกเธอทั้งสองคนได้พบกับชายคนหนึ่ง

เขาเป็นผู้ชายที่โดดเด่นมากๆ แล้วก็ขยัน เป็นอัจฉริยะหนุ่มในตอนนั้น เป็นวีรบุรุษ

ทั้งสองพี่น้อง หลงรักเขาเข้าให้ในเวลาเดียวกัน

เพียงแต่ว่า ก็เป็นอย่างที่แกพูดกันว่าความรัก เพียงแต่ว่าหลังจากนั้นถึงจะได้รู้ ตอนแรกเริ่ม อัจฉริยะหนุ่มท่านนี้ ในใจก็คือพี่สาวชิงเยียน

ในตอนนั้น ทั้งสามคนความสัมพันธ์ดีมาก ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน แล้วก็ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน เป็นช่วงเวลาที่งดงามมาก

แต่ว่าชิงเยียนกลับไม่พอใจ เธออยากจะให้มันเป็นแบบนี้ไปตลอด มีทุกอย่างในตอนนี้ สำคัญคืออยากจะครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

แต่เธอคิดว่า น้องสาวของตัวเอง ต่อไปอาจจะเป็นผู้ร้ายที่ทำลายทุกอย่างในตอนนี้

เพราะว่าตั้งแต่เล็ก ทั้งสองพี่น้องจะโดนเอามาเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ น้องสาวทั้งฉลาดและมีไหวพริบ เป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ส่วนพี่สาวไม่เคยมีใครชมเชย

ตอนแรกๆก็คิดว่าไม่มีอะไร

แต่ว่าตั้งแต่มีเขาขึ้นมา เธอถึงได้เริ่มใส่ใจ น้องสาวเก่งกว่าตัวเอง มักจะที่ให้ผู้คนความดีของเธอได้มากกว่า

ดังนั้น ชิงเยียนก็เริ่มตีห่างจากน้องสาว

จนถึงในตอนหลัง ก็เริ่มเป็นคู่แข่งกับเธอ

จื่อเยียนคอยเอาแต่ยอมให้พี่สาวคนนี้ของเธอตลอด

แต่ว่ายิ่งยอม แสงบนตัวของเธอก็ยิ่งสว่างขึ้น

ดังนั้นชิงเยียนก็เลยอยากจะเอาแสงสว่างพวกนั้นมาไว้บนตัวของตัวเอง

เธอพยายามฝึกฝน พยายามจะต่อสู้เพื่อทุกอย่าง และไม่เลือกวิธี

จนถึงท้ายที่สุด เธอก็โดนชื่อเสียงกลืนกิน

หลงในตัวเอง แล้วลืมความตั้งใจในตอนแรก

ในตอนนั้นเกิดเรื่องๆหนึ่งขึ้น ชิงเยียนทำเกินไปหน่อย ทุกๆคนมองว่าเธอคือศัตรู กับน้องสาวก็ยิ่งแตกหัก จนถึงในที่สุด เขาที่เธอรักมากๆมาโดยตลอดก็มองว่าเธอคือศัตรู

ในวินาทีนั้นชิงเยียนสูญเสียทุกอย่าง

ตัวของเธอโดนปกคลุมไปด้วยแรงโกรธและแรงแค้น

ไปจนถึงหลังจากนั้น ชิงเยียนได้สูญเสียเขาไปแล้วจริงๆ เพราะว่าเขาได้ฝ่าฟันความทุกข์ยากกับจื่อเยียนอยู่หลายปี ทั้งสองมีความรู้สึกดีๆให้กันอย่างลึกซึ้ง

ในตอนนั้น ชิงเยียนโดนไฟริษยาทดสอบอย่างจริงจัง

เริ่มต่อสู้กับน้องสาวจื่อเยียน การต่อสู้ในครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ยาวนาน แรงโกรธของทั้งสองคน ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่ใช่แกตาย ฉันก็ต้องตาย!

ความจริงชิงเยียนก็ยังมีโอกาส

ถ้าเกิดว่าครั้งนั้นเธอยอมทิ้งชื่อเสียงและผลประโยชน์ทุกอย่างเพื่อไปช่วยเขา ไม่แน่ว่าอาจจะพอทุเลาได้บ้าง

แต่ว่า ในตอนที่สำคัญที่สุด ชิงเยียนลังเล

ตอนที่ลำบากคือตอนที่สำคัญ คนที่ไปอยู่ข้างๆตัวเขา คนที่ต่อสู้ไม่ดูตัวเองคือจื่อเยียน

ชิงเยียนแพ้ แพ้อย่างราบคาบ

เธอไม่ยอม ไม่มีวันยอม เธอไม่มีวันยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่าจื่อเยียน ไม่มีทาง.....

พูดถึงจุดนี้ ดวงตาของหยุนฉิงก็แดง

“ฉันรู้ว่าเขาต้องมา!”

หยุนฉิงมองไปทางฟางเจี่ยนนัน “ใครก็ได้มานี่หน่อย มาพาคุณหนูฟางลงไปข้างล่าง พาไปที่ห้องรับใช้ ถ้าไม่มีคำสั่งของฉัน คุณหนูฟางก็ห้ามออกไปจากห้องแม้แต่ครึ่งก้าว!”

เธอสั่งเอาไว้หนึ่งประโยค จากนั้นก็เอามือไพล่หลังไว้แล้วเดินออกไปด้านนอก

ส่วนที่ห้องรับแขกด้านนอก ประโยคเดียวของหยุนฉิง พวกหยุนหลินก็รีบออกไปทำให้มีพื้นที่ว่างในทันที

เฉินเกอกำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก

พอมองเห็นหยุนฉิง เฉินเกอก็ลุกขึ้นยืน

“คุณหนูหยุนฉิง ผมไม่รู้ว่าพวกเราเคยมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ว่าเรื่องๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพื่อนผม ยังไงก็ขอให้คุณปล่อยเพื่อนของผมด้วย!”

เฉินเกอถามขึ้น

“พี่มา เพื่อที่จะให้ฉันปล่อยเพื่อนพี่?”

ส่วนใบหน้าที่เคยดีใจของหยุนฉิง อยู่ๆก็โดนหิมะเย็นจัดถมกลบ

คำพูดที่พูดออกมา ยิ่งทำให้อากาศในห้องดูกดดันมากกว่าเดิม

“ใช่!”

เฉินเกอบอก

หยุนฉิงมองเขาอย่างเย็นชา

“ผมคิดว่าผมพอจะเดาสถานะของคุณออกแล้ว ผมไม่รู้ว่าคุณกับพี่สาวชุดขาวคนนั้นมีความสัมพันธ์อะไรกัน แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าคุณกับท่านพี่เทพมีบุญคุณความแค้นอะไรกัน สรุปก็คือ ถึงแม้ว่าผมจะหน้าตาเหมือนกับเขา แต่ว่าผมไม่ใช่เขา และผมเองก็ไม่มีทางจะไปรักผู้หญิงชุดขาวคนนั้น คนที่ผมรักมากที่สุด มีเพียงคนเดียว ที่จริงพวกเรา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดึงดันอะไรกัน!”

เฉินเกอลุกขึ้นยืนแล้วมองเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน

เพราะว่าเฉินเกอได้ลองพิจารณาโดยละเอียดดูแล้ว คนที่ไปร่วมงานศพบนเกาะโม่เต่าเคยมีคนสลักเอาไว้บนป้ายหลุมศพ มีผู้หญิงที่เหมือนกับผู้หญิงชุดขาวราวกับแกะปรากฏตัวขึ้น แต่ไม่ใช่ผู้หญิงชุดขาว

คนแปดคนบนเกาะ กลับโดนเธอฆ่าอย่างน่าสงสาร

ดังนั้นเฉินเกอสงสัย ที่โดนตัวเองช่วยออกมา จะเป็นผู้หญิงในคืนนั้นหรือไม่ ดูพลังของหยุนฉิงในตอนนี้ เหมือนกับที่อธิบายไว้ไม่มีผิด

“พี่อยากจะหลอกฉัน?”

แต่หยุนฉิงกลับไม่เชื่อ แถมยังตรงกันข้าม คำอธิบายของเฉินเกอ ทำให้หยุนฉิงโมโห.....

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน