บทที่719 ถ้ายังมีชีวิตอยู่
เกรงว่าคงจะไม่มีใครคิดได้ว่าเขาคนนี้เคยเป็นชายหนุ่มยากแค้นที่จู่ ๆ ก็กลายเป็นคุณชายเฉินผู้ยิ่งใหญ่ แม้แต่ประธานหลี่ หลี่เจิ้นกั๋วยังต้องคุกเข่าลงเมื่อเจอเขา พระเจ้า!
เฉินเกอจากไปท่ามกลางสายตาที่หวาดกลัวของพวกเธอ
ตอนนี้คนพวกนี้กลัวจนไม่กล้าสบตาเฉินเกอ
ในห้องหนังสือ
“คุณชายเฉิน คุณไม่เป็นไร มันดีมากจริง ๆ เดิมทีพวกเราคิดว่า...”
หลี่เจิ้นกั๋วตาแดงก่ำและพูดขึ้น
“คิดว่าจะเกิดเรื่องกับผมด้วยใช่ไหม?”
เฉินเกอพูดขึ้น “เจิ้นกั๋ว ช่วงนี้มันเกิดอะไรขึ้น ผมได้ยินมาว่าพวกคุณโยกย้ายทรัพย์สินบริษัท?”
“ใช่ครับคุณชายเฉิน คุณดูสิ่งนี้ก่อน!”
หลี่เจิ้นกั๋วพยักหน้าจากนั้นหยิบมันออกมาจากกระเป๋าเอกสารด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เป็นสิ่งชิ้นหนึ่งของห่อไว้ด้วยผ้าสีเหลือง
เฉินเกอรับมันมาและเปิดออกดู ตาของเขากะพริบถี่อย่างช่วยไม่ได้
ป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์!
นี่ไม่ใช่ป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่องค์กรลึกลับออกให้ทุกคนหรืออาจจะเป็นไท่หยางเหมิงก็ได้?
และชิ้นนี้ เฉินเกอจำได้ว่าเป็นของปู่ของเขา
ตอนนี้เกิดเรื่องกับปู่ของเขาระหว่างทางไปงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นตายร้ายดียังไม่แน่ชัด ป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของเขามาอยู่ที่นี่ มันช่วยไม่ได้ที่จะทำให้ใจของเฉินเกอต้องบีบรัดแน่น
“เจิ้นกั๋ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”
เฉินเกอรีบถามขึ้น
“คุณชายเฉิน เรื่องนี้คงต้องเล่าย้อนไปเมื่อหลายวันก่อน!”
หลี่เจิ้นกั๋วอธิบายให้เฉินเกอฟัง
ที่แท้...
หลายวันก่อน ประธานหยาง หยางเสี่ยวเป้ย ซีอีโอของเขตเศรษฐกิจหัวเสหัวเซี่ย เกิดได้รับคำสั่งจากตระกูลเฉินอย่างกะทันหัน ให้เธอไปหนานหยาง งานของทางเขตหัวเซี่ย จึงแน่นอนว่าได้มอบหมายให้หลี่เจิ้นกั๋วและจงหวูแหยนดูแลแทน
ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ
แต่ผ่านไปไม่กี่วัน จู่ ๆ หลี่เจิ้นกั๋วก็ได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง
แถมเป็นสายของคุณนายน้อยฉินหลานโทรมาด้วยตัวเอง
สามารถฟังออกได้ว่าคุณนายน้อยมีความร้อนรนเล็กน้อย ยิ่งกว่านั้นยังบอกกับหลี่เจิ้นกั๋วเป็นคำสั่งง่าย ๆ แล้วก็รีบวางสายไป
ยิ่งกว่านั้น ในตอนนั้นมันทำให้หลี่เจิ้นกั๋วรู้สึกว่ามันแปลกประหลาด
เพราะคุณนายน้อยบอกว่าเกิดเรื่องกับตระกูลเฉิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยากจะรับมือ ตอนนี้ให้คุณใช้ชื่อของฉันเริ่มโยกย้ายทรัพย์สินของเขตหัวเซี่ยทั้งหมดเข้าไปอยู่ในภายใต้ชื่อของพวกคุณ ต้องรีบย้ายในแต่ละเขตเศรษฐกิจทั่วโลกพร้อมกัน!
ต้องรีบ จะต้องรีบทำ!
สุดท้ายคุณนายน้อยได้ย้ำถึงสามรอบแล้วก็วางสายไป
ดังนั้น จึงได้เกิดเหตุการณ์ที่หลี่เหวินรู้สึกว่าทั้งสองคนแอบทำโยกย้ายทรัพย์สิน
คุณนายน้อยพูดจาด้วยท่าทีร้อนรนเป็นอย่างมาก แต่หลี่เจิ้นกั๋วก็ไม่กล้าที่จะรอช้าเพราะเขารู้ว่าจะต้องมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ตนเองจึงไม่สามารถรอช้าได้อีก
เขาจึงรีบไปทำเรื่อง
ถ้าหากเป็นเพียงแค่นี้ ก็คงจะไม่ทำให้หลี่เจิ้นกั๋วตื่นตระหนกมากนัก
แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลี่เจิ้นกั๋วก็ได้รับข้อความจากคุณนายน้อยอีก
บอกกับหลี่เจิ้นกั๋ว
“ตระกูลเฉินจบแล้ว ตอนนี้ฉันอาจจะเจอกับอันตรายได้ทุกเมื่อ ไม่รู้ว่าเสี่ยวเกอจะเป็นอะไรรึเปล่า ฉันฝากของให้คุณหนึ่งอย่าง ให้คุณเก็บไว้ให้ดี จากนั้นแอบสืบว่าเสี่ยวเกออยู่ที่ไหน แล้วมอบของชิ้นนี้ให้ถึงมือเขา เบาะแสทั้งหมดอยู่ในนี้แล้ว!
ฉินหลานกล่าว
อย่างรวดเร็วเมื่อคืนนี้ เมื่อหลี่เจิ้นกั๋วตื่นขึ้นก็พบกับป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้วางอยู่ที่หัวเตียงของเขา
กระบวนการทั้งหมดลึกลับมาก
ทำให้หลี่เจิ้นกั๋วเริ่มตื่นตระหนกเช่นกัน
ในระหว่างที่เป็นกังวลอยู่นั้น จู่ ๆ กลับได้รับโทรศัพท์ของเฉินเกอ เขาทั้งตกใจและดีใจ!
จึงรีบนำสิ่งของนี้ส่งให้เฉินเกอเป็นอย่างแรก
“คุณบอกว่า พี่หลานบอกว่าเธอตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ เธอบอกอะไรอีกไหม?”
เฉินเกอขมวดคิ้วและใช้ความคิด
“ที่เหลือไม่มีแล้ว มีเพียงแค่นี้ครับ!”
หลังจากมอบหมายงานให้กับหลี่เจิ้นกั๋วแล้ว เฉินเกอเลือกที่จะไม่อยู่ต่อ
ถึงแม้ว่าเฮาหลานลัน เพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยจะมีเส้นทางที่ไม่ค่อยราบรื่นหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย เห็นว่าเงินเดือนที่วิลล่าสปานั้นสูง จึงได้เลือกทำงานเป็นพนักงานต้อนรับอยู่ที่นี่
เฉินเกอมอบหมายให้หลี่เจิ้นกั๋วดูแลเธอเป็นพิเศษ แล้วจึงออกไปทันที
เมื่อกลับมาถึงวิลล่า
เฉินเกอก็นำเบาะแสนี้เล่าให้ลุงสอง ฟังทันที
“ป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ อะล๋านให้ความสำคัญกับป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ของคุณพ่อขนาดนี้ อาคิดว่าอะล๋านคงรู้อะไรบางอย่าง ยิ่งกว่านั้นตอนนี้เธอน่าจะแอบซ่อนตัวอยู่ ก็ไม่รู้ว่าเธอจะพบเจออันตรายรึเปล่า! ถ้าไม่อย่างนั้น พวกเราเจอตัวอะล๋าน เรื่องบางอย่างก็อาจจะพอมีเงื่อนงำปรากฏบ้าง!”
เฉินผิงอันพูดขึ้น
“ดังนั้นตอนนี้ เสี่ยวเกอเธอจะต้องติดตามเรื่องฟื้นฟูพลังพื้นฐาน แล้ว ยิ่งฟื้นฟูได้เร็ว พวกเราก็ยิ่งมีอำนาจการริเริ่มเร็วขึ้นอีก!”
เฉินผิงอันพูดขึ้น
“ลุงสองครับผมเข้าใจแล้ว!”
“ป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้ อาจจะช่วยเธอตามหาเบาะแส ตอนนี้เธอกลับมาแล้ว ไปช่วยแม่นางจื่อเยียนขัดเกลาหินโชคชะตาและฟื้นฟูพลังพื้นฐานเถอะ!”
เฉินผิงอันสั่ง
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
“เดี๋ยวก่อนเสี่ยวเกอ!”
ตอนนี้เฉินผิงอันถือป้ายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยน้ำเสียงฟังดูสับสนเล็กน้อย
“อะไรครับลุงสอง?”
“ถ้าหาก ฉันพูดว่าถ้าหาก ถ้าหากว่าปู่ของเธอยังอยู่บนโลกนี้ เธอจะทำยังไง?”
เฉินผิงอันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรในเวลานี้
เฉินเกอฝืนหัวเราะแล้วพูด: “ลุงสองครับ ถ้าหากว่าปู่ยังอยู่บนโลก ผมคงดีใจมาก ยิ่งกว่านั้นตอนที่หาเขาพบนะ! จากนั้นมีทั้งคุณปู่ มีคุณ และมีผม พวกเราสามรุ่นคงสามารถช่วยเหลือครอบครัวได้ ให้ทุกอยู่พร้อมหน้า!”
“เสี่ยวเกอ เธอคงยังไม่ได้ฟังคำพูดของฉันให้ชัดเจน! ฉันบอกว่าคนที่เข้าร่วมงานนัดหมายน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดคือคนที่ตายแล้ว เธอคงไม่เคยคิดว่าทำไมปู่ของเธอยังอยู่หรอกนะ?”
“ลุงสอง พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงครับ?”
เฉินเกอสงสัย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน
เรื่องนี้มีอัพต่อไหมครับ...
เอาข้อศอกแปลเหรอครับมั่วไปหมดแทนนามหญิงเป็นคำว่าผมเฉย...
กูงงกับการเขียนบทให้พระเอก,รวยมีเงิน,มีรถมีทุกอย่างแล้วก่อยังเขียนให้ดูโง่โดนดูถูกตลอดเวลา,คนเขียนบทมีปมปะเนี่ย...
555เขียนบทให้ตัวเอกโง่ดีครับ...
แล้วจะเขียนบทให้ตัวเอกโง่ไปถึงไหนละครับ...
เขียนแบบทำให้ตัวพระเอกโดนดูถูกมากไปหน่อยอ่านแล้วรำคาญ...
รออัพเดท เรื่องนี้จะมีการอัพเดทอีกไหมค่ะ...