ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง นิยาย บท 25

มณีอินปิดประตูลงและปล่อยน้ำตาไหลลงมาอีกครั้ง หญิงสาวทรุดนั่งลงหน้ากระจกเงาที่สะท้อนภาพสาวเจ้าน้ำตาออกมา

“อย่าร้องไห้ซิมณีอิน” หญิงสาวบอกกับเงาในกระจก

“เขาไม่ได้สนใจเธอแม้แต่น้อยแล้วเธอจะไปสนใจเขาทำไม ไปสนใจเขาทำไม” ทั้งที่สั่งตัวเองไม่ให้ร้องแต่กลับร้องหนักขึ้น หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้จนมีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“หนูอินจ้ะ นอนหรือยังจ้ะ” หญิงสาวรีบปาดน้ำตาออกและมองตัวเองในกระจกเพื่อสำรวจตนเองให้เรียบร้อย

“ยังไม่นอนเลยค่ะ รอเดี๋ยวนะคะคุณซาฮา” หญิงสาวบอกและเดินมาเปิดประตูให้ผู้เสียงวัยกว่า ซาฮายิ้มให้อย่างอ่อนโยนและเดินเข้ามาในห้องของเธอ มณีอินยกเก้าอี้มาให้เธอนั่งและตัวเองก็นั่งลงกับพื้น

“ทำไมลงไปนั่งกับพื้นแบบนั้น”

“นั่งแบบนี้ถูกแล้วค่ะ อินเป็นผู้น้อยนั่งเสมอผู้ใหญ่มันไม่ดีค่ะ” หญิงสาวบอก

“ตาแดงๆร้องไห้หรือเปล่าหรือเสียใจที่ไม่ได้ลงไปร่วมงานกับคนอื่น” ซาฮาถาม มณีอินเงยหน้ามองและยิ้ม

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ อินคิดถึงแม่ที่บ้านนะคะอายุของท่านกับคุณแม่ของอินคงใกล้เคียงกัน อินเห็นท่านแล้วก็อดที่จะคิดถึงไม่ได้นะคะ” หญิงสาวเลี่ยงตอบอย่างสุภาพ

“แล้วไปนึกว่าเสียดายงานเลี้ยงแบบนั้น”

“แล้วทำไมคุณท่านไม่ลงไปร่วมงานกับเขาล่ะคะ” หญิงสาวถามขึ้นมาบ้าง

“ฉันไม่ชอบงานเลี้ยงแบบนี้หรอกมันดูวุ่นวายน่ะ” ผู้สูงวัยตอบ

“อินก็เหมือนกันค่ะ”

“หนูอินมีอะไรไม่สบายใจบอกป้าได้นะลูก ป้ายินดีรับฟัง” ซาฮาลูบหัวหญิงสาวเบาๆด้วยความรัก

“มาอยู่ที่นี่เอง”เสียงที่ดังมาจากทางประตูทำให้หญิงต่างวัยหันไปมองพร้อมกัน

“อูลดาน้องพี่” ซาฮาอุทานอย่างดีใจ อูลดาเข้ามากอดพี่สาวและก้มลงมองหญิงสาวที่นั่งพับเพียบด้านล่าง

“หนูอินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน” อูลดาถามอย่าสงสัย

“รู้จักกันด้วยหรือ”ซาฮาถามขึ้นบ้าง

“รู้ซิครับก็เธอเป็นน้องสาวของคนที่บอกยกเลิกงานหมั้นกับจามาลเมื่อเดือนที่แล้วไงครับพี่ แล้วเธอมาทำอะไรที่นี่” อูลดาถามพี่สาว

“จามาลจ้างมาทำสารคดีเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและงานในเครือข่ายของบริษัทเรา” พี่สาวตอบและมองหน้าน้องชายอย่างสงสัยอะไรกันบางอย่าง

“เดี๋ยวผมเล่าให้พี่ฟังทีหลังนะครับตอนนี้ผมขอไปหาลูกสาวผมก่อน”

“แล้วทำไมถึงมาเอาตอนนี้” พี่สาวถาม

“ผมติดต่อธุรกิจที่นั้นด้วยนะครับพอดีเป็นช่วงที่วุ่นวายนิดหน่อยทางเขาก็เลยมีปัญหาผมก็เลยต้องอยู่ช่วยเคลียร์ให้นะครับ” อูลดาบอกและลุกเดินลงไปที่งานเลี้ยงด้านล่าง

“ฉันไปนอนก่อนดีกว่าคืนนี้คงยาวแน่ๆทั้งพ่อทั้งลูกได้เจอหน้ากันคงนอนไม่หลับกันแน่ หนูอินก็เข้านอนเถอะดึกแล้ว”

“ค่ะ” หญิงสาวเดินไปส่งผู้อาวุโสที่ห้องนอนและเดินกลับมาที่ห้องของตนเองและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอน หญิงสาวนอนพลิกตัวไปมาเสียงที่ชายหนุ่มพูด ‘ผมไม่สนใจหญิงชาวต่างชาติหรอก’ ดังอยู่ในโสตประสาทของเธอตลอดเวลา

ยามีนะมองชายวัยกลางคนที่เดินลงมาจากตัวคฤหาสน์ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาและกอดเอาไว้อย่างดีใจท่ามกลางสายตาของแขกที่มาร่วมงาน

“แปลกใจไหมลูก พ่อขอโทษด้วยที่มาช้ามีเหตุขัดข้องบางประการนะจ้ะ” ผู้เป็นบิดาบอดและกอดตอบลูกสาวคนเดียวเอาไว้อย่างหวงแหน

“คิดถึงคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ”สาวน้อยเงยหน้ามองบิดายิ้มทั้งน้ำตาแห่งความดีใจ อูลดาก้มลงจูบที่หน้าผากลูกสาวอย่างแผ่วเบา

“พ่อก็คิดถึงลูก คิดถึงทุกลมหายใจ พ่อดีใจมากตอนที่จามาลโทรไปบอกแต่ก็จนใจติดธุระจริงๆ”

“ไม่เป็นไรค่ะหนูเข้าใจ” สาวน้อยบอกและประคองบิดาไปนั่งที่โต๊ะของตนเองซึ่งมีจามาลและฟีน่านั่งอยู่

“สบายดีหรือพ่อลูกชาย เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ” ชายหนุ่มยิ้มและพยักหน้า

“ครับ”

“ได้เอาไว้เล่าพรุ่งนี้นะ” อูลดาบอกและเริ่มทานอาหารที่ลูกสาวตักมาให้และฟังเรื่องราวความมีน้ำใจของมณีอินจากลูกสาวจนเขานึกอยากจะชกลูกชายตัวดีของเขาเสียจริงๆ

Iมณีอินเดินผ่านมาทางห้องสมุดของบ้านเพื่อจะไปที่ห้องนั่งเล่นโทรศัพท์หาเจ้านาย หญิงสาวเห็นหลังของจามาลเดินหายเข้าไปในห้องสมุดแต่ฝ่ายชายไม่เห็นเธอ

“ผู้ชายไม่มีหัวใจ” มณีอินกำลังจะเดินผ่านไปก็ต้องชะลอเท้าเมื่อได้ยินชื่อของเธอถูกเอ่ยขึ้นในห้องสมุดแห่งนั้น

“ว่าไงจามาลแกบอกพ่อได้หรือยังว่าเพราะอะไรถึงต้องเจาะจงเป็นหนูอินที่จะมาทำงานนี้” อูลดานั่งมองลูกชายอย่างสงบ

“ไม่มีอะไรนี่ครับผมบอกแล้วว่าชอบผลงานของเธอ” ชายหนุ่มตอบ

“แกคิดว่าพ่อโง่หรือไงที่รู้ไม่ทันแก” ชายสูงวัยเริ่มเสียงแข็ง

“อย่าเพิ่งโมโหซิครับผมบอกก็ได้ว่าผมต้องการแก้แค้นเธอที่ทำให้ผมอายและถูกปฏิเสธจากผู้หญิง ผมเกลียดเธอ” ชายหนุ่มบอก เข่าของหญิงสาวแทบทานร่างกายเอาไว้ไม่ทัน มณีอินถอยหลังออกมาและหันหลังวิ่งกลับขึ้นห้องไปทำให้สาวใช้ที่เดินสวนทางมามองหน้ากันอย่างงงๆ

“คุณอินเป็นอะไรไปหรือว่าไม่สบาย” สาวหนึ่งเอ่ยขึ้นและพากันเดินต่อไป

ภายในห้องสมุดอารมณ์ทั้งพ่อและลูกก็กำลังคุกรุ่น

“แกมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย” ผู้เป็นพ่อสบถเสียงดัง

“ฟังผมให้จบก่อนซิครับ เมื่อก่อนผมคิดแบบนั้นแต่เดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว”ชายหนุ่มบอกก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ

“ตอนนี้ผมยอมรับกับพ่อตรงๆเลยว่าผมชอบเธอเข้าให้แล้วแต่ดูว่าเธอจะเกลียดขี้หน้าผมมากกว่านะครับ” ชายหนุ่มบอกกับบิดาเพราะทุกครั้งที่เจอหน้ากันหญิงสาวจะพยายามหลบหน้าเขาทุกครั้ง

“แกกำลังจะบอกฉันหรือว่าแกหลงรักหนูอินเข้าให้แล้ว” อูลดาเดินตรงเข้ามาหาบุตรชาย

“ผมยังไม่แน่ใจ”

“งั้นแกก็รีบๆแน่ใจเข้านะก่อนที่จะมีมือดีมาคว้าเอาไปครองเสียก่อน” เขาตบไหล่ลูกชายเบาๆและเดินออกมา เขาดีใจที่สิ่งที่เขาคิดเอาไว้มันกำลังจะเป็นจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง