พ่อค้าหันไปสั่งเด็กหนุ่มอีกคนให้มาดูหน้าร้านแทนตนเองก่อนจะเดินนำพวกของมณีอินและหนุ่มต่างชาติทั้งสองเข้าไปที่หลังร้าน มณีอินสนใจงานฝีมือแบบนี้มากและเธอก็รู้แล้วว่าจะนำเสนองานแบบนี้ในรูปแบบไหนดี หญิงสาวยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปจนพอใจ เช่นเดียวกับหนุ่มต่างชาติทั้งสองที่เห็นขั้นตอนที่ยุ่งยากแล้วก็ถึงกับอ้าปากค้างและเลือกซื้อสินค้ากันอย่างสนุกสนานโดยไม่ต่อราคาอีกเลย มณีอินยืนมองอย่างพอใจ
“คุณอินนี่เก่งนะครับเข้าใจโน้มน้าวใจคนดูซิเลือกลายกันน่าสนุกเชียว ผมขอตัวไปดูซักผืนสองผืนนะครับจะเอาไปฝากแฟน” ชายหนุ่มยิ้มเขินๆก่อนจะเข้าไปสมทบกับสองหนุ่ม หญิงสาวมองไปรอบๆและสะดุดตาเข้ากับผ้าลายหนึ่งเข้าผืนสีของผ้าเป็นสีเขียวปีกทับทิมและเดินลวดลายของผ้าด้วยสีแดงและขาวมองดูแล้วสบายตา
“ผ้าผืนนี้ราคาเท่าไรคะ” หญิงสาวหยิบผ้าขึ้นมาและร้องถามพ่อค้า
“ผมไม่ขายครับ” พ่อค้าตอบก่อนจะยิ้ม
“ผมให้คุณฟรีๆเลยครับเพื่อเป็นการตอบแทน”
“ไม่ได้นะคะ ของซื้อของขายจะยกให้กันฟรีๆ ได้ยังไงคะ ถ้าไม่ขายดิฉันก็ไม่เอาค่ะ” หญิงสาววางผ้าลงที่เดิม พ่อค้าจึงรีบบอกราคาแต่ก็เป็นราคาที่ถูกมาก หญิงสาวยิ้มและส่งเงินให้กับเขา และเมื่อได้ของกันตามต้องการแล้วก็พากันเดินต่อไป กล้องในมือของหญิงสาวถูกยกขึ้นทุกครั้งที่เดินผ่านร้านค้าต่างๆ ถ้าจะนำเสนออะไรที่น่าสนใจก็ควรจะมาจากความเป็นจริง
ชายหนุ่มพาหญิงสาวทั้งสองมาถึงจุดหมายปลายทางจนได้ ที่นี่คือวิหารเก่าแก่ที่ชาวบ้านนับถือกันมานานและมีเรื่องเล่าสืบทอดกันมาหลายสมัย หญิงสาวเก็บรูปภาพไปเรื่อยๆ ส่วนนพมาศก็เข้าไปสืบถามข้อมูลจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ วิหาร
เมื่อได้ข้อมูลพอสมควรแล้วจึงได้เดินทางกลับคฤหาสน์หลังงาม ด้วยความอ่อนเพลียหญิงสาวจึงเผลอหลับไป จนมีเสียงเคาะประตูเธอจึงสะดุ้งตื่น
“คุณคะ คุณลงไปทานข้าวได้แล้วค่ะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนอย่างงัวเงียและตรงไปที่ประตู
“ฉันขอโทษนะพอดีเผลอหลับไปนะจ้ะ” สาวใช้หน้าตาน่ารักยิ้มให้เธอ
“ให้ฉันช่วยแต่งตัวไหมคะ” เด็กสาวถาม
“ไม่ต้องหรอกจ้ะฉันแต่งเองได้เธอลงไปเถอะเดี๋ยวฉันตามลงไปขอเวลา 10 นาที” หญิงสาวบอกก่อนจะปิดประตูลง และคว้าผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ
มณีอินใส่ชุดผืนเมืองของหญิงสาวที่นี่เธอเพิ่งซื้อมาเมื่อตอนขากลับมาจากหมู่บ้านเห็นแล้วอยากลองใส่ดูบ้าง ผมที่ยาวถึงหลังซึ่งถูกมัดไว้ถูกปล่อยลงมาเต็มความยาวเท่านี้ก็ทำให้หญิงสาวดูสวยสดใสขึ้นมาทันตา หญิงสาววิ่งลงมาจากบันไดเพราะคิดว่าป่านนี้ทุกคนคงรอเธอแล้วแต่พอถึงบันไดขั้นสุดท้ายเท้าของหญิงสาวก็หยุดชะงักเมื่อเห็นแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งไม่ใช่ไกด์หนุ่มที่ชื่อมนัส ทุกคนหันมามองหญิงสาวอย่างชื่นชมและเมื่อชายคนนั้นหันมาทางเธอ ร่างทั้งร่างของหญิงสาวก็ชาและแข็งเหมือนกับก้อนหิน ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินตรงมาที่เธอ
“ถึงกับตาค้างเชียวหรือจ้ะสาวน้อยที่เห็นฉันอยู่ที่นี่” จามาลยิ้มอย่างเป็นต่อ หญิงสาวเรียกสติของตนเองกลับคืนมาอีกครั้ง
“คุณมาทำอะไรที่นี่” หญิงสาวถามเสียงรัวเร็ว
ชายหนุ่มหัวเราะเหมือนกับว่าคำถามของเธอมันเป็นเรื่องตลก
“คุณขำอะไร” หญิงสาวแหวใส่เขา นพมาศลุกขึ้นมาดึงหญิงสาวให้ไปนั่งที่โต๊ะก่อนจะกระซิบถาม
“พี่อินรู้จักคุณจามาลด้วยหรือคะ”
“รู้ซิรู้ดีด้วย” มณีอินเน้นเสียงหนักแน่น ก่อนที่จะเกิดสงครามขึ้นระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว ซาฮาก็เดินลงมาจากชั้นบนเสียก่อน
“คงยังไม่รู้จักกันล่ะซิ”นางถามขึ้นเมื่อนั่งที่หัวโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
“หนูอินเป็นอะไรหรือเปล่าหน้าซีดจัง” หญิงวัยแก่กว่าถามขึ้น
“ไม่ค่ะ ไม่เป็นอะไรค่ะ”
“เขาคงตกใจความหล่อของผมมั้งครับป้า”ชายหนุ่มหัวเราะ
“ป้า” หญิงสาวทวนคำของเขาอีกครั้ง
“ฉันก็อิ่มแล้วเหมือนกันขอตัวละนะ” ซาฮาลุกขึ้นชายหนุ่มจึงลุกตาม
“ผมไปด้วยครับมีเรื่องจะคุยกับป้าตั้งหลายเรื่อง เชิญคุณนพมาศตามสบายนะครับ” ชายหนุ่มยิ้ม
“ไปกันหมดแล้วๆใครจะนั่งทานอยู่ได้ล่ะ ไปบ้างดีกว่า”หญิงสาวจึงลุกขึ้นและเดินเข้าไปที่ห้องของมณีอิน
“พี่อินไม่ชอบคุณจามาลหรือ เห็นมองเขาอย่างกับศัตรู” หญิงสาวถาม มณีอินวางกล้องลงและเงยหน้ามองหญิงสาวตรงหน้า
“รู้ก็ดีแล้วว่าพี่ไม่ชอบเขา”
“แล้วทำไมไม่ชอบเขาล่ะคะ” นพมาศถามต่อ หญิงสาวถอนใจอย่างเบื่อหน่าย
“พี่บอกเราได้อย่างเดียวว่าพี่เกลียดผู้ชายคนนี้มากและขยะแขยงมากด้วย” ชายหนุ่มเดินผ่านมาได้ยินการสนทนาของสองสาวเข้าพอดี มือทั้งสองกำเข้าหากันแน่น ในชีวิตของเขาไม่เคยถูกผู้หญิงปฎิเสธและบอกว่าเกลียดแบบนี้ แต่กับผู้หญิงคนนี้มันผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว
“ต่อจากนี้ชีวิตของเธอจะต้องได้รับบทเรียนที่ทำหยิ่งกับฉันมณีอิน” ชายหนุ่มคำรามในลำคอและเดินผ่านตรงไปอีกฝากหนึ่งของบ้าน ชายหนุ่มไขกุญแจเข้าไปภาพที่เห็นคือร่างบางที่ผอมเหลือแต่กระดูกนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เขาเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งข้างๆใช้มือลูบผมอย่างอ่อนโยน
“ยามีนะ พี่จะหาทางรักษาเราให้หายให้ได้” ชายหนุ่มก้มลงจูบที่หน้าผากกลม
“คุณหนูใหญ่” แม่บ้านเดินเข้ามาเกาะที่ขาของชายหนุ่ม
“ผมฝากดูแลเธอด้วยนะครับ ผมจะหาหมอดีๆมารักษาเธออีก” เขากุมมือนางไว้
“ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะเลทรายสีน้ำผึ้ง