ทหารยิ่นหน้าเข้าไปมองด้านใน "วันนี้คุณชายรองมาคนเดียวหรือขอรับ"
ฉีจิ่นอวิ๋นขยับตัว "พูดไร้สาระ เรื่องแบบนี้จะให้รวมตัวพร้อมกันหลายคนหรือ จะเข้าไปค้นดูไหม"
ข้างในนั้นมีผู้หญิงนั่งหันหลังและราวกับกำลังจัดเสื้อผ้าอย่างลนลาน ทหารนั้นยิ้มอย่างไม่หวังดีนัก
"ไม่หล่ะขอรับ ขอให้คุณชายรองสนุกนะขอรับ" ทหารเดินถอยหลังสองสามก้าวแล้วสั่งคนอื่นอย่างเยือกเย็น "ค้นต่อไป!"
เหลิ่งชิงฮวนนั้นถอนหายใจโล่ง แอบคิดโชคดีว่ารอดแล้ว
ที่ด้านนอกมีคนพูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็นว่า "ข้ามาปฏิบัติหน้าที่ก็เจอคนรู้จักสะงั้น"
พระเจ้า!
เหลิ่งชิงฮวนนั้นถึงกับมือสั่น แล้วก็เหงื่อตกขึ้นมา
หรือนี่คือที่เขาว่ากันว่าโลกนี้มันกลม คนที่เป็นศัตรูอาฆาตต้องมาเจอกัน ท่านอ๋องอย่างมู่หรงฉีทำไมถึงได้มาสนใจเรื่องแบบนี้กัน พระเจ้าช่วย แบบนี้จะทำยังไงกัน
ฉีจิ่นอวิ๋นนั้นกำลังทักทายอย่างกระตือรือร้น "โถ่ ที่แท้ก็เป็นท่านอ๋องฉีนี่เอง ถ้าข้ารู้ว่าเป็นท่านก็แค่พูดคุยกันก็ได้แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเงินเลี้ยงพวกเขากินชากันเปล่าๆ ไม่ได้ เอาคืนมาได้ไหม ไม่งั้นข้าจะฟ้องร้องว่าพวกเจ้าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ"
ทหารที่ได้รับผลประโยชน์นั้นรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านอ๋องฉี พวกเขาเอามือกุมกระเป๋าไว้จากนั้นก็วิ่งหนีไป
มู่หรงฉีนั้นทำสีหน้าอึมครึมแล้วเดินไปที่หน้าประตู แล้วก็มองเข้าไปข้างในอย่างไม่ตั้งใจนัก "เมื่อกี้ได้ยินเจ๊ป่าวพูดว่าเจ้านั้นเดิมพันทีเป็นเงินพันตำลึงฟุ่มเฟือยอย่างมากเพื่อเอาชายบริการตัวเอกของเรือนหลิงหลางนี่ ตอนนี้จะมาหวงเงินกินชาแค่นี้หรือ"
ในใจของฉีจอ่นอวิ๋นนั้นชัดเจนยิ่งกว่าอะไร มู่หรงฉีนี่มันมาแบบไม่หวังดีแน่นอน ทำไมเขาถึงได้น่าเบื่อขนาดนี้กัน
เขาพูดคุยอย่างระมัดระวัง "ก็นี่มันถูกคนอื่นชิงหน้าไปก่อนเลยไม่ได้มา ข้าก็แค่ขึ้นมากินข้าวแล้วก็ดื่มเล็กน้อย"
ชายบริการที่ใส่เสื้อคลุมยาวแดงที่ปักด้วยดอกฮิกันบานะที่อยู่ห้องตรงข้ามนั้นถูกทหารหิ้วตัวออกมา และยังกำลังแก้ตัวว่า "ข้าไม่ใช่แขก ข้าเป็นชายบริการของที่นี่ คุณชายคนนี้เป็นพยานให้ข้าได้"
คนที่พูดนั้นหมายถึงฉีจิ่นอวิ๋น
ทหารนั้นพูดด่า "ยังจะแก้ตัวอีก เป็นผู้ชายแท้ๆ ยังจะมาทำเป็นออดอ้อนเหมือนผู้หญิงอีก วิธีแบบนี้ข้าเจอมามากแล้ว"
ฉีจิ่นอวิ๋นนั้นจับจมูกเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เป็นพยานให้กับชายบริการคนนั้น ได้แต่ถอนหายใจพูดอย่างน่าเสียดายว่า "หน้าตาก็งั้นๆ วันนี้ขาดทุนจริงๆ"
มู่งหรงฉีสั่งทหารที่อยู่ข้างหลัง "พาคุณชายรองฉีลงไป ไปแจ้งข่าวให้จวนท่านเคาน์ให้เอาเงินมาประกันตัว"
"ไม่เอาน่ะ ท่านอ๋องฉี พวกเราเป็นพี่น้องที่โตมาด้วยกัน ท่านจะโกงคนกันเองแบบนี้หรือ ข้าเป็นคนทำการค้าขาย เสพสุขมันไม่ผิดกฎสักหน่อย"
มู่หรงฉีมองเขาอย่างเยือกเย็น "โกงคนกันเองหรือ คงจะเทียบกับเจ้าไม่ได้หรอกนะ"
ฉีจิ่นอวิ๋นนั้นใจเสาะขึ้นมาทันที เขารู้ตัวดีว่าวันนี้ไปทำให้เขาโกรธเคือง จึงตามทหารลงไปข้างล่างอย่างรู้งาน แถมยังส่งสายตาขอให้โชคดีกับเหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ในห้องอีกด้วย ตัวข้านั้นยังเอาตัวไม่รอดเลย คงจะช่วยอะไรเจ้าไม่ได้แล้ว
เสียงประตูนั้นปิดดังปั้ง มู่หรงฉียืนอยู่ที่หน้าประตูแล้วมองไปรอบๆ ห้องอย่างเยือกเย็น จากนั้นก็กัดฟันแล้วพูดว่า "เหลิ่งชิงฮวน! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้นะ!"
เหลิ่งชิงฮวนนั้นเดินตัวสั่นออกมาจากด้านหลังฉากกั้น นางก้มหน้าก้มตาราวกับเด็กที่ทำความผิดมา จากนั้นก็ยิ้มให้มู่หรงฉีอย่างเอาใจ
"ท่านอ๋องฉีบังเอิญจังเลย ท่านก็มาทานข้าวหรือเพคะ"
ชุดกระโปรงผ้าบางนั้นทำให้เห็นสัดส่วนรูปร่างรางๆ คอเสื้อที่เปิดออกนั้นก็เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าที่น่าดึงดูด
"คนนั้นเพิ่งไป! เขาปลอมตัวเป็นผู้หญิงแล้วหนีไปต่อหน้าต่อตาพวกเจ้าเลย"
"ผู้ชายปลอมตัวเป็นผู้หญิงรึ เหลิ่งชิงฮวน เจ้าคิดว่าทหารของข้านั้นตาบอดหรือไง"
แต่ความจริงก็เป็นแบบนั้น
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกท้อแท้ "หากท่านไม่เชื่อ ก็ไปถามฉีจิ่นอวิ๋นสิ เขาเองก็เห็นกับตาว่าหน้าตาของผู้ชายคนนั้นมันมารยายิ่งกว่าผู้หญิง"
"ดูเหมือนว่าพระชายามาที่เรือนหลินหลางนี่ครั้งเดียวก็ได้เห็นอะไรมากมายเลย" มู่หรงฉียื่นนิ่งอยู่หน้านาง บีบบังคับจนนางไม่มีที่จะหนี
"ที่หม่อมฉันมาที่นี่กับฉีจิ่นอวิ๋นมันไม่ใช่แบบที่ท่านคิดนะ พวกเราแค่จะมาถามคำถามบางอย่างกับหญิงที่นี่"
"เจ้าควรจะพูดว่าพวกเจ้ามาคุยเรื่องค้าขาย ทำเรื่องจริงจัง"
"ใช่ เพื่อเรื่องทางการค้าจริงๆ" เหลิ่งชิงฮวนนั้นพูดตามน้ำ
มู่หรงฉีจับคางของนางเอาไว้ นิ้วมือที่หยาบนั้นบีบจนนางรู้สึกเจ็บ จนนางต้องเผชิญกับสายตาที่ดุดันของเขา
"เหลิ่งชิงฮวน ท่าทางที่เจ้าพูดไร้สาระอย่างจริงจังนั้นช่างน่ารังเกียจ! เจ้ากับฉีจิ่นอวิ๋นมาที่ซ่องโรงหญิงที่เป็นอันดับต้นๆ ของเมืองฉางอันนี่ แถมเรียกหญิงสาวมาสิบกว่าคน และยังลงทุนเป็นพันตำลึงเพื่อแย่งคนที่ไม่ชายไม่หญิงมา สุดท้ายทั้งสองคนยังแลกเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน แล้วเจ้ายังจะบอกข้าอีกว่าเจ้ากำลังคุยเรื่องค้าขายกันจริงๆ รสนิยมของเจ้ามันไม่พิสดารไปหน่อยหรือ!"
เหลิ่งชิงฮวนพยายามอดกลั้น อธิบายซ้ำแล้วซ้ำเล่า พูดจนปากคอแห้งไปหมด มู่หรงฉีไม่เชื่อก็ไม่ว่า แถมยังมาเยาะเย้ยจินตนาการไปไกล คิดแย่กับตนเองแบบนั้นก็รู้สึกโมโหขึ้นมาทันที
"หากหม่อมฉันเสพสุขจริง หม่อมฉันก็ยอมรับอย่างใจกว้างไปแล้ว ทำไมจะต้องมาสร้างคำโกหกมาอธิบายท่านด้วย ท่านจะคิดยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับหม่อมฉัน ปล่อยหม่อมฉันนะ!"
"ไม่เกี่ยวกับข้ารึ" มู่หรงฉีนั้นโกรธอย่างมาก เขากัดฟัน "เจ้าเป็นพระชายาของข้า แต่กลับบอกว่าไม่เกี่ยวกับข้า ก่อนแต่งงานนั้นเจ้าสำส่อนก็ช่าง หากตอนนี้กล้านอกใจมีชู้อีก เชื่อไหมว่าหากข้าเจอหนึ่งคนก็จะฆ่าหนึ่งคน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...