ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 179

คืนนั้นที่สำนักชีคนที่อยู่ในสำนักชีคือเธอกับเหลิ่งชิงฮวนทั้งหมดสามคน เหลิ่งชิงฮวนนั้นเป็นพวกขี้กลัวและเอาแต่แอบอยู่ด้านหลังของเธอกับจินอี๋เหนียงมาโดยตลอดอย่างไม่มีท่าทีที่หญิงผยองอย่างคุณหนูเลย ดังนั้นคนในสำนักชีเองก็พากันยกยอเธอ พวกนั้นไม่รู้เลยว่าเหลิ่งชิงฮวนเองก็เป็นคุณหนูจวนมหาเสนาบดี ทั้งยังเป็นถึงลูกสาวคนโต

ดังนั้นถ้าหากมู่หรงฉีไปสืบเรื่องหลังจากนี้ หญิงสาวที่มาพักค้างแรมและคนในสำนักชีบอกเขาล่ะก็ย่อมต้องบอกว่าเป็นเธอกับจินอี๋เหนียง!

ดังนั้นมู่หรงฉีย่อมต้องเข้าใจผิดไปว่าผู้หญิงที่เขาพอใจคนนั้นคือเธอ

ดังนั้นครั้งแรกที่ได้พบกันในจวนมหาเสนาบดีเขาถึงได้ขอหย่ากับเหลิ่งชิงฮวนและจะมาแต่งกับเธออย่างไม่ลังเล

ไม่ใช่ว่าเป็นรักแรกพบอะไร แต่เรื่องทั้งหมดนั้นมีสาเหตุ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ใจของเหลิ่งชิงฮวนก็เต้นแรงขึ้นอย่างกะทันหัน และรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา ในหัวของเธอสับสนไปหมด

เด็กที่อยู่ในท้องของเหลิ่งชิงฮวนนั่นคงไม่ใช่ว่าเป็นลูกของมู่หรงฉีจริงๆหรอกนะ?

ตอนนี้ทั้งสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อยๆ คงมีสักวันที่ถ้าหากมู่หรงฉีถามเธอถึงพ่อของเด็กในท้อง เหลิ่งชิงฮวนคงจะบอกออกมาอย่างใจเย็นและเรื่องทั้งหมดก็จะถูกเปิดโปงออกมา! มู่หรงฉีนระลึกถึงความสัมพันธ์ในคืนนั้นจึงได้ใจกว้างกับเธอมาตลอด ถ้าหากว่าความจริงถูกเปิเผยออกมาในจวนอ๋องนี้จะยังมีที่ให้เธออยู่อีกหรือ คนที่ถูกทิ้งจะกลายเป็นเธอเอง

โชคดีที่คืนนี้ยังมีความลังเลอยู่ถึงได้ไม่พูดเรื่องมลทินของเหลิ่งชิงฮวนไป ไม่อย่างนั้นเวลานี้เกรงว่าความจริงจะถูกเปิดเผยออกมาหมดแล้ว

เธอเอาแต่เหม่อลอยอย่นาแล้วกุมที่หัวใจของตัวเองแน่น และนึกหาวิธีที่จะเอาตัวรอด

เธอจะปล่อยให้เรื่องพวกนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้ ทุกอย่างต้องหยุดลง

ตำหนักฉาวเทียน

เหลิ่งชิงฮวนกำลังนั่งเอนกาแอบบกินไอศกรีมอยู่บนเตียง

ฉีจิ่งอวิ๋นเพิ่งได้นมกลับมาฝากจากชนเผ่าเร่ร่อน เธอเห็นดินประสิวที่ใช้สำหรับทำน้ำแข็งในจวน เธอก็รู้สึกชอบมากแล้วเอามาใช้ทำไอศกรีมด้วยตัวเอง

แม้จะอร่อยเทียบกับไอศรีมในยุคปัจจุบันไม่ได้ แต่เธอก็ใส่เมล็ดธัญพืชเข้าไปอย่างมั่วซั่ว อากาศร้อนแบบนี้ได้กินแล้วก็มีความสุขมาก

แม่นมเตียวนั้นราวกับญาติผู้ใหญ่ของเธอที่เคร่งครัดขึ้นมาอีกนิด ที่ไม่ยอมให้เธอกินของเย็นเข้าไปมาก ดังนั้นเธอจึงต้องแอบกินอยู่ในห้อง

หลังจากที่มู่หรงฉีเข้ามาภายในตำหนักแล้วเขาก็ส่งสัญญาณมือให้บ่าวรับใช้ถอยออกไป จึงไม่มีคนเข้าไปแจ้งกับเจ้าของตำหนัก เขาเปิดผ้าม่านเข้าไปก็ถูกเธอจับได้

เหลิ่งชิงฮวนที่เห็นเงาของคนแวบหนึ่ง เธอนึกว่านั่นเป็นเงาของแม่นมเตียว เธอจึงตกใจจนเอาไอศกรีมที่เหลืออยู่ครึ่งแท่งเข้าไปซ่อนในแขนเสื้อ

แม้ว่ามู่หรงฉีจะยังมึนเมาอยู่บ้าง แต่สายตาของเขานั้นช่างร้ายกาจ เพียงแวบเดียวเขาก็มองเห็น

“ซ่อนอะไรอยู่น่ะ”

“ไม่มีอะไร”

มู่หรงฉีสืบเท้าเข้าไปที่ด้านข้างเตียงของเธอและยื่นมือเข้าไปหา

เหลิ่งชิงฮวนนึกว่าเขาจะมาแย่งไอศกรีมของเธอไป เธอจึงกุมเข้าที่แขนเสื้อของเธอ “ไม่ให้”

ปลายนิ้วของมู่หรงฉีเลื่อนผ่านริมฝีปากมันปลาบของเธอที่เลอะไปด้วยไอศกรีม

ที่แท้เข้าก็ยื่นมือมาเช็ดปากให้เธอ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นขี้เหนียวอย่างไรอย่างนั้น เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นนั่งและกระแอมออกมาอย่างทำตัวไม่ถูก “ทำไมถึงไม่ให้คนแจ้งว่ามากันล่ะเพคะ”

แถมยังไม่เคาะประตู ไม่มีมารยาทเอาเสียเลย

มู่หรงฉีกลับไม่ตอบคำถามของเธอ เขาทำเพียงแค่ยกมุมปากขึ้นและจ้องไปที่ถ้วยที่อยู่ในมือของเธอพร้อมกับพูดอย่างเป็นเด็กว่า “เจ้ากำลังซ่อนอะไรอยู่”

“มันร้อน หม่อมฉันก็เลยเอาไอศรีมมาดับร้อนเพคะ”

จู่ๆมือใหญ่ของมู่หรงฉีก็ยื่นเข้ามาแล้วคว้าชามนั้นไป เหลิ่งชิงฮวนคิดไม่ถึงว่าเขาจะลงมือแย่งไปอย่างไม่มีมารยาทเช่นนี้ ในเมื่อถูกเขาแย่งไปได้แล้วเธอจึงทำได้เพียงถลึงตาใส่

มู่หรงฉีถือชามและนั่งลงบนเก้าอี้หินทรงกลม จากกนั้นก็ใช้ช้อนเงินตักขึ้นมากินไปคำหนึ่ง นใดนั้นเขาก็รู้สึกถึงความหอมหวานและลื่นคออีกทั้งยังมีกลิ่นอันโดดเด่นของนม เขากลืนมันลงไปอย่างลื่นคอ เพียงพริบตาก็รู้สึกว่าความร้อนที่มีอยู่ในกายได้หายไปทั้งหมดแล้วแม้แต่รูขุมขนของเขาก็สดใสขึ้น

นอกเสียจากว่าเขาจะยังมีความกล้าไม่มากพอ รวมถึง...ความชั่วร้ายอีกด้วย

“งั้นข้าก็สามารถรับได้” มู่หรงฉีพูดเสียงเบา

เหลิ่งชิงฮวนนั่งตัวแข็งทื่อ

“หม่อมฉันอยากรู้ว่าท่านจะทำอย่างไรต่อไปได้ไหมเพคะ”

“เจ้าเป็นพระชายาของข้า เขาก็จะเป็นลูกชายของข้า ยังต้องมีแผนอะไรอีกหรือ”

“หม่อมฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเพคะ”

“งั้นข้าจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่กับเจ้า”

เหลิ่งชิงฮวนเบิกตากว้างอย่างตกใจ เธอพูดออกมาโดยไม่ต้องคิดว่า “ไม่ต้อง”

“วันนี้เสด็จย่าเรียกข้าไปสั่งสอนเป็นการส่วนตัวแล้วว่าเจ้ากับข้าแยกห้องนอนกันมาตลอด ยากที่จะเลี่ยงไม่ให้มีข่าวลือเสียหายเกิดขึ้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าครรภ์ของเจ้าจะแข็งแรงขั้นแล้ว ฮ่า ฮ่า ข้าสามารถย้ายมาที่ตำหนักฉาวเทียนได้”

อะไรนะ? บรรพบุรุษคนไหนยื่นมือเข้ามาสอดแบบนี้กัน?

เหลิ่งชิงฮวนลนลานขึ้นในทันที “ไม่ได้เด็ดขาดเพคะ”

“เพราะอะไรล่ะ” มู่หรงฉีเลิกคิ้ว เขาถามเธอเสียงเบา

เหลิ่งชิงฮวนลนลานจนมือเท้าปัดป่ายเปะปะ แต่นึกอยู่นานเธอก็นึกเหตุผลที่จะปิเสธมู่หรงฉีไม่ออก

ตอนนี้เธออยู่ฐานะพระชายาของเขา ในท้องของเธอยังมีก้อนกลมๆอยู่อีก นี่เรียกว่าเป็นการทำข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุก ขาดก็แต่ไฟเท่านั้นใช่ไหม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา