ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 189

"อะไรคือการเแบ่งจ่ายเพคะ" ผู้ดูแลรู้สึกงุนงง

"ก็หมายความว่าแบ่งตีหลายครั้ง แต่เขาจะต้องมีการคิดดอกเบี้ย เช่นต้องเพิ่มสองครั้ง"

เมื่อผู้ดูแลฟังแล้วก็ตื่นตาตื่นใจ หากเป็นเช่นนี้ ก็จะเกิดประโยชน์ในการเป็นตัวอย่าง แถมชายคนนี้ก็ยังสามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวต่อไปได้

หลังจากที่ขอบคุณเหลิ่งชิงฮวนแล้ว เพิ่งจะหันหลังกลับเหลิ่งชิงฮวนก็เรียกไว้อีก

"เอาแม่ไก่สองตัวนั้นแล้วก็เงินอีกสิบตำลึงฝากคนร่วมหมู่บ้านคนนั้นเอาให้แม่ของเขาไปรักษาโรค หากมีโรคที่ยุ่งยากอะไร ก็กลับมาบอกกับข้าได้"

ผู้ดูแลนั้นยิ่งแปลกใจ จากนั้นก็พยักหน้าอย่างแรง เมื่อหันหลังเดินไปที่หน้าประตู เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้เรียกเขาแต่เขากลับเดินกลับมาเอง

"ยังมีอีกเรื่องอยากจะแจ้งพระชายาเพคะ"

"เรื่องอะไร"

ผู้ดูแลขรุ่นคิด "เดือนนี้พระชายารองมักจะไปเบิกรับเบี้ยที่ห้องเบี้ย หากน้อยก็สองสามร้อยตำลึง มากหน่อยก็เป็นพันตำลึง และเบิกรับไปหลายครั้งแล้วเพคะ"

พระเจ้า นี่คิดว่ามู่หรงฉีเป็นตู้เบิกเงินหรือเนี่ย

"ท่านอ๋องว่ายังไงบ้าง"

ผู้ดูแลมองดูสีหน้าของนางอย่างระมัดระวัง

"ตอนที่พระชายารองเพิ่งมา ท่านอ๋องเคยบอกกับข้าน้อยว่า หากพระชายารองต้องการอะไรก็มาบอกกับข้าน้อยได้ ครั้งแรกที่ทำการเบิกเบี้ย ข้าน้อยก็แจ้งให้ท่านอ๋องทราบแล้ว จำนวนไม่มากท่านอ๋องจึงไม่ได้สนใจอะไรจึงพยักหน้าตอบรับ แต่ว่าการใช้จ่ายของพระชายารองมันมากไปหน่อยไหมเพคะ ต่อให้ที่จวนท่านอ๋องที่จะมาก แต่การคบค้าไปมาหาสู่ ก็คงจะฟุ่มเฟือยแบบนี้ไม่ไหวนะเพคะ"

ถึงจะฟุ่มเฟือยได้ก็ให้นางง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้! มู่หรงฉีนี่ช่างล้างผลาญเงินเบี้ยจริงๆ รอดตายมาอย่างหวุดหวิดพยายามหาเลี้ยงชีพอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ให้นางจิ้งจอกนี่เอาไปใช้สอยอย่างฟุ่มเฟือย ตลกหรือเปล่า

ในเมื่อตอนนี้ข้าเป็นพระชายา งั้นที่จวนท่านอ๋องนี่ก็ถือว่าเป็นทรัพย์สมบัติร่วมกัน เจ้าเป็นไม้กวาดเบี้ย ข้าเป็นถุงใส่เบี้ย อยากจะล้วงเอาเบี้ยจากคนขี้เหนียวอย่างข้า แล้วเอาเบี้ยพวกนี้มาซื้อใจคนให้มาต่อต้านข้า ฝันไปเถอะ

"ที่จวนไม่ได้แบ่งเบี้ยให้นางรึ"

"มีเพคะ แต่ละเดือนจะมีการแบ่งเบี้ยแล้วส่งไปให้พระชายารอง"

"งั้นนางจะใช้จ่ายอะไรถึงต้องใช้เบี้ยมากมายแบบนี้ ซื้อเครื่องแป้งหรือยาเสริมบำรุงกัน"

"รังนกของพระชายานั้นไม่เคยขาดสักวัน ล้วนเป็นรังนกชั้นดี ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่น้อยเหมือนกันเพคะ ดังนั้นคงจะไม่ซื้อจ่ายใหม่เพคะ"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นรู้สึกอิจฉา อิจฉาจริงๆ ข้าก็แค่กินข้าวเม็ดเดียวมู่หรงฉีก็คงจะมาคิดเล็กคิดน้อย แต่สำหรับภรรยารองของเจ้าแล้วกลับใจกว้างแบบนี้ แม้แต่คนรับใช้ยังไม่เห็นด้วยเลย

ขนาดผู้ดูแลยังไม่แล้งน้ำใจอย่างเจ้าเลย หลงในกามจนไม่มีสติ พูดไปก็เท่านั้น!

ข้านั้นก็เป็นแค่ภาพย่อในบรรดาหญิงสาวมากมายนับหมื่น ประหยัดอดออม เบี้ยสลึงเดียวก็แบ่งครึ่งมาใช้ แต่ท่านอ๋องนั้นกับลงทุนมากมายเพื่อเลี้ยงภรรยาน้อย ทั้งบ้านทั้งรถทั้งใบตั๋ว เบี้ยไหลออกราวกับสายน้ำ

ข้าไม่เอาจริง คิดว่าข้านั้นเป็นแมวป่วยรึ

"งั้นต่อไปก็ทำตามกฎ ควรจะแบ่งให้เท่าไหร่สลึงเดียวก็ไม่ให้ขาด แต่หากอยากจะเบิกเบี้ยส่วนกลางเพื่อกินรังนกราคาแพงหรืออยากจะจัดงานเลี้ยงอะไร ก็ให้นางมาหาข้า จะใช้จ่ายยังไงจะต้องมีการพูดถึงกันให้รู้เรื่อง"

ผู้ดูแลพยักหน้า

"ไม่รีบ อีกอย่างเบี้ยที่เบิกไปก่อนหน้า รวบรวมออกมาแล้วเขียนใบยืมหนี้ไว้ จากนั้นก็หักจากเบี้ยรายเดือน ยังคงเป็นคำพูดเดิม หากไม่ยอมก็ให้มาหาข้า ไม่ต้องลำบากพวกเจ้า"

ผู้ดูแลนั้นซื่อสัตย์ต่อมู่หรงฉีอย่างมาก การใช้จ่ายของเหลิ่งชิงหลางนั้นเขารู้สึกเสียดายมานานมากแล้ว เห็นเหลิ่งชิงฮวนนั้นดีต่อบ่าวทุกคน ดูแลเรื่องราวต่างๆ ในจวนได้อย่างมีระเบียบ เขาเองก็เลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ จึงได้ฟ้องเรื่องของเหลิ่งชิงหลาง คำสั่งของเหลิ่งชิงฮวนจะไม่ทำตามได้ยังไง เขาจึงไปทำตามอย่างมีความสุข

เพียวเวลาแค่ชั่วครู่ เหลิ่งชิงหลางก็พาแม่จ้าวมาหาอย่างดุดัน

"เหลิ่งชิงฮวน เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตัดรังนกของข้าออก"

"ทำไมจวนท่านอ๋องจะต้องให้รังนกเจ้าด้วย"

"นี่เป็นสิ่งที่ท่านอ๋องอนุมัติ"

"แต่ข้าไม่อนุมัติ"

เหลิ่งชิงหลางนั้นกัดฟันโกรธเคืองอย่างมาก แต่ก็แอบรู้สึกกลัว ไม่กล้าที่จะกำเริบต่อ แต่ก็ไม่ยอมรับแต่โดยดี นางทำคอแข็งว่า "มันช่างตลกจริงๆ มาไหนแต่ไรยังไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน ข้าไม่ประทับ เจ้าจะทำอะไรข้าได้"

"ทำอะไรได้หรือ"

ตบเจ้าจนหน้ากลายเป็นหมูแบบนี้แล้ว ยังจะกล้ามาถามว่าทำอะไรได้งั้นหรือ

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ไม่พูดไร้สาระ นางแค่หมุนข้อมือจากนั้นก็เอามีดผ่าตัดออกมา นางจับข้อมือของเหลิ่งชิงหลางไว้แล้วก็จะตัดไปที่นิ้วมือของนาง

เลือดนั้นพุ่งกระจาย เหลิ่งชิงหลางนั้นร้องโหยหวย แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นการจับกุมของเหลิ่งชิงฮวนได้

เหลิ่งชิงฮวนกดนิ้วของนางบนกระดาษ เรียบร้อย

"ดอกเบี้ยห้าส่วน จ่ายคืนตามเดือน ต่อไปเบี้ยแบ่งของที่จวนก็จะไม่มีแล้ว ทั้งหมดล้วนทำตามกฎ หากเห็นข้าแล้วยังคงไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ ล้วนลงโทษตามกฎระเบียบ"

เหลิ่งชิงหลางเคยเสียเปรียบขนาดนี้มาก่อนซะเมื่อไหร่

"เหลิ่งชิงฮวน เจ้าอย่าได้ใจเลย เจ้าคงจะไม่รู้สินะ ที่ท่านอ๋องไปครั้งนี้ก็เพื่อไปจับชู้ชายชุดแดงของเจ้า รอท่านอ๋องกลับมาเจ้าได้เห็นดีแน่"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นอึ้งไปแล้วก็ยิ้มนิ่งๆ "นี่เจ้ากำลังเตือนข้าว่าให้ข้าทำอะไรกับเจ้ามากกว่านี้ก่อนที่ท่านอ๋องยังไม่กลับมาหรือ"

รอยยิ้มนี้ของนางนั้นมีความเยือกเย็น เหลิ่งชิงหลางนั้นเดินถอยอย่างรู้สึกกลัวและรู้สึกหวาดหวั่นในใจ เมื่อรู้ว่าตนนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลิ่งชิงฮวน ก็ได้แต่พูดขู่แล้วพาแม่จ้าวจากไปอย่างลำบาก

เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆ กำหมัดแน่นแล้วขมวดคิ้ว เมื่อกี้ตอนที่นางจับที่ข้อมือของเหลิ่งชิงหลาง ขณะที่สัมผัสอย่างใกล้ชิดก็รู้สึกว่าสีหน้าของนางนั้นแตกต่างจากเมื่อก่อน ถึงแอบจับชีพจรของนางแล้วพบว่านางมีอาการของการถูกยาพิษ

หน้าตาสะสวย ผิวขาวผ่องนวล ค่าใช้จ่ายที่มากมาย บวกกับชีพจรนี่ อีกทั้งนิสัยที่เย่อหยิ่งอวดดีของเหลิ่งชิงหลาง คำพูดที่พูดออกมาอย่างไม่คิดเมื่อกี้ ทำให้เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงยาเม็ดหนิงเซียง

ของที่ให้โทษนี่มันสูญหายไปนานแล้วไม่ใช่หรือ เหลิ่งชิงหลางได้มาจากไหน

สร้างความลำบากเองก็หลีกเลี่ยงอะไรไม่ได้ นางไม่ฟังคำเตือนของตนเอง ต่อให้ตกหลุมพรางไปจริงก็เป็นเรื่องที่ที่สมควรแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา