ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 190

คนในจวนต่างรู้ว่าพระชายารองนั้นเพื่อหาเรื่องพระชายา แต่สุดท้ายกลับถูกลงโทษแถมยังกล้าพูดอะไรสักคำ เมื่อกลับถึงเรือนจื่อเถิงแล้วก็รู้สึกน้อยใจโกรธอย่างมาก

อีกอย่าง หากพระชายาดูแลเรื่องราวในจวนจริง ท่านอ๋องยังถือกุญแจของจวนอยู่เลย พระชายาก็จะเป็นการชิงอำนาจอย่างไม่รู้ตัว ในวันเดียวกันเองยังไปที่ห้องเบี้ยแล้วเอาใบยืมหนี้ให้เหลิ่งชิงหลาง ตั้งแต่ผู้ดูแลจนถึงผู้ดูแลห้องเบี้ยก็ล้วนเป็นผู้ทรยศ แถมยังเอาสมุดเบี้ยออกมาให้อย่างเชื่อฟัง แถมยังวิ่งหน้าวิ่งหลังให้พระชายา

พวกเขานั้นกินเบี้ยของท่านอ๋องมาตั้งหลายปี ก่อกบฏง่ายๆ แบบนี้ หากท่านอ๋องรู้คงจะเสียใจอย่างมาก

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ใจร้อนเหมือนกัน ผู้ชายนั้นจะมาตามใจมากไม่ได้ ยิ่งตามใจยิ่งแย่ ผู้หญิงไม่ดูแลบ้าน ผู้ชายก็จะต้องหางานทำเอาเบี้ยไปเลี้ยงผู้หญิงคนอื่น ดังนั้น หากมู่หรงฉีนั้นให้ข้าอยู่ที่นี่หนึ่งวัน เบี้ยนี่ข้าก็จะเป็นคนดูแลเอง

พอนางทำแบบนี้ มีทั้งความเมตตาและน่าเกรงขาม ทั้งได้ใจคนและเป็นตัวอย่างให้บ่าวเจ้าเล่ห์ที่ชอบดูถูกคนอื่น

ใครจะกล้าไม่เห็นพระชายาคนนี้อยู่ในสายตาอีก

คนหนึ่งมีอำนาจ คนรอบข้างก็พลอยได้รับบารมีไปด้วย ตำหนักฉาวเทียนกลายเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ไปทันที แม่เตียวเองก็ถูกคนในห้องครัวเยินยอ พากันแย่งกันประจบสอพลอ

ในเมื่อหลังจากที่พระชายารับดูแลเรื่องต่างๆ ในจวนแล้วก็ไม่กินอาหารของห้องครัวนี้เลย หรือว่าการเมินเฉยในแรกเริ่มนั้นพระชายายังคงจดจำไว้ในใจ หรือว่าไม่ถูกใจในฝีมือของตน

งานนี้ยังจะรักษาไว้ได้ไหมนะ

ใครจะไม่รู้สึกไม่สบายใจกัน โดยเฉพาะแม่ครัวและผู้ดูแลที่ชอบกลั่นแกล้งโตวโตวและหลิงกวนเอ๋อร์ พวกเขารู้สึกเสียใจจนอยากจะตบหน้าตนเองจริงๆ

โตวโตวและแม่นมเตียงเองก็ยอมรับคำประจบสอพลอของคนพวกนี้อย่างสบายใจ ไม่รู้สึกเกรงใจเลยแม้แต่น้อย ลมน้ำหมุนเวียนสับเปลี่ยน ถึงโอกาสของตนแล้วใครจะไม่เอากัน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องหลังจากนี้แล้ว เพราะในวันที่สามที่เหลิ่งชิงฮวนชิงอำนาจ มู่กรงฉีผู้เป็นเจ้าของตัวจริงก็กลับมาที่จวน

แต่ว่าถูกคนหามกลับมา

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดวิ่งเจ้ามาที่ตำหนักฉาวเทียนอย่างร้อนรน ข้างหลังนั้นเป็นเปลหามของมู่หรงฉี

"พระชายา แย่แล้วขอรับ ท่านอ๋องบาดเจ็บ!"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นกำลังบดยาอย่างเสียงดัง เมื่อได้ยินแบบนั้นก็ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น "หั่นโดนนิ้วกรือว่าเลือดกำเดาไหล" รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดร้อนรนอย่างมาก "ไม่ใช่ขอรับ แต่เป็นบาดเจ็บภายใน! โดนฝ่ามือของคนร้ายเข้า"

เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงคำพูดโกรธของเหลิ่งชิงหลางในวันนั้นก็ยิ้มเยือกเย็น "แค่ฝ่ามือเดียวก็บาดเจ็บภายในเลยรึ นี่มันวีระบุรุษที่ไหนกัน ให้ข้าไปเจอหน่อยซิ"

"จริงๆ ขอรับ ท่านอ๋องกระอักเลือดออกมาขอรับ!"

เหลิ่วชิงฮวนอึ้งไป เห็นท่าทีร้อนรนของรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแล้วก็ไม่เหมือนแกล้งทำ ใจของนางก็ราวกับถูกบีบแน่นขึ้นมา แล้วก็ลุกขึ้นยืน "อยู่ไหน"

"ข้างนอกขอรับ!"

เหลิ่งชิงฮวนวิ่งออกไป เมื่อเห็นมู่หรงฉีนอนอยู่บนเปลหาม ตาทั้งสองข้างหลับสนิท ใบหน้าขาวซีด ที่หน้าอกนั้นยังมีคราบเลือดที่แห้งไปแล้วก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมา ใจของนางแทบจะหลุดออกมา นางพุ่งตัวเข้าไปแล้วจับมือมู่หรงฉีไว้แน่น จับแน่นเกินจนมือสั่น

"อยู่ดีๆ ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้"

เสียงของนางนั้นแห้งแหบ ใจเองก็เหมือนถูกบีบ ความโกรธที่สะสมมาหลายวันนั้นก็สลายหายไป

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดเห็นว่าเล็บของนางนั้นจิกไปที่เนื้อหนังของมู่หรงฉีเพราะความร้อนรนก็รู้สึกเห็นใจ "พระชายารีบดูหน่อยเถอะขอรับ อยากไม่ไหวจริงๆ พวกเราจะได้เตรียมงานศพได้ทัน"

เหลิ่งชิงฮวนไม่ทันจะสนใจคำพูดไม่เป็นมงคลของเขา รีบเอามือไปจับที่ชีพจรของเขา ชีพจรนั้นมั่วไม่เป็นระเบียบ ลมหายใจแผ่วเบา ได้รับการบาดเจ็บหนักจริงๆ ไม่ได้แกล้งทำ

"ยังนิ่งอยู่ทำไม รีบเอาเข้าไปข้างหน้าสิ!"

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งทหารให้หามมู่หรงฉีเข้าไปในห้องหลักแล้วเอาไว้บนเตียง แล้วจึงตรวจร่างกายให้เขาอย่างละเอียด

"เจ้าแน่ใจนะว่าเขาโดนฝ่ามือเข้าจริงๆ"

เหลิ่งชิงฮวนนั้นตะลึง นี่มันราวกับอุบัติเหตุรถชนเลย อวัยวะภายในนั้นได้รับการบาดเจ็บที่ต่างระดับกัน นี่เป็นเรื่องที่คนทำออกมารึ

โชคดีที่มู่หรงฉีนั้นหนังเหนียว ไม่อันตรายถึงชีวิต

เหลิ่งชิงฮวนถอนเข็มเงินออกมา แล้วสีหน้าของนางก็เยือกเย็นลงทันที

"ถึงเวลาที่จะต้องเตรียมเข็มเงินชุบยาพิษหน่อยแล้ว บัดซบ ผู้ชายของข้าก็กล้าทำร้าย ครั้งหน้าอย่าให้ข้าเจอเชียว ไม่อย่างงั้นข้าจะฝังเข็มให้ลึงค์ของเจ้าใช้งานไม่ได้เลย!"

มุมปากของมู่หรงฉีกระตุก แล้วในที่สุดก็หลับไปอย่างสบายใจ

ในครั้งนี้นอนหลับอย่างสบายมากจนถูกเสียงรบกวนให้ตื่นขึ้น มู่หรงฉีคิดว่าพอตนเองตื่นมาก็จะต้องเห็นภาพที่ซึ้งใจเหมือนในความฝันได้อย่างแน่นอน

บางทีเหลิ่งชิงฮวนจะฟุบอยู่ที่ข้างเตียง จับมือของตนไว้แน่นแล้วร้องไห้ฟูมฟาย ร้องขอให้ตนเองจะต้องเข้มแข็ง หรือบางทีอาจจะฟุบอยู่บนตัวของตน้องอย่างเหน็จเหนื่อย จนในที่สุดทนไม่ไหวแล้วนอนหลับไป

ตนเองจะปาดเช็ดน้ำตาบนใบหน้าของนางอย่างอ่อนโยน อุ้มนางขึ้นเตียงแล้วปลอบใจอย่างอ่อนโยน

แต่ความจริงคือเขายังไม่ทันได้ลืมตาขึ้น ก็ได้ยินเสียงทายหมัดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เสียงดังอย่างมาก

คนที่ดูแลตนเองอยู่ในห้องนั้นคือรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่เขาเองก็ไม่ได้อยู่ที่ข้างกายของตนด้วยสีหน้าห่วงใย แต่กลับยืนอยู่ที่หน้าต่างแล้วโน้มตัวออกไปส่งเสียงเชียร์อย่างสุดความสามารถ

ที่ลานนั้นคึกคักอย่างมาก เสียงของเหลิ่งชิงฮวนนั้นดังมากที่สุด

"ปูตัวหนึ่งนั้นช่างใหญ่โต ตาจ้องมอง ทำคอหดแล้วไต่ข้ามคลอง..."

รองผู้บัญชาดชการทหารสูงสุดร้องตะโกนว่า "ผิดแล้ว ผิดอีกแล้ว! ถึงตาข้า ถึงตาของข้าแล้ว!"

"รีบอะไรกัน นี่เป็นเวลาแสดงความจงรักภักดี เจ้าอยู่ดูแลเจ้านายเจ้าไปเถอะ หากเขาตื่นมาเห็นเจ้าคนแรก จะต้องซาบซึ้งอย่างมาก ได้เลื่อนขั้นอย่างแน่นอน ให้ข้าเล่นอีกสักครั้ง"

รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังคงเกรงกลัวในอำนาจของนาง แม้จะไม่ยอมแต่ก็ทำได้แค่บ่นเท่านั้น

มู่หรงฉีกะพริบตา พวกเขาเหมือนจะลืมไปแล้วว่าบนเตียงนั้นมีคนป่วยนอนอยู่

ตนเองเพิ่งจะรอดตายมา ไอ้พวกอกัตัญญูถึงกับกินเหล้าทายหมัดที่ลานกันเลยรึ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา