โฉวซือเส่ามองไปที่ชายชราผมขาวที่ยืนอยู่ตรงกลาง ชายชราสวมเสื้อผ้าสีน้ำเงิน ใบหน้าแดงก่ำเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เมื่อเอ่ยปากพูดก็เต็มไปด้วยความมั่นใจ
“ทรัพย์สมบัติของตระกูลโฉวสะสมมามากมายเช่นนี้ ล้วนมาจากความพยายามของเหล่าพี่น้องตระกูลโฉว มิใช่ของบิดาเจ้าเพียงคนเดียว ดังนั้นลุงรองจึงไม่อาจทนมองทรัพย์สมบัติของตระกูลโฉวพังทลายลงได้”
“ตลอดหลายปีนับตั้งแต่เจ้ากลับมาที่ตระกูลโฉว พวกเราทุกคนได้เห็นถึงความสามารถของเจ้า พวกเรารู้ว่าเจ้ามีความสามารถ แต่ว่าเจ้าเป็นตัวประหลาดที่ไม่ใช่บุรุษไม่ใช่สตรีอย่างที่ผู้เฒ่าหลู่พูด ตระกูลโฉวจึงไม่อาจตกอยู่ในน้ำมือของเจ้าได้”
“วันนี้ ลุงรองมาเพื่อความยุติธรรม”
โฉวซือเส่าเปลี่ยนท่าทางให้สบายกว่าเดิม “ช่างเป็นข้อแก้ตัวที่ดูดีเหลือเกิน ฉวยโอกาสที่ข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสสมรู้ร่วมคิดกับคนในฆ่าองครักษ์เงาของข้า บุกเข้ามาโจมตีถึงในตำหนัก นี่เรียกว่ายุติธรรมหรือ?”
ผู้เฒ่าหลู่ยิ้มเยาะ “ใครบ้างจะไม่รู้ว่าเจ้าน่ะเก่งกาจแค่ไหน หากเจ้าบาดเจ็บเช่นนั้นก็ยอมเสียดีกว่า”
รองหัวหน้ากระแอมเบาๆ “หากสิ่งที่ผู้เฒ่าหลู่พูดคือการปั้นน้ำเป็นตัวพวกเราย่อมเรียกร้องความยุติธรรมให้เจ้า แต่หากทั้งหมดนั้นเป็นความจริงผู้เฒ่าหลู่เองก็กำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับหอซ่อนดาบ จะมีความผิดอะไรหรือ?”
โฉวซือเส่ากะพริบตา “จะพิสูจน์ได้อย่างไรล่ะ? ให้ข้าปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าคนมากมายหรือ? เช่นนั้นต่อไปใครจะไว้หน้าข้า?”
“เจ้าคงไม่กล้าหรอกกระมัง?” ผู้เฒ่าหลู่เย้ยหยัน “แม้ว่าผู้สืบทอดคนเก่าจะฆ่าปิดปากทุกคนที่รู้เรื่องในตอนนั้น แต่กระดาษไม่อาจปกปิดไฟได้ เจ้ามันตัวสองเพศ! หากเจ้าไม่กล้าพิสูจน์ก็ส่งตราประทับออกมา พวกเราจะไม่ทำอะไรเจ้า”
“อยากได้ตราประทับหรือ ได้สิ” โฉวซือเส่าชักดาบออกมาจากฝัก “งั้นก็ถามดาบในข้าก่อนแล้วกันว่ามันยอมหรือไม่”
“เหอะๆ ทาสใบ้บอกว่าเจ้าบาดเจ็บหนัก เอาแต่นอนอยู่บนเตียงต้องให้องครักษ์เงาคอยดูแล ตอนนี้เจ้าไร้เรี่ยวแรงแล้วยังจะกล้าขัดขืนอีกหรือ?” ผู้เฒ่าหลู่ยกยิ้มอย่างมีชัย “แล้วสตรีนางนั้นอยู่ที่ไหน? ตราประทับอยู่ในมือนางจริงหรือ?”
“ทาสใบ้เป็นคนของท่าน?”
ดวงตาของผู้เฒ่าหลู่หรี่ลง “คิดไม่ถึงล่ะสิ หากไม่ได้ทาสใบ้มาร่วมมือพวกเราจะตามหาที่ซ่อนของเจ้าพบได้อย่างไรกัน ทั้งยังสามารถบุกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย”
โฉวซือเส่าครุ่นคิดแต่สีหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง “เพื่อจะได้ครอบครองเนื้อติดมันของตระกูลโฉว พวกท่านจึงสมรู้ร่วมคิดกันทำทุกวิถีทาง ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ถ้าเก่งนักก็เข้ามาข้าก็ไม่ใช่คนที่พวกท่านจะมารังแกได้ง่ายๆ”
ผู้เฒ่าหลู่ยิ้มอย่างเคร่งขรึม “ในเมื่อพูดดีๆ แล้วเจ้าไม่ยอมทำตาม เช่นนั้นก็ขออภัยด้วย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าต่อให้เจ้าเก่งแค่ไหนก็ไม่อาจสู้กับระเบิดฟ้าคำรณของข้าได้!”
ใบหน้าของโฉวซือเส่าเรียบนิ่ง เขาแอบจับฝักดาบ รู้ดีว่าวันนี้เขาหมดทางหนีแล้ว
สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันที
จู่ๆ คนด้านนอกก็ส่งเสียงดัง “ใครกัน?”
น้ำเสียงไพเราะแต่ก็แฝงความกดดันดังขึ้น “แล้วพวกเจ้าเป็นใครล่ะ?”
โฉวซือเส่าตัวสั่นรีบเงยหน้าขึ้นมา เป็นเหลิ่งชิงฮวน นางปลอดภัยดีแต่ว่านางกลับมาทำไมกัน? ผู้เฒ่าหลู่เห็นสีหน้าของโฉวซือเส่าก็ยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะออกคำสั่งกับคนด้านนอก “ในเมื่อนางเต็มใจเข้ามาติดกับเช่นนั้นก็ให้นางเข้ามา”
ทันทีที่พูดจบเหลิ่งชิงฮวนก็เข้ามาจากด้านนอก ในมือถือโคมไฟ ขมวดคิ้วมองคนในห้องอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าเป็นใคร? บุกเข้ามาทำอะไรกัน?”
ผู้เฒ่าหลู่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะส่งเสียงเยาะเย้ย “เจ้าคือหมอหญิงที่รักษาโฉวซือเส่างั้นหรือ?”
เหลิ่งชิงฮวนยกโคมไฟในมือขึ้นแกว่งไปมาด้านหน้าของผู้เฒ่าหลู่ ก่อนจะตะคอกเบาๆ ด้วยความเย่อหยิ่ง “หมอหญิง? ใครบอกเจ้า?”
“หรือไม่ใช่?”
โฉวซือเส่ายกยิ้ม “ตราประทับบนตัวนางเป็นของปลอม ข้ารู้ตั้งแต่แรกว่าทาสใบ้เป็นคนของพวกท่านดังนั้นจึงใช้นางเป็นข้ออ้างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ”
จริงเท็จ เท็จจริง ผู้เฒ่าหลู่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
เหลิ่งชิงฮวนตกใจจนหน้าถอดสี เธอกลัวจนแขนสั่น “หากเจ้าไม่เชื่อ เช่นนั้นก็เข้ามาหาเองเลยสิ”
เดิมทีผู้เฒ่าหลู่ก็เป็นคนมากตัณหา เขาแต่งนางสนมอายุน้อยถึงสามเรือน เขาเหลือบมองเหลิ่งชิงฮวนพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม ในใจรู้สึกคันยุบยิบก่อนจะเดินไปข้างหน้า ยกดาบขึ้นมาเตรียมจะลงมือเพื่อเอาตราประทับมาจากเหลิ่งชิงฮวน
รองหัวหน้าที่อยู่ด้านข้างก็ไม่มีทีท่าว่าจะห้าม เพียงแค่จ้องมองเหลิ่งชิงฮวนอย่างหื่นกาม
ผู้เฒ่าหลู่เป็นคนที่วรยุทธ์สูงส่งและกล้าบ้าบิ่น อีกทั้งยังเห็นว่านางหยิ่งผยองจึงไม่ได้สนใจสตรีที่อ่อนแอเช่นนาง ก่อนจะเข้าไปลงมือทันที
ตอนนั้นเองเหลิ่งชิงฮวนก็ยื่นมือออกมาก่อนจะจับแขนของผู้เฒ่าหลู่บิดไปไว้ด้านหลัง จากนั้นก็กดมีดผ่าตัดเล่มคมเข้าที่ลำคอของเขา
“ถอยไปให้หมด ไม่อย่างนั้นข้าฆ่าเขาแน่!”
ทุกคนต่างตกตะลึงไม่มีใครคิดว่าเหลิ่งชิงฮวนจะสามารถเอาชนะผู้เฒ่าหลู่ผู้ซึ่งเป็นปรมาจารย์ด้านการต่อสู้ได้ง่ายๆ เช่นนี้
ดาบยาวในมือของผู้เฒ่าหลู่เองก็ถือไว้ไม่มั่นและหล่นลงกับพื้น
ผู้เฒ่าหลู่โมโหขึ้นมาทันที “เจ้าทำอะไรกับข้า”
เหลิ่งชิงฮวนชำเลืองมองโคมไฟ “ก็แค่อาศัยช่วงที่เจ้าไม่ระวังตัว ลอบวางยาพิษ สตรีไร้พิษสงเช่นข้ากลับสามารถเอาชนะผู้เฒ่าหลู่ได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ พวกเจ้าคิดว่าตอนนี้เขาจะยังเป็นคู่ต่อกรกับโฉวซือเส่าได้อีกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...