ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 222

ทั้งสองทิ้งเหลิ่งชิงหลางเดินตรงออกจากพระราชวังและเข้าไปในรถม้า

จากนั้นมู่หรงฉีจึงคลายความเกร็งของร่างกายในที่สุด ก่อนจะกอดเหลิ่งชิงฮวนแน่นในอ้อมแขนโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เหลิ่งชิงฮวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหดหู่ใจในตัวเขา เธอฟังการเต้นของหัวใจของเขาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยปากพูดว่า “ท่านเป็นอะไร หม่อมฉันอยู่ข้างท่านนะ”

มู่หรงฉีกระชับแขนเหลิ่งชิงฮวนให้แน่นยิ่งขึ้นพลางพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ ลมร้อนพัดผ่านศีรษะของเธอ “มีใครเคยบังคับให้เจ้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบหรือเปล่า”

เหลิ่งชิงฮวนเช็ดปลายจมูกกับหน้าอกของเขา “มีสิ เช่นแต่งงานกับท่าน”

มู่หรงฉียิ้มอย่างมีเลศนัยและลูบหัวของเธอเหมือนการลงโทษ

เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้น มองไปที่คางคมชัดและริมฝีปากโค้งบางของเขา “ท่านรู้สึกเจ็บปวดกับการที่พระสนมฮุ่ยเฟยลงโทษชิงหลางงั้นหรือ”

มู่หรงฉีเม้มริมฝีปาก “ชิงฮวน มีความหวังที่ดวงตาของจิ่นอวี๋จะฟื้นตัวได้หรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนเงียบไปครู่หนึ่งและพูดอย่างจริงจัง “หม่อมฉันขอโทษ หม่อมฉันไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้”

มู่หรงฉีพูดด้วยความยากลำบาก “เสด็จแม่ของข้ากล่าวว่าจะให้เวลาข้าหนึ่งเดือน หากดวงตาของจิ่นอวี๋ยังคงไม่สามารถฟื้นตัวได้ เหลิ่งชิงหลางต้องชดใช้ด้วยดวงตาของนาง”

ไม่ใช่เรื่องของฉัน อย่าหาว่าฉันใจร้ายเลยนะ

เหลิ่งชิงฮวนยังคงเงียบ

มู่หรงฉีกล่าวต่อ “และมีตัวเลือกที่สอง นั่นก็คือการแต่งงานกับกับจิ่นอวี๋ รับนางเป็นสนม”

นี่คือการข่มขู่สินะ

ใช้ดวงตาของคนที่ลูกชายชอบบังคับให้แต่งงานกับลูกสะใภ้ที่ตัวเองชื่นชอบ

นี่คือสิ่งที่แม่คนหนึ่งควรทำ? ผู้หญิงที่ชื่อจิ่นอวี๋สำคัญหรือความสุขลูกชายสำคัญกันแน่

ทันใดนั้นเหลิ่งชิงฮวนก็เข้าใจทันทีว่าทำไมมู่หรงฉีถึงอารมณ์ไม่ดี เรื่องนี้ไม่ยากเท่าไร แต่ผิดหวังกับคนเป็นแม่ ทำให้รู้สึกไม่เข้าใจ!

“แล้วท่านเลือกอันไหน”

“ให้ข้าแต่งงานกับจิ่นอวี๋ ข้าทำไม่ได้!”

“แต่จะให้ควักลูกตาของเหลิ่งชิงหลาง ท่านก็ทำไม่ได้ใช่ไหม”

มู่หรงฉีไม่ตอบ

เหลิ่งชิงฮวนค่อยๆ ปล่อยแขนของเขาให้เป็นอิสระ “งั้นท่านคงต้องการให้หม่อมฉันรักษาดวงตาให้จิ่นอวี๋ใช่หรือไม่”

คำว่า “ใช่” พยางค์เดียวธรรมดามู่หรงฉีกลับไม่อาจพูดออกมาได้ เขาสอดนิ้วเข้าไปในผมพลางขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ

“ชิงฮวน โปรดช่วยจิ่นอวี๋รักษาดวงตาของนางได้ไหม นี่จะถือพระคุณที่ข้าซึ่งติดค้างพ่อของจิ่นอวี๋ การรักษาดวงตาของเหลิ่งชิงหลางไว้คือการชดใช้สิ่งที่ข้าติดค้างกับนาง แล้วพวกเราจะได้อยู่อย่างสุขสบายกันเสียที”

“ท่านติดค้างอะไรเหลิ่งชิงหล่าง” เหลิ่งชิงฮวนถามอย่างใจเย็น “เพียงเพราะท่านแต่งงานกับนาง จึงต้องรับผิดชอบนางไปตลอดชีวิต ใช่หรือไม่”

มู่หรงฉีต้องการจะพูด แต่เมื่อนึกถึงคำพูดขอร้องที่เหลิ่งชิงหลางขอไว้ เขาจึงพูดอย่างมีชั้นเชิง “ข้า... ข้าทำร้ายนาง นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าแต่งงานกับนาง ข้ารู้สึกผิดกับนางโดยไม่สามารถนั่งมองอย่างนิ่งเฉยได้ ”

เขาไม่อยากพูด เหลิ่งชิงฮวนจึงไม่ถามต่อ “แล้วอย่างไรต่อ”

มู่หรงฉีหยุดชั่วคราว เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเหลิ่งชิงหลางอย่างไรเช่นกัน หากนางยืนกรานไม่ยอมหย่าและไม่ยอมให้แต่งงานใหม่ นางจะต้องใช้ชีวิตครั้งหลังเช่นไร

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยกแขนขึ้นคล้องคอเขาพลางกระซิบข้างหู “ถ้าอย่างนั้นมู่หรงฉีจะไม่ติดค้างใครนอกจากหม่อมฉัน แล้วใช้ทั้งชีวิตเพื่อตอบแทนดีไหม”

หัวใจของมู่หรงฉีเต้นระรัว เขากอดเหลิ่งชิงฮวนไว้ในอ้อมแขนของเขาอีกครั้ง ก่อนจะปิดริมฝีปากของเธอไว้แน่น

เมื่อเห็นว่าไม่มีคนเดินถนนเหลืออยู่ เหลิ่งชิงฮวนก็ปีนออกจากรถม้าออกมานั่งเคียงข้างกับมู่หรงฉี เวลานั้นพระอาทิตย์ตกดินได้ย้อมภูเขาเขียวชอุ่มเป็นสีแดง แม้แต่ลำธารบนภูเขายังเต็มไปด้วยแสงระเรื่อของพระอาทิตย์ตกดิน

ทั้งสองหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินนั้น อาบแสงแดดสีทองศักดิ์สิทธิ์ เอนศีรษะพิงไหล่อีกฝ่าย มู่หรงฉียื่นมือมาโอบรอบเอวของเธอ ชะลอความเร็วในการขับรถม้า เพื่อไม่ให้ตกหลุมบ่อมากจนเกินไป

ถนนบนภูเขาค่อนข้างกว้างมากพอที่จะให้รถม้าวิ่งผ่านไปได้

มู่หรงฉีอธิบายว่เขาามีบ้านพักฤดูร้อนบนภูเขา และทุกฤดูร้อนเขาจะมาที่นี่เพื่อหลบร้อนเป็นครั้งคราว มีเพียงชายหญิงชราคู่หนึ่งที่ดูแลบ้านพักหลังนั้น ทำให้สะอาดอยู่เสมอ

สิ่งที่เกิดขึ้นกับเหลิ่งชิงหลางทำให้เขารู้สึกกังวล ดูเหมือนว่าเขาต้องการที่จะปล่อยวาง ใช้เวลาสองวันอย่างสงบและผ่อนคลาย

เมื่อมู่หรงฉีกูดดังนั้น มือใหญ่คู่หนึ่งก็วนรอบเอวของเธออย่างผิดปกติ ซึ่งทำให้เหลิ่งชิงฮวนเข้าคำกล่าวที่ว่าความเมาไม่ได้ขึ้นอยู่กับเหล้าได้อย่างดี

รถม้าหยุดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งผนังสีขาวและกระเบื้องสีเทา ทันใดนั้นคู่สามีภรรยาได้ยินเสียงดังก็เดินออกมา หลังจากทำความเคารพเสร็จ ชายคนนั้นก็รับสายบังเหียนจากมือของมู่หรงฉี ส่วนหญิงอีกคนพาทั้งสองคนเข้าไปข้างใน จากนั้นรีบออกไปเตรียมน้ำชา ก่อไฟ หุงข้าว สั่งชายอีกคนจับาปลาในบ่อ ฆ่าไก่ในสวนหลังบ้านและเด็ดผักในสวน

ชายผู้นั้นเรียบง่ายและซื่อตรง ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นพยักหน้าตอบรับทุกอย่างไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ก่อนจะถือสายคาดหลังและเดินออกไปด้วยความตื่นเต้น

หมึกหยดหนึ่งหยดลงบนภูเขา เปรอะเปื้อนอย่างเงียบ ๆ เมื่อควันลอยขึ้นในคืนที่หมอกหนา ลานแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยกลิ่นอายของบ้านที่อบอุ่น

ทั้งคู่เป็นชาวปาสู่ ดังนั้นพวกเขาทำอาหารเสฉวนได้ดี เช่น ปลารสเผ็ด ไก่ผัดพริกดองและผัดผักใบเขียว

เมื่อรวมกับลมเย็นในสวน เสียงแมลงในฤดูร้อนที่ร้องเจื้อยแจ้วในทุ่งหญ้าข้างนอก เสียงร้องของกบในสระน้ำและเสียงน้ำเป็นครั้งคราวทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นได้ไม่ยาก

ทั้งสองไม่พูดอะไร พวกเขาถูกอาบด้วยแสงจันทร์เย็นฉ่ำราวกับน้ำ ก่อนจะมองหน้ากันด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง

เสื้อผ้าของเหลิ่งชิงฮวนถูกเปลื้องออกเผยให้ผิวขาวราวกระเบื้องเคลือบส่องประกายแวววาว เธอกัดริมฝีปากล่างแน่น แต่ยังคงประหม่าอย่างควบคุมไม่ได้

นี่เป็นครั้งแรกในความรู้สึกที่แท้จริงของเธอเป็นดั่งคลื่นถาโถมเข้าใส่ เพราะความเขินอายทำให้ตัวสั่นราวกับใบไม้ในสายลม ทั้งคาดหวังและทำอะไรไม่ถูกในเวลาเดียวกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา