พระสนมฮุ่ยเฟยไม่คาดคิดว่ามู่หรงฉีจะปฏิเสธการจัดการของนางอย่างเด็ดเดี่ยว ทำให้นางโกรธอยู่พักหนึ่ง “เอาเถิด ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่เสียไป ควักดวงตาของเหลิ่งชิงหลางออกมา ถือว่าไม่ติดค้างกันอีกต่อไป”
หัวใจของมู่หรงฉีสั่นสะท้าน เดิมทีเขาคิดว่าเหลิ่งชิงหลางจะต้องชดใช้เล็กน้อยในสิ่งที่ทำ ใครจะรู้ว่าบทลงโทษที่พระสนมฮุ่ยเฟยบอกจะรุนแรงขนาดนี้
แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไร แต่เขาก็ยังเป็นหนี้เหลิ่งชิงหลาง
“ชิงหลางไม่ได้ตั้งใจทำอย่างนั้น!เสด็จแม่ไม่คิดว่าการลงโทษครั้งนี้โหดร้ายเกินไปหรือ หากดวงตาของจิ่นอวี๋ฟื้นตัวได้เล่า”
“หมอหลวงเองยังทำอะไรไม่ถูก เจ้าคิดว่าเหลิ่งชิงฮวนสามารถรักษาดวงตาของจิ่นอวี๋ได้งั้นหรือ แล้วนางจะยอมทำหรือไม่ ดูปฏิกิริยาของนางมื่อครู่สิ นางไม่สนใจอาการบาดเจ็บของจิ่นอวี๋ด้วยซ้ำ แม่ว่านางคงอยากให้จิ่นอวี๋รีบตายๆ ไปเสีย”
“ชิงฮวนไม่ได้เป็นอย่างที่เสด็จแม่คิดอย่างแน่นอน นางจะไม่ละทิ้งความพยายามแม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนแปลกหน้าก็ตาม อีกอย่างหากเสด็จแม่ทำเช่นนี้ ท่านกำลังเอาจวนมหาเสนาบดีไปไว้ที่ไหน ท่านไม่กลัวหรือว่าลูกจะผิดใจกับจวนมหาเสนาบดี”
คำพูดเหล่านั้นทำให้พระสนมฮุ่ยเฟยตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นางสามารถดูถูกเหลิ่งชิงฮวนได้ แต่ไม่สามารถเพิกเฉยต่อจวนมหาเสนาบดีได้ หากฮ่องเต้รู้ว่านางใช้วิธีนั้นในการจัดการ เขาอาจจะรู้สึกว่านางโหดเหี้ยมและไม่สนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม
“ในเมื่อลูกพูดเช่นนั้น แม่จะยอมเชื่อเจ้าอีกสักครั้ง แม่จะให้เวลาหนึ่งเดือนย้ายจิ่นอวี๋ไปที่จวนอ๋องฉี เหลิ่งชิงหลางจะเป็นคนรับผิดชอบดูแลเรื่องอาหารการกิน ส่วนเหลิ่งชิงฮวนรับผิดชอบในการรักษาดวงตาของนาง
หากหนึ่งเดือนผ่านไป ดวงตาของจิ่นอวี๋ไม่ดีขึ้น แม่จะให้ควักดวงตาของเหลิ่งชิงหลางออก หรือไม่ลูกก็ต้องแต่งงานกับจิ่นอวี๋ ให้นางเป็นนางสนมและดูแลนางไปตลอดชีวิต!”
นี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของนาง
มู่หรงฉีนิ่งเงียบพลางเม้มริมฝีปากบางอยากไม่เชื่อสายตา “เสด็จแม่กำลังใช้ชิงหลางมาข่มขู่งั้นหรือ”
พระสนมฮุ่ยเฟยมองเขาอย่างผิดหวัง “ข่มขู่ลูกหรือ ฉีเอ๋อร์ แม่จะทำเช่นนั้นไปทำไม แม่แค่คิดว่าจิ่นอวี๋อ่อนโยนและมีน้ำใจ หากมีนางอยู่เคียงข้างดูแลชีวิตประจำวันของลูก แม่คงอยู่ในวังได้อย่างสบายใจ!
ครั้งล่าสุดที่ลูกป่วย แม่เห็นสองพี่น้องตระกูลเหลิ่งไม่มีใครปฏิบัติต่อลูกด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะเหลิ่งชิงฮวน จิตใจของนางไม่อยู่กับลูกแม้แต่น้อย แม่ยังสงสัยอยู่เลยว่าเด็กในท้องของนางเป็นลูกของเจ้าจริงหรือไม่!”
ประโยคนั้นจี้จุดอ่อนของมู่หรงฉีทันที “เรากำลังพูดถึงจิ่นอวี๋ ทำไมไปพูดถึงเหลิ่งชิงฮวนได้เล่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนางอย่างไร”
พระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ก่อนจะเกิดความสงสัยอีกครั้ง “บอกแม่ตรงๆ เด็กคนนี้เป็นลูกของลูกหรือเปล่า”
“เสด็จแม่อย่าคิดเรื่องไร้สาระพวกนั้นเลย”
พระสนมฮุ่ยเฟยยิ้มอย่างเย็นชา “แม่เชื่อพฤติกรรมของเหลิ่งชิงฮวนไม่ลงจริงๆ รอให้เด็กคนนี้เกิดมาก่อน แม่จะใช้หยดเลือดพิสูจน์ให้เจ้าเห็น จากนั้นลูกจะเก็บมันไว้ต่อหรือไม่ก็ตามใจ
มู่หรงฉีสูดหายใจเข้าลึก ๆ เต็มไปด้วยความโกรธ ทว่าไม่อาจแสดงออกมาได้ ท้ายที่สุดแล้วคนที่บังคับเขาให้เลือกก็คือแม่ของเขาเอง
เขากำหมัดแน่นและกัดฟันพูด “ชิงฮวนทำอะไรผิดถึง ทำไมเสด็จแม่จึงปฏิบัติต่อนางเช่นนี้”
“การตั้งครรภ์ก่อนแต่งงานถือเป็นพฤติกรรมแย่มาก ยิ่งไปกว่านั้นเหลิ่งชิงหลางบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลูกจะมีความสัมพันธ์ใดๆ ก่อนงานแต่งงาน นางทำให้ลูกไม่มีสติใช่หรือไม่”
มู่หรงฉีขมวดคิ้ว “นางกับชิงฮวนบาดหมางกันมาตลอด นางทำทุกอย่างเพื่อจัดการชิงฮวน เสด็จแม่เชื่อคำพูดของนางงั้นหรือ ชิงฮวนเป็นภรรยาของลูก ลูกรู้จักนิสัยของนางดีกว่าใครๆ ลูกหวังว่าจะไม่ได้ยินข่าวลือใดๆ เกี่ยวกับชิงฮวนในอนาคตรวมถึงจิ่นอวี๋ด้วย หากมีครั้งหน้าลูกจะไม่เกรงจอีกต่อไป”
“แม่ถามจิ่นอวี๋แล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง”
หากจิ่นอวี๋จงใจทำให้นางลำบาก ดวงตาของนางจะฟื้นตัวได้อย่างไร
แม้แต่แพทย์ก็ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้
นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้และวิงวอนต่อเหลิ่งชิงฮวน ท่านพี่ ท่านมีฝีมือด้านการแพทย์ ท่านต้องรักษาเธอได้อย่างแน่นอนใช่ไหม นางจะต้องจงใจให้ร้ายข้า ข้าไม่ได้ออกแรงเลยแท้ๆ ทำไมนางถึงเซไปข้างหลังมากขนาดนั้น “”
เหลิ่งชิงฮวนเยาะเย้ย “เหมือนกับตอนที่อยู่จวนมหาเสนาบดีแล้วเจ้าวางแผนใส่ร้ายว่าข้าผลักเจ้าตกน้ำต่าหน้ามู่หรงฉีใช่หรือไม่”
มือของเหลิ่งชิงหลางที่จับกระโปรงค่อยๆ คลายออก
“นี่แหละคือผลของการกระทำ ใครทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น ในที่สุดเจ้าก็ได้ลิ้มรสความรู้สึกถูกทำร้ายแล้ว เจ้าคิดว่าจะมีใครเชื่อเจ้าหรือไม่ มันมีแต่จะทำให้ท่านอ๋องและพระสนมฮุ่ยเฟยรู้สึกว่าเจ้าไม่รู้จะสำนึกผิด แล้วเจ้าคิดว่าการที่ขอร้องข้าแบบนี้ ข้าต้องช่วยเจ้างั้นหรือ ข้าจะช่วยเจ้าเพื่อให้เจ้ากลับมาแว้งกัดข้าอีกครั้ง?”
เหลิ่งชิงหลางหลั่งน้ำตาทันที
“ท่านพี่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว ได้โปรดช่วยชิงหลางด้วย”
มู่หรงฉีเดินไปที่ด้านข้างของเหลิ่งชิงหลางด้วยใบหน้าบูดบึ้ง ก่อนมองไปที่นางอย่างเย็นชาและค่อยๆ เปิดปากพูด “ในที่สุดเจ้าก็กลัวเป็นแล้วสินะ ผู้ที่ทำร้ายคนอื่นจะต้องชดใช้ในสักวันหนึ่ง ชิงฮวนไม่เอาความเจ้าไม่ได้แปลว่าเจ้าจะรังแกคนอื่นได้ง่ายๆ หลังจากนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน หากดวงตาของจิ่นอวี๋ไม่ฟื้นตัว เจ้าจะต้องชดใช้ด้วยดวงตาของตัวเอง”
เหลิ่งชิงหลางหน้าซีดด้วยความหวาดกลัวจนแทบจะทรุดลงกับพื้น “หม่อมฉันไม่ได้ตั้งใจ ท่านอ๋อง หม่อมฉันหน้ามืดไปชั่วขณะ!หม่อมฉันขอร้อง ท่านอ๋อง โปรดช่วยชิงหลางด้วย ถือว่าเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตของเรา”
มู่หรงฉีจ้องมองนางด้วยสีหน้าเย็นชาเขาไม่อยากพูดอะไรอีก ก่อนจะจูงมือเหลิ่งชิงฮวนเดินจากไป เหลิ่งชิงฮวนไม่รู้ว่าสองแม่ลูกคุยอะไรกัน แค่มองหน้าของมู่หรงฉี เธอก็รู้ว่าไม่ได้มีความสุข ทว่าคนฉลาดมักจะไม่ถามมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...