ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 228

เนื่องจากพระชายารุ่ยได้รับการผ่าตัดร่างกายจึงอ่อนแอ และยังต้องคอยให้ยาระงับอาการปวดกับเธอ บ่าวรับใช้ไม่รู้ถึงการทำแผล เหลิ่งชิงฮวนจึงยังไม่สามารถกลับไปที่จวนอ๋องได้ทันที เธอจึงต้องคอยดูแลอยู่ที่นี่ไปก่อน

มู่หรงฉีนั้นภรรยาว่าอย่างไรเขาก็ว่าตามนั้น เขาอยู่ต่อและไม่ไปไหน ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้รับการปฏิบัติในฐานะแขกของอ๋องรุ่ย เขาได้รับการดูแลทั้งอาหารและเหล้าชั้นเลิศ

ลี่วอู๋เองก็ติดเหลิ่งขิงฮวนแจ เธออาศัยช่วงที่ฮ่องเต้กำลังอารมณ์ดีเพื่อขอให้เธอได้อยู่ที่จวนอ๋องรุ่ยต่อไป

ในเวลาบ่ายพระชายารุ่ยก็พยายามใช้กำลังที่มีทั้งหมดในการฟื้นขึ้นมา เธอรู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผลเป็นอย่างมาก เนื่องจากไม่มีหมอนตัวของเธอจึงแข็งไปหมด

เหลิ่งชิงฮวนกับลี่ว์อู๋พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พวกเธอทำได้ทำตาพูดคุยกันอย่างออกรสพร้อมกับกินขนมไปด้วย

มือที่ทั้งขาวทั้งอวบคู่นั้นของลี่ว์อู๋กำแขนเสื้อของเหลิ่งชิงฮวนเอาไว้แน่น เธอดีใจเสียจนดวงตาทั้งคู่เป็นประกายพร้อมพูดออกมาจนน้ำลายแตกฟองกระจายออกมา “พี่สะใภ้สามคะ พี่ว่าเนื้อพวกนี้มันสามารถลดลงได้หรือคะ”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้าลง “ครั้งก่อนที่ไปเดินเล่นกันข้าสังเกตว่าเจ้าชอบกินอาหารที่ให้พลังงานมากและของทอดที่ให้พลังงานสูง นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เจ้าอ้วน ขอเพียงแค่เจ้าปรับอาหารที่เจ้ากินเข้าไปบวกกับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้วก็การฝังเข็มแล้วก็ยาของข้า ใช้เวลาหนึ่งเดือนก็จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน”

ลี่ว์อู๋เอาตัวเข้าไปถูกับเหลิ่งชิงฮวน เนื้อบริเวณเอวนั้นกลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว “ข้าลองวิธีอดอาหารมาหลายครั้งแล้ว จะกลัวการที่จะต้องมาอดอาหารจนตาลายที่ไหนกันล่ะ มันไม่ได้ผลเลยสักอย่าง”

“การลดน้ำหนักต้องทำอย่างสม่ำเสมอ จะมาทำวันสองวันแล้วเลิกไม่ได้ ดังนั้นเจ้าต้องมีความเด็ดเดี่ยว เช่นผอมลงแล้ว...” เธอเข้าไปที่ข้างหูของลี่ว์อู๋พร้อมกับกระซิบเสียงเบา “นัดผู้ชายที่ยอดเยี่ยมอย่างรัชทายาทเสิ่นอะไรพวกนั้น”

ใบหน้ากลมของลี่ว์อู๋แดง เธอร้องอกมาปนดุว่า “พี่สะใภ้สาม!”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะ “ฮิ ฮิ” “เป้าหมายนี้ชัดเจนดีไหม”

ลี่ว์อู๋กำหมัดแน่นราวกับว่าพละกำลังทั้งหมดในร่างของเธอนั้นรวมอยู่ที่กำปั้นนั้น “ความเด็ดเดี่ยวข้ามี ข้ามีค่ะ เอาล่ะพี่สะใภ้สาม ท่านเป็นพี่สะใภ้ที่ดีที่สุดของข้า ท่านช่วยข้าหน่อยนะ”

พระชายารุ่ยที่นอนเอนกายอยู่ใบมุมอับกลอกตา

เธอไม่เห็นเหลิ่งชิงฮวนอยู่ในสายตา สาเหตุแรกก็เป็นเพราะว่าเกี่ยวกับเรื่องข่าวลือเสียหายของเธอ ทำให้คนที่ได้รับการสั่งสอนเรื่องมารยาทอย่างเธอนั้นรับไม่ได้ ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งก็เป็นเพราะความอิจฉา

เห็นได้ชัดว่าเหลิ่งชิงฮวนมีความผิดใหญ่โตขนาดนั้น ทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสีย แต่ว่าไทเฮากลับปกป้องเธอและมองเธอเป็นคนโปรด อีกอย่างหนึ่งก็คือเธอได้หน้าได้ตามาโดยตลอด นับวันยิ่งมีแต่คนชมเธอ แม้กระทั้งแม่สามีของเธอ อีกทั้งยังมีพ่อตาต่างก็พากันพูดยกยอผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเธอ ชื่นชมว่าเธอนั้นทั้งมีโชคและมีสามีที่ดี

เธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจราวกับว่าตัวเองนั้นพยายามต่อสู้อย่างหนักมาตลอด เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ออกแรงแม้เพียงสักนิดกลับได้ทุกสิ่งไปอย่างง่ายดาย

ในเวลานี้เหลิ่งชิงฮวนก็ใช้คำพูดเพียงไม่กี่ประโยคซื้อคนสนิทของเธอไปได้ ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ และเอาแต่เรียกเธอว่าพี่สะใภ้

แต่ว่าในเวลานี้ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้โกรธแบบนั้นอีกแล้ว เป็นเพราะว่าตัวเธอเองก็คงถูกซื้อไปแล้ว เหลิ่งชิงฮวนช่วยชีวิตของเธอไว้

เธอนอนอยู่บนเตียงอย่างทุกข์ทรมานมาสองวันสองคืน คนที่อยู่ระหว่างความเป็นกับความตายอย่างเธอนั้นหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าใครจนแทบไม่มีแรง มีคนตั้งมากมายล้อมรอบอยู่แบบนั้นและคอยจ้องจะเล่นงาน ทุกคนทำแค่ชี้นิ้วไปมาและคิดเพียงแค่จะมองหาความสนุกเพียงเท่านั้น

ในช่วงวินาทีสุดท้ายที่ตัวเธอนั้นจะยอมแพ้ ก็เป็นเหลิ่งชิงฮวนที่มอบความหวังให้กับเธอ

เธอควรที่จะไม่ยื่นมือเข้ามาสอดอย่างไรเสียนี่ก็เป็นเรื่องยุ่งยาก แต่หลังจากที่ถูกเธอเยาะเย้ยถากถางไปแล้ว เธอก็ยังคงไม่ยอมแพ้และยังให้โอกาสกับเธอเป็นครั้งสุดท้าย “เจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่หรือไม่”

แน่นอนว่าเธอต้องอยากมีชีวิตอยู่ เธอได้ลงมาจากที่สูงแล้ว

พระชายารุ่ยไอออกมาเบาๆ และพูดอำออกมาอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก “ข้าอยู่ตรงนี้และเจ็บเจียนตายแต่พวกเจ้าสองคนกลับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน พวกเจ้าแต่ละคนไม่มีใครดีเลย”

เมื่อเห็นว่าเธอฟื้นขึ้นแล้ว ลี่ว์อู๋ก็ใช้มือจับที่หัวเข่าแล้วออกแรงลุกยืนขึ้น เธอก้าวไปข้างหน้าด้วยความเป็นห่วง

เหลิ่งชิงฮวนกลับไม่ขยับเลยสักนิด เธอกระพริบตาปริบๆ “ถ้าอิจฉา งั้นก็มาคุยด้วยกันสิ อย่างไรเสียพวกเราก็ว่าง”

“ตอนนี้ข้าเป็นคนป่วย และเพิ่งคลอด เจ้าจะไม่ถามข้าน้อยหรือว่าข้ากระหายหรือว่าหิวหรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนเบ้ปาก “ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ เวลานี้ทองของท่านเปิดอยู่ ถ้าดื่มน้ำลงไปเกรงว่ามันจะซึมออกมา จึงไม่สามารถดื่มได้”

ประโยคนี้ทำให้พระชายารุ่ยตกใจจนตัวสั่น “อะไรนะ งั้นหลังจากนี้คาดจะอยู่หรือจะตายก็ไม่ได้ต่างกันน่ะสิ”

ฮูหยินฮัว เป็นนางบำเรอที่อ๋องรุ่ยโปรดปรานมากที่สุดในเวลานี้ อ๋องรุ่ยนั้นให้ความสำคัญกับภรรยาของตัวเองมาก แต่เขาเองก็ไม่รีรอที่จะไปโปรดปรานผู้หญิงคนอื่น

ลี่ว์อู๋ไม่เข้าใจ เธอเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาทำไมถึงได้อยากเจอฮูหยินฮัวกัน ไม่รู้สึกรกหูรกตาหรือไงกัน แต่ว่าคนฉลาดก็ไม่ควรที่จะถามมากเธอจึงไปตามฮูหยินฮัวเข้ามา

เหลิ่งชิงฮวนที่ได้เห็นฮูหยินฮัวครั้งแรก สิ่งแรกที่ที่เธอรู้สึกคือปีศาจที่ดูราวกับงูน้ำ ใบหน้ากระชากวิญญาณ ที่ทำให้บรรดาหญิงสาวเห็นแล้วรู้สึกว่าเหมือนกับเธอได้กินเนื้อหมูสามชั้นเคลือบน้ำตาลเข้าไปหนึ่งกิโลกรัม ที่ทำให้รู้สึกเลี้ยงตั้งแต่กระเพาะอาหารจนดันขึ้นไป

พระชายารุ่ยนอนราบอยู่กับเตียง เธอหันหน้าไปด้านข้างแล้วถามกับฮูหยินฮัวว่า “ได้ยินมาว่าเสื้อผ้าที่ข้าเปลี่ยนชุดนั้นเจ้าเป็นคนเก็บไว้หรือ”

ใบหน้าของฮูหยินฮัวมีความเคารพ แต่ว่าน้ำตาของเธอนั้นกลอกไปมาราวกับมีลมพัดแรง

“ชุดนั้นเปื้อนเลือดเพคะ หม่อมฉันเลยให้คนเอาไปซัก”

ใบหน้าของพระชายารุ่ยราบเรียบ “ในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ ฮูหยินฮัวกลับนึกถึงเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้”

สีหน้าของฮูหยินฮัวเริ่มลนลานขึ้นเล็กน้อย “หม่อมฉันเกรงว่าเมื่อคราบเลือดแห้งแล้วจะทำให้ซักไม่ออกไงเพคะ”

พระชายารุ่ยหัวเราะออกมา “จวนอ๋องของข้าจนขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน กระโปรงชุดนึงมีค่าแค่ไม่กี่ตำลึงเงิน ฮูหยินฮัวถึงได้ละเอียดละออขนาดนี้”

เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ด้านข้างเดาความหมายที่อยู่ในคำพูดของพระชายารุ่ยออกว่ามีอย่างอื่นแฝงอยู่ ต้องมีลับลมคมนัยซ่อนอยู่ในนั้น ไม่อย่างนั้นทำไมพระชายารุ่ยถึงได้หาเรื่องนางบำเรอเพราะเรื่องเล็กนี่ หากถูกเผยแพร่ออกไปคงกลายเป็นเรื่องตลก

ฮูหยินฮัวกลับยิ่งลนลาน เธอกำผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในมือแน่นจนกระดูกข้อนิ้วเปลี่ยนเป็นสีขาว

“บ่าวแซ่ฮัวมีชาติกำเนิดไม่ดี และต้องคอยประหยัดมาตั้งแต่เล็ก เทียบไม่ได้กับพระชายาที่หรูหราอหรอกเพคะ”

“งั้นหรือ” พระชายารุ่ยยิ้มเย็น “วันนี้ข้าจะไปหาเจ้าที่นั้น น้ำค้างกลั่นที่เจ้าทำหกไว้บนตัวของข้านั้นกลิ่นไม่เลวเลย อีกครึ่งขวดที่เหลือยังมีอยู่ไหม”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา