เหลิ่งชิงฮวนกำลังจดจ่ออยู่กับการรักษาบาดแผลของแม่หวังจึงไม่ได้สนใจ ส่วนโตวโตวก็ร้องตะโกน “คุณหนู ระวังเจ้าค่ะ!”
เธอเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงก็เห็นบางสิ่งที่พ่นประกายไฟลอยมาทางเธอ เธอตอบสนองอย่างรวดเร็ว ขว้างขวดยาในมือของออกไปกระแทกประทัดจนระเบิดกลางอากาศ
เหลิ่งชิงฮวนรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นเจ้าเด็กเหลือขอนี่ที่จุดประทัดโยนใส่หม้อต้มโจ๊ก เมื่อประทัดระเบิดก็ทำให้โจ๊กกระเซ็นออกไปจนลวกแม่หวัง
ตอนที่อยู่ในจวนมหาเสนาบดีเด็กคนนี้ซนมาก มักจะใช้เล่ห์เพทุบายเพื่อแกล้งเหลิ่งชิงฮวน แต่ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำตัวแบบนี้ในจวนอ๋อง
ตอนที่ประทัดระเบิดก็ไม่ไกลจากเจ้าเด็กเหลือขอมาก เศษประทัดจึงกระเด็นมาโดนหน้าของเขาจนเป็นแผล เขากรีดร้องเสียงดัง
“นังสารเลว กล้ารังแกคุณชายน้อยอย่างข้าหรือ ข้าจะฟ้องท่านแม่ให้ถลกหนังเจ้า!”
เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้สนใจเขา
เขาคุ้นเคยกับความไร้กฎไร้ระเบียบในจวนมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่าเหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ร้องขอความเมตตาจากเขาเหมือนเคย จู่ๆ ก็รู้สึกอับอายจนโกรธและพุ่งเข้าหาเธออย่างดุเดือดราวกับเสือตัวน้อย ก่อนจะยกขาเตะเธอ
โตวโตวย่อมไม่อาจยอมให้คุณหนูของเธอถูกทุบตีได้ แต่นางก็ไม่กล้าลงมือกับเจ้าเด็กอันธพาลคนนี้ จึงได้แต่เดินไปข้างหน้าและรับลูกเตะของเขาแทนเหลิ่งชิงฮวน
เหลิ่งชิงเจียวอายุแปดปี อ้วนท้วนสมบูรณ์ ลูกเตะนี้ของเขาทำให้โตวโตวถึงกับต้องกัดฟัน สูดลมหายใจอย่างเจ็บปวดก่อนจะถอยหลังไปสองก้าวพิงร่างเหลิ่งชิงฮวน
เจ้าเด็กอันธพาลไม่คิดที่จะหยุด เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเบาๆ อย่างโมโหก่อนจะลุกขึ้นยกชายกระโปรงขึ้นและเตะเข้าที่หน้าอกของเขาจนเขาล้มลงกับพื้น จากนั้นก็หันกลับไปตำหนิโตวโตว “ทำไมไม่สู้กลับ ปล่อยให้เขาลงมือแบบนี้ได้อย่างไร”
โตวโตวใช้เวลาสักพักในการฟื้นตัว “เขาเป็นเจ้านาย บ่าว…”
“เจ้านายที่ไหนกัน!” เหลิ่งชิงฮวนด่าทอเสียงดัง “เจ้านายของเจ้ามีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้น! หากมีใครกล้าทำอะไรเจ้าก็สวนกลับไปซะ!”
เป็นครั้งแรกที่เหลิ่งชิงเจียวรู้สึกเสียเปรียบมากขนาดนี้ เขานั่งร้องไห้ตะโกนด่าทออยู่กับพื้น คนรับใช้เห็นเข้าก็รีบไปที่เรือนจื่อเถิงเพื่อบอกเหลิ่งชิงหลางกับจินอี๋เหนียง
จินอี๋เหนียงที่รู้ว่าลูกสาวของตนบาดเจ็บก็พาเหลิ่งชิงเจียวมาเยี่ยม สองแม่ลูกบอกให้เหลิ่งชิงเจียวออกไปข้างนอกเพื่อที่จะได้คุยกันสองคน แต่เมื่อได้ยินว่าลูกชายสุดที่รักบาดเจ็บก็รีบไปทันที
เหลิ่งชิงเจียวนอนอยู่กับพื้น ใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและคราบเลือด ดูแล้วน่าตกใจไม่น้อย
จินอี๋เหนียงรู้สึกสงสารจับใจ นางสะอื้นเรียกแก้วตาดวงใจ “ใครมันโหดเหี้ยมทำกับเจ้าเช่นนี้”
เหลิ่งชิงเจียวไม่เคยพูดความจริง เขายกมือชี้ไปที่เหลิ่งชิงฮวน “นังสารเลวนั่นใช้ประทัดทำร้ายลูก ซ้ำยังกล้าเตะลูกอีก”
เสียงร้องไห้โหวกเหวกโวยวายทำให้คนรับใช้ในจวนต่างพากันมายืนดูความสนุกนี้
จินอี๋เหนียงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดใบหน้าของเหลิ่งชิงเจียว เมื่อเห็นว่าใบหน้าของเขาเป็นแผลแตกก็ตบเข่าฉาด “จะอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้า คุณหนูใหญ่ เจ้าลงมือกับเขาเช่นนี้ได้อย่างไร นี่ทำให้เขาเสียโฉมได้เลยนะ”
เหลิ่งชิงฮวนยกมือขึ้นชี้ไปที่แม่หวังพร้อมกับเอ่ยเสียงเย็น “ตอนนี้เขาอายุแปดปี ไม่ใช่เด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแล้ว แต่เขากลับทำร้ายแม่หวัง ข้าในฐานะพี่สาวจะสั่งสอนเขาไม่ได้เลยหรือ?”
“เหลวไหล!” เหลิ่งชิงเจียวเอ่ยปัด “นังบ่าวคนนี้ไม่ระวังเองเกี่ยวอะไรกับข้า”
จินอี๋เหนียงร่ำไห้ต่อหน้าบ่าวในจวน “ข้ารู้ว่าท่านอ๋องเอ็นดูน้องสาวเจ้าดังนั้นเจ้าจึงไม่พอใจพวกเราแม่ลูก เจ้าโกรธอะไรก็มาลงที่ข้า
แม้ว่าเขาจะนิสัยไม่ดีแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเด็ก วันนี้เขาโวยวายมาครึ่งค่อนวันอีกทั้งยังหิวมาก ดังนั้นจึงพุ่งเข้าไปหาเหลิ่งชิงฮวนทันที เขายื่นแขนไปหยิบขนมที่เหลือครึ่งซีกในมือของนาง ปามันลงพื้นแล้วใช้เท้าเหยียบย่ำพร้อมทั้งด่าทอเสียงดัง
“เจ้าไม่รู้ว่าหรือว่าถั่วเหลืองจานนี้คือของโปรดของข้า? นังสารเลวอย่างเจ้าคู่ควรที่จะกินด้วยหรือ? คราวหลังถ้าข้าเห็นเจ้าข้าจะทุบตีเจ้า!”
เหลิ่งชิงฮวนไม่เดือดร้อน เพียงแค่ยกยิ้มก่อนจะเอ่ย “พวกข้าจะกินของที่เจ้าชอบไม่ได้งั้นหรือ? นี่ของที่ข้าจ่ายเงินซื้อมา”
“เหลวไหล! เจ้ามีเงินที่ไหน” เหลิ่งชิงเจียวใบหน้ากลมแดงและสั่น “ท่านแม่บอกว่าเงินทั้งหมดในจวนมหาเสนาบดีจะตกเป็นของข้า เงินสองร้อยตำลึงที่ให้เจ้าทุกเดือนน่ะเป็นแค่ความเมตตา พอให้เจ้าใช้หรือ?”
แม้ว่าคนรับใช้ในจวนอ๋องจะเป็นบ่าวขั้นสาม แต่เด็กวิ่งงานทั่วไปก็ได้เงินเดือนละห้าร้อยตำลึงแล้ว นี่นี่ยังไม่รวมการตกรางวัลอื่นๆ แล้วนับประสาอะไรกับบ่าวขั้นหนึ่งที่พอมีหน้ามีตา แต่บุตรีจวนมหาเสนาบดีกลับได้เงินเพียงแค่สองร้อยตำลึงต่อเดือน?
มิน่าพระชายาคนนี้ถึงได้ประหยัดอดออม ขนาดเข้ามาในจวนยังไม่ได้รับการตกรางวัลเลยสักครั้ง
จินซื่อกลับไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้จึงตกใจ แต่ก็ไม่ลืมที่จะแสร้งทำเป็นร้องไห้ เธอผุดลุกขึ้นจากพื้นก้าวไปปิดปากของเหลิ่งชิงเจียว “เด็กคนนี้พูดจาเหลวไหลอะไรกัน”
เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นยืนหยิบผ้าออกมาเช็ดนิ้วมือก่อนจะกวาดสายตามองรอบๆ แล้วหัวเราะ “ละครเรื่องนี้น่ะน่าจะพอได้แล้ว อย่าให้มันมากเกินไป คิดดูสิว่าท่านเป็นคนจากจวนของราชเลขา ครั้งนั้นที่ข้า แม่และพี่ชายเข้ามาในเมืองหลวงก็ถูกท่านบีบบังคับจนจนตรอก ท่านมีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนั้นจะถูกเด็กที่ไร้ที่พึ่งอย่างข้าข่มเหงได้อย่างไรกัน?
พ่อแม่ไม่รักข้า ใครจะมาสั่งสอนข้า จวนมหาเสนาบดีคือใต้หล้าของพวกท่านแม่ลูก เขาถึงได้มีนิสัยโหดร้ายเช่นนี้
เรื่องในวันนี้หากข้าพูดอะไรผู้คนก็จะหาว่าข้าเก่งแต่กับเด็ก ซึ่งมันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด คนที่สายตาเฉียบแหลมจะรู้ได้ทันที บ่าวในจวนของข้าสองคน คนหนึ่งถูกระเบิดประทัดของเขาจนบาดเจ็บ ส่วนอีกคน รอยเท้าของเขายังอยู่บนกระโปรงนางอยู่เลย
หากพวกท่านจะฟ้องร้อง อยากจะเล่นละครเรื่องนี้ต่อเช่นนั้นก็เชิญตามสบาย ข้าไม่ขอร่วมด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...