ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 264

“มีเงินก้อนนั้นอยู่จริง มันก็เป็นของคุณชาย เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้าด้วย” จือชิวถาม

“คุณชายไม่รู้เรื่องนี้หรอก”

“เจ้าหมายความว่าจะแอบยักยอกเงินก้อนนี้ออกมางั้นหรือ”

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เรื่องนี้จินซื่อเป็นคนกำชับกับเหลิ่งชิงหลางด้วยตัวเอง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้”

“ขอเวลาอีกสักสองสามวันได้หรือไม่”

ฟังผิ่นจือมีสีหน้าลำบากใจ “ตอนนี้คุณหนูของเจ้าถูกท่านอ๋องกักบริเวณ ห้ามมิให้ออกไปไหนเป็นการส่วนตัว นางไม่สามารถไปเอาเงินจากเหลิ่งชิงเจียวได้ แม่จ้าวเองก็เพิ่งไปอยู่ที่จวนมหาเสนาบดี ยังไม่รู้จักมักคุณกับเหลิ่งชิงเจียวมากนักคงพูดอะไรไม่ได้”

“พวกเจ้าอยากให้ข้าเป็นคนทำเรื่องนี้เองสินะ”

“เหลิ่งชิงเจียวรู้ว่าเจ้าเป็นคนสนิทของคุณหนู ข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องได้รับเงินนั่นอย่างแน่นอน เงินนั่นมีแค่สี่พันกว่าตำลึงไม่ถึงห้าพันตำลึง เจ้าจงเอาสิ่งของไปยืนยันเพื่อนำเงินก้อนนั้นออกมา หากไม่พอจริงๆ ข้าให้เจ้าได้อีกเล็กน้อย”

จือชิวเริ่มรู้สึกลังเล

การรับเงินจากฟังผิ่นจือโดยตรงแน่นอนว่ามีความเสี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย หากสามารถไปเอาจากที่ฝากเงินจะปลอดภัยกว่า หลังจากได้รับเงินสี่พันตำลึงแล้ว นางจะออกจากเมืองหลวงและไม่ยอมโดนพวกเขาเอาเปรียบอีกต่อไป

“เจ้าพูดจริงหรือเปล่า”

“เจ้ากำลังกุมความลับของเราเอาไว้และยังขัดขวางทางเดินของเราอยู่ เจ้ายังกลัวว่าเราจะเล่นกลอุบายอะไรอีกหรือ จริงไม่จริงเจ้าลองดูก็ได้ เจ้าหาทางพาคุณชายไปที่หมู่บ้าน เมื่อใดที่คุณหนูได้รับสิ่งของยืนยัน จากนั้นทุกอย่างข้าจะเป็นคนไปจัดการต่อเอง”

จือชิวกัดฟันกรอด “ได้ ครั้งนี้ข้าจะลองเชื่อเจ้า ถ้าเจ้าคิดไม่ซื่อแล้วละก็ข้าจะเปิดโปงเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องรู้”

ภัตตาคารหงปิน

เหลิ่งชิงฮวนนั่งอยู่ในห้องหรูหราริมหน้าต่าง เจ้าของร้านนำอาหารและเหล้าเข้ามาเสิร์ฟด้วยตัวเอง ผัดเผ็ดกุ้งหมาฮวาหนึ่งจาน เนื้อกวางหนึ่งจาน เครื่องเคียงสองอย่างและน้ำชาหนึ่งเหยือก

อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยสีสัน กลิ่นหอมและรสชาติที่ดี เหลิ่งชิงฮวนถูกดึงดูดอาหารบนโต๊ะจนเกือบลืมจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทาง

เจ้าของร้านรินชาให้เธอเป็นการส่วนตัว จากนั้นยื่นกระดาษสองสามแผ่นให้เธอ

“มีการตรวจสอบแล้วว่าหน้ากากเป็นเครื่องหมายพิเศษขององครักษ์อินทรี นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่เรามีเกี่ยวกับพวกเขาขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนรู้มานานแล้วจึงไม่แปลกใจมากนัก

เธอตรวจดูอย่างระมัดระวัง ทว่าไม่ได้รับเบาะแสอะไรมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเบาะแสเพียงเล็กน้อยปากของเจ้าหน้าที่หลายคนที่ถูกคุกคามโดยองครักษ์อินทรี มีเพียงสองพยางค์เท่านั้น “ลึกลับ”

แต่จุดประสงค์ขององครักษ์อินทรีนั้นชัดเจนมาก นั่นคือการสอบถามเกี่ยวกับความลับของเจ้าหน้าที่ในฉางอัน

เหลิ่งชิงฮวนคาดเดาไปต่างๆ นานา เธอเชื่อว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับราชสำนักฉางอันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรืออาจเป็นบุคคลที่อยู่เหนือราชสำนักอยู่แล้ว หากเข้าใจจุดอ่อนของเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะสามารถใช้มันเป็นภัยคุกคามเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายทำงานให้

เมื่อมองจากมุมนี้ องครักษ์อินทรีถือเป็นดั่งเนื้องอกร้ายในฉางอัน เป็นอันตรายที่ซ่อนอยู่ซึ่งไม่ควรทิ้งไว้เบื้องหลัง

และคืนอุกอาจในสำนักแม่ชีหนานชานถือเป็นข้อมูลอย่างหนึ่งด้วยหรือไม่

ไม่ช้าก็เร็วอาจมีคนมาถึงจวนและบอกกับเธอว่า “จงเชื่อฟังคำสั่งของเรา มิเช่นนั้น ตัวตนที่แท้จริงของเด็กในครรภ์จะถูกเปิดเผย จากนั้นสิ่งที่เจ้ากับอ๋องฉีทำจากลายเป็นอาชญากรรมใหญ่หลวง นั่นคือการหลอกลวงฮ่องเต้ เด็กคนนี้ก็จะไม่รอดเช่นกัน”

ตัวเองจะยอมปฏิบัติตามหรือไม่

เธอรู้สึกตื่นตระหนกจนพูดไม่ออก แค่สูญเสียความบริสุทธิ์ก็น่าเวทนามากแล้ว

นอกจากจะกำจัดองครักษ์อินทรีและต้องเป็นฝ่ายโจมตีก่อน ก่อนที่เขาจะก่อปัญหา โดยเฉพาะผู้ชายคนนั้น ให้ตายเถอะ ถึงจะถูกตอนไปแล้วก็หยุดความเกลียดชังครั้งนี้ไม่ได้!

เธอวางกองเอกสารลง “เบาะแสเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ ข้าอยากรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังองครักษ์อินทรี ที่ซ่อนของพวกเขาอยู่ที่ไหน อย่าลืมค้นหาอย่างระมัดระวัง อย่ามีพิรุธแม้แต่น้อย”

เจ้าของร้านพยักหน้า “ข้าน้อยกำลังจะกราบเรียนฮูหยินพอดี ท่านปราดเปรื่องมาก สำนักแม่ชีหนานชานมีบางอย่างผิดปกติจริงด้วย”

น่าสนใจ

“ยังไม่ทราบภูมิหลังในขณะนี้ขอรับ ข้าน้อยรู้เพียงว่านางเป็นแม่ชีที่เพิ่งบวชเมื่อฤดูใบไม้ผลินี้ คนของเราพบนางบนถนนแคบๆ ขณะแอบฟังและเกิดการต่อสู้กัน ทักษะการต่อสู้ของนางทรงพลังมาก ข้าน้อยไม่ค่อยรู้จักท่วงท่าศิลปะการต่อสู้จึงไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

สำนักแม่ชีเล็ก ๆ แต่กลับซ่อนความน่าสะพรึงไว้ ไม่แปลกที่จะเจอองครักษ์อินทรีในกลางดึกแบบนั้น

เจ้าของร้านถามเธอว่า “” ท่านคิดว่าจำเป็นต้องสอบสวนต่อไปหรือไม่ขอรับ โดยทั่วไปพวกเราหอซ่อนดาบจะไม่เข้าไปแทรกแซงกิจการของราชสำนัก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อีกอย่างตอนนี้คนของเราถูกเปิดเผยสถานะแล้ว ถึงเวลานั้น...”

เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “พวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ แล้วพวกเจ้าไม่ใช่หรือ...”

เจ้าของร้านมั่นใจขึ้นมาทันที “ในเมื่อฮูหยินพูดเช่นนี้ พวกเราก็ไม่มีอะไรต้องกลัว ฮูหยินอยากให้เราตรวจสอบอะไรหรือขอรับ ตรวจสอบบุคคลลึกลับที่ไปมาที่นั่นหรือตัวตนของแม่ชี”

เหลิ่งชิงฮวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “จำเป็นต้องตรวจสอบอย่างแน่นอน กว่าจะหาเบาะแสขององครักษ์อินทรีมาได้ยากมาก ดังนั้นอย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น หากอีกฝ่ายระแวดระวังเกินไป ไม่สะดวกที่จะเข้าไปแทรกแซง เจ้าจงหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมดจะได้ไม่เปิดเผยตัวตนและทำลายเงื่อนงำ เจ้าต้องอดทนและวางแผนสำหรับระยะยาว”

“ฮูหยินไม่ต้องห่วงขอรับ” เจ้าของร้านรับปาก “หากมีอะไรคืบหน้า ข้าน้อยจะส่งจดหมายแจ้งห่านทราบทันที”

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้าและนึกบางอย่างได้ “อ้อ ข้าอยากให้เจ้าช่วยตรวจสอบใครบางคนด้วย”

“ใครหรือขอรับ”

“คนอื่นเรียกนางว่ายายหลิง แต่นั่นคงไม่ใช่ชื่อจริงของนาง นางเป็นพี่เลี้ยงขององค์หญิงจิ่นอวี๋ หลังจากที่องค์หญิงจิ่นอวี๋เข้าวัง นางก็หายตัวไป ทว่ากลับมาปรากฏตัวต่อหน้าองค์หญิงจิ่นอวี๋อย่างแปลกประหลาดลึกลับ ข้าอยากรู้ว่านางมีที่มาอย่างไรและร่ำเรียนวิชาอะไรมาบ้าง”

“พระชายาเอกมีรูปเสมือนของนางหรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหัว “” นางผอมแห้งราวกับกิ่งไผ่ ชอบสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่ ผิวของนางขาวซีด ดวงตาหมองคล้ำ ดูโดดเด่น เจ้าแอบตามข้าไปที่จวนมหาเสนาบดีเพื่อดูนางก็ได้”

เจ้าของร้านพูดว่า “รอสักครู่” ก่อนจะหันกลับไป เข้าอีกทีไปพร้อมกับดินสอและกระดาษ ทำการวาดตามคำบอกของเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนแก้ไขความแตกต่างเล็กน้อยและระบายสีใหม่ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับตัวจริง 60-70%

เจ้าของร้านเก็บดินสอพลางพูดว่า “ข้าน้อยจะส่งคนไปตรวจสอบ หากมีอะไรคืบหน้าจะรายงานให้พระชายาเอกทราบในทันทีขอรับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา