ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 271

เหลิ่งชิงหลางอดไม่ได้ที่จะถอยหลังหนี ใบหน้าพลันเปลี่ยนสี “มีใครอีกที่เห็น?”

เหลิ่งชิงเจียวส่ายหน้า “มีแค่ข้าคนเดียว จู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่าท่านพี่มีบางอย่างจะพูดดังนั้นจึงวิ่งไปหาจือชิวก็เห็นแม่ของชิงฮว่ากำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าอุดปากจือชิวก่อนจะผลักนางลงน้ำ ดวงตาของจือชิวเบิกกว้าง จ้องมองข้า พี่รอง ทำไมท่านต้องฆ่าจือชิว จือชิวไม่ใช่คนของท่านหรอกหรือ”

เหลิ่งชิงหลางครุ่นคิด ไม่นึกเลยว่าแผนการที่คิดมาอย่างดีจะยังเหลือร่องรอยไว้ เหลิ่งชิงเจียวดันเห็นตอนที่จือชิวโดนฆ่า มิน่าเขาถึงได้จับไข้ ที่แท้ก็ไปเจอเรื่องน่าตกใจมา

นางเหลือบมองไปทางหน้าต่างอย่างหวาดกลัว ลุกไปสอดส่องซ้ายขวาก่อนจะกลับมานั่งลงข้างๆ เหลิ่งชิงเจียวและเอ่ยกำชับเสียงเบา “นังจือชิวขายนายเอาผลประโยชน์ นางทรยศพี่ จึงไม่สามารถเก็บนางไว้ได้ พี่เองก็ไม่มีทางเลือกจึงต้องฆ่านาง”

“เจ้าจงจำเอาไว้ว่าเรื่องนี้อย่าให้ใครล่วงรู้ ห้ามให้เล็ดลอดออกไปเป็นอันขาดโดยเฉพาะกับเหลิ่งชิงฮวน ไม่อย่างนั้นพี่ไม่รอดแน่ แล้วบนโลกนี้ยังจะมีใครรักเจ้าเท่าพี่อีก”

เหลิ่งชิงเจียวพยักหน้า “หากเหลิ่งชิงฮวนมาถามข้า ข้าก็จะไม่บอกอะไรนางทั้งนั้น”

“ถูกต้อง เจ้าต้องรู้ว่าตอนนี้พวกเรามีกันสองพี่น้อง ไม่ว่าพี่จะทำอะไรก็ล้วนเพื่อให้เจ้ามีชีวิตที่ดีทั้งนั้น หากมนุษย์ไม่ประพฤติดีสวรรค์จะลงโทษ คนพวกนั้นทำผิดกับพวกเรา แล้วทำไมพวกเราจะต่อต้านไม่ได้ล่ะ?”

“แต่ แต่ข้ากลัว แค่นึกถึงข้าก็ฝันร้ายแล้ว” เหลิ่งชิงเจียวบ่นอุบ

“เจ้าก็คิดว่าบ่าวรับใช้พวกนี้เป็นเพียงหมาแมว แล้วเจ้าจะไม่กลัว” เหลิ่งชิงหลางเอ่ยเสียงแข็ง “เจ้านึกถึงท่านแม่ของเหล่าที่ถูกเหลิ่งชิงฮวนจัดการขับไล่ออกไปอยู่ที่ดินแดนห่างไกล ไม่รู้ว่าตอนนี้จะประสบพบเจอกับอะไรบ้าง”

“เกียรติยศที่เคยเป็นของข้ากลับถูกเจ้าสองพี่น้องนั่นยึดเอาไปจนพวกเรามีสภาพแบบนี้ ตอนนี้แค่คิดข้าก็อยากจะฆ่านางด้วยมือตัวเอง แล้วยังจะกลัวอะไรอีก”

“แต่ว่าเขาบอกกันว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ท่านแม่ทำเรื่องไม่ดีก่อน…”

“ใครบอกแบบนั้น?” เหลิ่งชิงหลางขัดขึ้นมา “คนพวกนั้นล้วนแต่เข้าข้างพวกเหลิ่งชิงฮวนจึงพูดจาเหลวไหล! ท่านแม่ถูกเหลิ่งชิงฮวนทำร้าย เจ้าต้องจำเอาไว้อย่าได้หลงกลพวกมันเด็ดขาด ความแค้นนี้พวกเราต้องล้างแค้น”

เพราะความแค้น ใบหน้าของเหลิ่งชิงหลางจึงบิดเบี้ยว

เหลิ่งชิงเจียวพยักหน้ารับ “ข้าจะจำไว้ ท่านแม่ถูกเหลิ่งชิงฮวนทำร้าย บ่าวรับใช้พวกนั้นก็แค่แมวหมา ไม่เชื่อฟังก็ต้องฆ่าทิ้ง!”

เหลิ่งชิงหลางยกยิ้ม พยักหน้าอย่างพอใจ “ถูกต้องแล้ว”

ณ ตำหนักฉาวเทียน

ระหว่างมื้อค่ำคนรับใช้ก็เข้ามารายงานว่าเสี่ยวเอ้อร์ของหอหงปินนำอาหารที่เหลิ่งชิงฮวนสั่งล่วงหน้าไว้มาส่ง

นี่คือสัญญาณลับที่เธอนัดหมายกับเจ้าของร้านไว้หากมีข้อมูลใหม่

เธอสั่งให้คนรับใช้พาเสี่ยวเอ้อร์เข้ามาทันที

คนที่เข้ามาไม่คุ้นหน้าและไม่ใช่เจ้าของร้าน เขาทำความเคารพก่อนจะยกกล่องอาหารขึ้นวางบนโต๊ะด้านหน้าเหลิ่งชิงฮวน เหลิ่งชิงฮวนสั่งให้โตวโตวออกไปเฝ้าด้านนอก

เมื่อเปิดกล่องเสี่ยวเอ้อร์ก็นำอาหารออกมา

“ทูลพระชายา เรื่องที่ทรงให้ไปสืบได้เบาะแสมาแล้วขอรับ”

“มีเบาะแสขององครักษ์อินทรีหรือ?” เหลิ่งชิงฮวนรีบถาม

“มิใช่ขอรับ แต่เป็นเรื่องของยายหลิง บังเอิญที่ข้าน้อยรู้ว่ามีคนเคยออกประกาศจับ เมื่อลองสืบต่อก็พบว่านางเข้าไปหลบอยู่ในจวนของฝ่าบาท”

“ตอนนั้นยายหลิงผู้นี้ได้รับเลือกให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ แต่สุดท้ายนางกลับละเมิดกฎของลัทธิไปมีสัมพันธ์กับบุรุษจนตั้งครรภ์ จึงถูกไล่ออกจากสำนัก สำนักลัทธินักบุญหญิงคิดว่านี่คือความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง พวกเขาทนไม่ได้กับเด็กในท้องของนาง ดังนั้นจึงแอบทำให้นางคลอดก่อนกำหนดจนเด็กในท้องตาย”

คำพูดของเสี่ยวเอ้อร์ทำให้เหลิ่งชิงฮวนนึกถึงวังบุปผาในเรื่องเซียวฮื้อยี้ที่เคยดูผ่านๆ ตา เพราะว่าเจ้าลัทธิเกลียดบุรุษจึงได้ออกกฎที่ผิดเพี้ยนเช่นนี้ อีกทั้งยังไล่ล่าลูกศิษย์ที่หนีตามบุรุษ ที่แท้เรื่องนี้ก็มีอยู่จริง

“แล้วหลังจากนั้นล่ะ”

“ยายหลิงรับไม่ได้กับการเสียลูกไป จึงนึกถึงเคล็ดคำสอนลับของสำนักได้ นั่นคือการเลี้ยงผีเด็ก”

คำว่าผีเด็กทำให้เหลิ่งชิงฮวนตกใจตัวสั่น จู่ๆ ก็นึกถึงหนังผีที่เคยอดหลับอดนอนดู “หรือว่าผีเด็กมีอยู่จริงหรือ?”

เสี่ยวเอ้อร์ส่ายหน้า “เรื่องนี้ไม่ว่าใครก็อธิบายไม่ได้ขอรับ แต่เกรงว่ามันจะเป็นเพียงตำนาน ยายหลิงหมกมุ่นอยู่กับเรื่องภูตผีมาสักพักแล้วอีกทั้งยังไม่ยอมนำร่างเด็กที่ตายแล้วไปฝัง แต่กลับเก็บไว้ข้างกายตามตำราเล่นแร่แปรธาตุ แล้วออกเสาะหาทารกที่เพิ่งเกิดใช้เลือดของพวกเขาชุบเลี้ยงผีเด็กเพื่อให้นางฟื้นคืนจากความตายได้”

ฆ่าทารกผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วนเพียงเพื่อตำนานผีเด็ก เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้เหลิ่งชิงฮวนก็สั่นสะท้าน “นี่มันบ้าไปแล้ว!”

“ดังนั้นการกระทำของนางจึงทำให้เหล่าคนในบู๊ลิ้มไม่พอใจ ลัทธินักบุญหญิงเองก็ไม่อาจนิ่งดูดายจนต้องส่งคนมาปราบปรามผีเด็กของนาง แต่นางกลับหนีไปได้ ใครก็ไม่คาดคิดว่านางจะหนีเข้าไปที่จวนของอดีตองค์หญิง”

เหลิ่งชิงฮวนจำได้ว่ายายหลิงอยู่ข้างกายจิ่นอวี๋ในฐานะแม่นม ตอนนั้น…นางยังมีน้ำนมอยู่อีกหรือ? เมื่อคิดเช่นนี้ก็อดขนลุกขนพองไม่ได้

“เช่นนั้นตอนที่จิ่นอวี๋เข้ามาในวังนางไปอยู่ที่ไหน”

“นางใช้เวลาประมาณแปดเก้าปีสำหรับพักฟื้นและฝึกคาถาอาคม จากนั้นก็ออกจากเมืองหลวงกลับไปที่สำนักลัทธินักบุญหญิง ฆ่าเจ้าสำนักคนเก่าเพื่อล้างแค้นให้กับลูกของนางแล้วก็หายตัวไป ลัทธินักบุญหญิงพยายามตามล่าตัวนาง ไม่นึกเลยว่านางจะกลับเข้ามาในวังอีกครั้ง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา