ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 272

เหลิ่งชิงฮวนรู้ว่ายายหลิงคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเป็นคนที่โหดเหี้ยมเช่นนี้

“แล้วอาคมที่ลัทธินักบุญหญิงฝึกฝนคืออะไร”

นี่คือสิ่งที่เธอต้องการจะรู้

“คาถาอาคมของพวกนางแบ่งเป็นหกประเภทได้แก่เลือดลม วิญญาณ ทำนาย ควบคุม แม่สื่อวิญญาณและจินตนาการ ว่ากันว่ายายหลิงมีพลังและฝึกคาถาอาคมมากมาย แต่ที่นางชำนาญสุดคือควบคุม”

“ควบคุมจิตของคนได้จริงๆ หรือ? หรือว่าเรียกวิญญาณคนตาย”

แม้ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะเคยประสบกับมันด้วยตัวเองแต่ก็ยังไม่อาจเชื่อได้ว่าในโลกนี้จะมีสิ่งที่เหนือกว่าวิทยาศาสตร์อีกหรือ?

เสี่ยวเอ้อร์หยิบรูปออกมาอีกครั้งและชี้ให้เหลิ่งชิงฮวนดู “พระชายาโปรดดูที่ดวงตาของยายหลิง”

เหลิ่งชิงฮวนมองดูใกล้ๆ ตอนแรกเธอที่เหลือบมองก็รู้สึกเพียงว่าดวงตาของนางเต็มไปด้วยพลัง แต่ตอนนี้เมื่อลองจดจ่อดู ไม่รู้ว่ามันมีผลทางจิตใจหรือไม่ เธอถึงได้รู้สึกว่าดวงตาของนางลึกลับเหมือนกับน้ำวนที่สามารถดึงผู้คนเข้าไปข้างในโดยไม่รู้ตัว

ภาพเหมือนธรรมดาที่ไม่มีความดึงดูดอะไร แต่กลับมีพลังลึกลับ เช่นนั้นหากได้มองนางตัวจริงก็อาจจะถูกดูดวิญญาณไปจริงๆ ก็ได้

ทันใดนั้นเธอก็คิดได้ “เจ้าหมายความว่ายายหลิงใช้ดวงตาเหล่านี้เพื่อควบคุมจิตของผู้คน เหมือนกับการดูดซับวิญญาณ?”

เสี่ยวเอ้อร์พยักหน้า “มีคนมากมายที่ต่อสู้กับนาง แต่สุดท้ายก็ยอมจำนนอย่างเชื่อฟังและจบชีวิตภายใต้เงื้อมมือของนาง”

มิน่าวันนั้นเหลิ่งชิงหลางถึงได้ผิดปกติ!

เหลิ่งชิงฮวนพอจะเข้าใจคาถาคุมจิตนี้แล้ว มันเป็นเทคนิคขั้นสูงเช่นเดียวกับการสะกดจิต

“เจ้ารู้วิธีแก้คาถานี้หรือไม่?”

“คาถาเหล่านี้เป็นความลับของลัทธินักบุญหญิง ข้าน้อยเองก็ไม่สามารถอธิบายได้ ยิ่งไปกว่านั้นสายตาของยายหลิงก็ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ไม่รู้ว่านางถูกผลสะท้อนกลับหรือนางพัฒนาฝีมือขึ้นไปอีกขั้น”

เหลิ่งชิงฮวนเงียบไปครู่หนึ่งและสั่งเสียงเข้ม “ต้องหาทางระบายลมออกไปให้ได้ ให้คนของลัทธินักบุญหญิงรู้ว่าตอนนี้ยายหลิงซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องฉี”

“พระชายาคิดจะ…” พูดแค่ครึ่งก็ไม่กล้าเอ่ยปากต่อ

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ใส่ใจ “ก็แค่ยืมมือฆ่าคน คาถาอาคมที่ยายหลิงเชี่ยวชาญนั้นข้าไม่เข้าใจเลยสักนิดดังนั้นจึงควบคุมนางได้ยาก ต้องให้คนของลัทธินักบุญหญิงเข้ามาจัดการ ไม่อย่างนั้นการปล่อยให้คนบ้าคลั่งเช่นนั้นอยู่บนโลกก็จะกลายเป็นหายนะ”

เสี่ยวเอ้อร์พยักหน้าก่อนจะเก็บกล่องอาหารแล้วออกไป

เหลิ่งชิงฮวนลังเลว่าควรจะบอกมู่หรงฉีเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ ให้เขาคิดหาวิธีที่จะกำจัดนางทิ้งไปหรือ? เพราะว่าลัทธินักบุญหญิงอยู่ห่างจากเมืองหลวงออกไปไกล กว่าข่าวจะแพร่ไปถึง กว่าพวกนางจะมาก็ต้องใช้เวลาหลายเดือน หากปล่อยให้ยายหลิงอยู่ข้างกายจิ่นอวี๋ก็จะเป็นอันตรายได้

แต่ยายหลิงมีจิ่นอวี๋คอยปกป้อง ใครเล่าจะเชื่อเธอ?

มู่หรงฉีดื่มสุรากับเหล่านายพลหลายคนและกลับมาค่อนข้างดึก เมื่อกลับมาถึงตำหนักฉาวเทียนก็เห็นเหลิ่งชิงฮวนกำลังวาดรูปให้แม่หวังและโตวโตว

คนรับใช้เริ่มเตรียมเครื่องนอนและเสื้อผ้าสำหรับทารกในท้องของเหลิ่งชิงฮวนแล้ว ผ้านวมทั้งหมดล้วนเป็นสีแดง ปักด้ายสีทองลายผีเสื้อและดอกไม้ ไม่ก็หงส์และดอกโบตั๋น เสื้อผ้าตัวเล็กมีหลากหลายแต่ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าของเด็กผู้หญิง

เหลิ่งชิงฮวนวาดรูปสัตว์น่ารักๆ และมอบให้แม่หวังกับโตวโตว ให้พวกนางนำไปปักลวดลาย

มู่หรงฉีส่งองครักษ์ไปเฝ้าดูแลที่ตำหนักฉาวเทียนโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเลือกคนรับใช้และแม่นมที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้สามคนเพื่อรับผิดชอบงานต่างๆ ในตำหนัก ทั้งยังเลือกแม่ครัวฝีมือดีมาอีกหนึ่งคน

แม่นมเตียว โตวโตวและแม่หวังก็ว่างขึ้นมาทันที พวกนางจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ปรนนิบัติเหลิ่งชิงฮวน ไม่ว่าอะไรก็เอามาประเคนให้ถึงที่ เหลือเพียงแค่ป้อนข้าวป้อนน้ำก็เท่านั้น ดังนั้นเวลาว่างส่วนใหญ่จึงใช้ไปสำหรับการเตรียมของให้กับทารกน้อย

มู่หรงฉีมองดูรูปร่างที่อวบอ้วนของเธออย่างมีความหมาย “เจ้าแน่ใจหรือ?”

เหลิ่งชิงฮวนยกนิ้วขึ้นด้วยความโกรธแล้วจิ้มหน้าผาก “ไม่จริงจังอีกแล้วนะเพคะ ปล่อยหม่อมฉัน หม่อมฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

“เรื่องอะไรกัน?” มู่หรงฉีโอบเธอไม่ปล่อย ลมหายใจเคล้าไปด้วยกลิ่นสุรา

“เมื่อสองสามวันก่อนหม่อมฉันวาดพิมพ์เขียวแล้วก็หาช่างฝีมือมาทำเครื่องลายคราม ท่อเซรามิก อ่างอาบน้ำและโถส้วม เมื่อวานหม่อมฉันก็หาช่างฝีมือมาเปิดแผ่นหินในห้องปีตะวันตกออก ก่อนจะขุดท่อระบายน้ำให้ไหลออกไปที่คูน้ำ”

มือของมู่หรงฉีอยู่ไม่สุขเขาไม่สนใจฟังสักนิด “เจ้าและข้าเป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเจ้าจะเขินอายอะไร เจ้าไม่กล้าอาบน้ำต่อหน้าข้า แล้วข้าจะกินเจ้าได้ไหมล่ะ”

ก็กินไปไม่น้อยแล้วไม่ใช่เหรอ!!!

บทเรียนที่ได้รับจากอดีตคือบทเรียนแห่งเลือดและน้ำตา จะต้องห้ามถอดเสื้อผ้าอาบน้ำต่อหน้ามู่หรงฉีเป็นอันขาด ต่อให้อยู่ห้องข้างๆ กันก็ไม่ได้! นั่นเป็นเหตุผลที่เหลิ่งชิงฮวนคิดสร้างห้องอาบน้ำสองห้องนี้ขึ้นมา

โดยเฉพาะตอนนี้ที่ท้องเธอเริ่มใหญ่ขึ้น ไม่สามารถทำอะไรได้อย่างสะดวก

เหลิ่งชิงฮวนบ่นในใจแต่เธอก็ไม่ได้ต่อต้านอะไรเพียงแค่เอ่ยต่อ “ระหว่างการก่อสร้างในบ่ายวันนี้ ช่างฝีมือได้ขุดบางอย่างออกมาจากประตูเพคะ”

“อะไรหรือ? ของล้ำค่า?”

เหลิ่งชิงฮวนดันตัวออกมาจากอ้อมแขนของเขา หยิบแผ่นไม้ไผ่สองแผ่นออกมาแล้วยื่นให้ “มันเป็นแผ่นไม้ไผ่สองแผ่นที่เขียนตัวอักษร ห่อด้วยผ้าสีแดงและฝังไว้ใต้แผ่นหิน ดูเหมือนว่าน่าจะเพิ่งฝังได้ไม่นานเพคะ”

มู่หรงฉีขยับเข้าไปใกล้แสงเทียน แต่ก็เป็นเพียงแผ่นไม้ไผ่ขนาดเท่าฝ่ามือสองแผ่น สลักด้วยลวดลายที่ค่อนข้างซับซ้อนและแปลกประหลาด โดยมีตัวอักษรขนาดเล็กสองแถวที่เขียนด้วยพู่กันอย่างชัดเจน

หนามยอกอก ตะปูตอกหัวใจ แม้นจะรักใคร่ ก็มิวายทำร้ายกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา