เหลิ่งชิงฮวนไม่เคยเข้าไปในวังเพียงลำพัง เธอเปลี่ยนเป็นชุดพระชายาในราชสำนัก สวมมงกุฎนกฟีนิกซ์บนศีรษะ จากนั้นกองทัพจักรพรรดิหน้าประตูวังเข้าไปรายงาน จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน
นี่เป็นครั้งแรกที่อี๋นั่วเข้าไปในเขตพระราชวัง ทุกสิ่งที่นางเห็นล้วนเป็นสิ่งใหม่ นางมองไปรอบๆ เช่นเดียวกับเด็กสาวไร้เดียงสาพลางถามเหลิ่งชิงฮวนอย่างอยากรู้อยากเห็น ดูเหมือนว่าการเข้าไปในวังเป็นเพียงการเที่ยวเล่น ส่วนการตามหาเบาะแสของยายหลิงเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น
นางไม่ประหม่าเลยหรือ ไม่เห็นจะเหมือนหญิงสาวบนภูเขาที่ไม่เคยพบเจอโลกกว้างเอาเสียเลย
ทั้งสองตรงไปยังตำหนักเจียนเจีย โดยตั้งใจจะไปแสดงความเคารพพระสนมฮุ่ยเฟยก่อน คนในวังที่เข้าไปรายงานอีกครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงของพระสนมฮุ่ยเฟยดังมาจากด้านใน
“ให้นางเข้ามา”
เหลิ่งชิงฮวนถามอี๋นั่วด้วยเสียงต่ำ “เจ้าไม่พบร่องรอยของยายหลิงเลยหรือ”
อี๋นั่วส่ายหัว “พระราชวังนี้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญ มีจุดตรวจทุกที่ ทำให้ไม่สามารถใช้คาถาอาคมได้เต็มที่”
“เช่นนั้นยายหลิงก็จะไม่สามารถใช้อาคมเล่นงานข้าก่อนได้ถูกหรือไม่”
อี๋นั่วพยักหน้า “โดยปกติแล้วเป็นอย่างนั้นเจ้าค่ะ”
ไม่แปลกเลยจิ่นอวี๋จงใจออกจากพระราชวัง เพื่อไปอาศัยอยู่ที่จวนฉีอ๋อง หากมองจากมุมนี้ทำให้รู้ว่านางมีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มเย้ยหยันพลางเริ่มคิดบทพูดในใจอย่างเงียบ ๆหลังจากเจอกับพระสนมฮุ่ยเฟยจะใช้วิธีใดเกลี้ยกล่อม จากนั้นจึงเดินเข้าไปในตำหนักเจียนเจีย
เหล่าข้าราชบริพารยืนขนาบข้าง เมื่อเห็นนางเดินเข้าไปต่างก็คุกเข่าทำความเคารพ ตอนนั้นเธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยกม่านขึ้นก้มศีรษะแล้วก้าวเข้าไป
ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นหม้อเลือดสุนัขสีแดงสดก็เทลงตรงหน้า
เธอไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ในเวลานั้นเป็นเพียงปฏิกิริยาโต้กลับ ด้วยการก้าวถอยหลังและปิดม่านลง
อี๋นั่วยืนอยู่ด้านหลัง ทำให้เธอไม่สามารถถอยหลังต่อได้ เลือดสุนัขจำนวนมากสาดกระเซ็นอยู่บนเสื้อผ้าด้านหน้าของเธอ
น่าขยะแขยงมาก
เธอตัวแข็งทื่อ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นดาบไม้มะฮอกกานีพร้อมกับยันต์สีเหลืองลอยแกว่งไปมาต่อหน้าเธอ ก่อนจะแทงเข้าไปที่กลางคิ้ว
พร้อมกับเสียงตำหนิอย่างเย็นชา “เจ้าสัตว์ประหลาด ยังไม่แสดงตัวออกมาอีกหรือ”
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกประหลาดใจในตอนแรก ก่อนจะรู้สึกรำคาญ จากนั้นจึงยกมือขึ้นคว้าดาบไม้มะฮอกกานีของฝ่ายตรงข้าม ดึงดาบมาตรงหน้าแล้วเตะตรงไปที่หัวใจของคู่ต่อสู้
อีกฝ่ายไม่สนใจหญิงมีครรภ์ท้องโตอย่างเธอ ดังนั้นจึงไม่ระมัดระวังถูกเหลิ่งชิงฮวนเตะกระเด็นออกไป เขาล้มลงกับพื้นพลางยิ้มกว้าง พยายามหาทางลงให้ตนเอง
“ฝีมือร้ายกาจไม่เบา!”
เหลิ่งชิงฮวนมองใกล้ๆ จึงเห็นว่าเขาคนนั้นคือนักบวชลัทธิเต๋ามีเครายาวอยู่ใต้คาง เขาม้วนตัวลุกขึ้นพลางม้วนดาบไม้มะฮอกกานีเป็นดอกไม้ดาบ ก่อนจะใช้อาคมด้วยมือข้างหนึ่ง ดูท่าแล้วเหมือนกับเทพเซียนอะไรประมาณนั้น
เธอเงยหน้าขึ้นและมองไปรอบๆ อีกครั้ง ดี... เล่นใหญ่แบบนี้เลยสินะ
เหล่านางกำนัล ขันทีและองครักษ์กำลังยืนเบียดเสียดกันเป็นกอง โดยมีพระสนมฮุ่ยเฟยนั่งอยู่ตรงกลาง นางจ้องมองไปที่เหลิ่งชิงฮวนอย่างเย็นชา ส่วนยายหลิงที่เธออยากจะจับกุมตัวกำลังยืนอยู่ข้างหลังนาง หญิงชราผู้นั้นจ้องมองเธออย่างเย็นชาด้วยดวงตาสีเทาคู่หนึ่ง
เหลิ่งชิงฮวนเข้าใจทันที จิ่นอวี๋จะต้องพูดยุแหย่พระสนมฮุ่ยเฟยให้เกิดความขัดแย้งกับเธอแน่ แม่สามีไม่มีตา ทำไมถึงถูกคนอื่นจูงจมูกอยู่ตลอด
วันนี้ฉันคงตกหลุมพรางของพวกเขาเองสินะ เห็นได้ชัดว่านางจงใจที่ล่อฉันเข้ามาในวัง
ในเมื่อไม่มีทางถอย ถูกบีบให้อับจนหนทางเช่นนี้ มีเพียงผู้กล้าเท่านั้นที่จะชนะ!
“เป็นเพียงเพราะยายหลิงรู้ความลับของเจ้า เจ้าจึงอยากให้เรื่องนี้ปิดปากนาง คิดว่าข้าเชื่อหรือไม่”
ดูเหมือนว่าทักษะการล้างสมองของจิ่นอวี๋จะไม่ธรรมดาจริงๆ
เหลิ่งชิงฮวนก้าวออกไปข้างหน้า “วันนี้หม่อมฉันพาเพื่อนเก่ามาหายายหลิงด้วย หม่อมฉันเป็นคนให้ร้ายนางหรือไม่ เสด็จแม่ได้ฟังก็จะรู้เอง”
น่าจาอี๋นั่วยืนอยู่ข้างหลังเหลิ่งชิงฮวนอยู่ตลอด ตอนนี้นางยืนขึ้นอย่างสง่างามและทำความเคารพพระสนมฮุ่ยเฟย
“น่าจาอี๋นั่วขอแสดงความเคารพพระสนมฮุ่ยเฟย อี๋นั่วได้รับคำสั่งจากผู้นำของเราให้เดินทางหลายพันไมล์มายังเมืองหลวง เพียงเพื่อจับตัวคนสารเลวที่หลอกลวงอาจารย์และก่อคดีฆาตกรรมนับไม่ถ้วนกลับไปที่ลัทธินักบุญหญิงเพื่อคืนความยุติธรรม”
ยายหลิงปฏิเสธทันควัน “หม่อมฉันไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้ นับประสาอะไรกับลัทธินักบุญหญิงอะไรนั่น พระชายาทำทุกวิถีทางเพื่อใส่ร้ายหม่อมฉัน เจ้าคิดหรือว่าหากท่านฆ่าข้าแล้วจะไม่มีใครล่วงรู้ความลับของเจ้าอีก เจ้าไม่ใช่เหลิ่งชิงฮวนตัวจริง! เหลิ่งชิงฮวนตายอยู่ในเกี้ยวตั้งแต่วันแรกที่นางแต่งงานกับท่านอ๋องแล้ว”
“หลักฐานล่ะ” เหลิ่งชิงฮวนกางมือออก
ยายหลิงเย้ยหยัน “วันนี้มีผู้เชี่ยวชาญได้วางกับดักเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว ตราบใดที่เจ้าถูกเฆี่ยนจนกลับคืนสู่สภาพเดิม ความจริงก็จะถูกเปิดเผย”
เหลิ่งชิงฮวนสงบนิ่งพลางยิ้มอย่างใจเย็น “ข้าขอพูดกับเจ้าแค่ประโยคเดียว ยายหลิง เจ้ามันชั่วร้ายไม่รู้จักกลับตัวกลับใจ วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า”
ทั้งสองกล่าวอย่างมีเหตุมีผล จากนั้นพระสนมฮุ่ยเฟยหันหน้าไปถามนักพรตเต๋าด้านเพื่อขอหลักฐาน “ท่านมีความเห็นอย่างไร” ดวงตาของนักบวชลัทธิเต๋ามุ่งมั่นและแน่วแน่ ก่อนจะพูดอย่างชอบธรรม “อย่างที่ยายหลิงกล่าวขอรับ คนผู้นี้เต็มไปด้วยวิญญาณชั่วร้าย ตราประทับของนางเป็นสีดำ นางไม่ใช่มนุษย์อย่างแน่นอน อาจเป็นผีหรือปิศาจ หลังจากที่กระหม่อมปราบนางแล้วจึงจะบังคับให้ออกจากร่างและเผยให้เห็นร่างเดิมได้”
น่าจาอี๋นั่วกระซิบเหลิ่งชิงฮวนจากข้างหลัง “นักพรตเต๋าชั่วคนนี้มีนามว่าอวิ๋นชิง มันเป็นพวกเดียวกับยายหลิง เมื่อครู่พวกเขาสองคนใช้วิชาเสียงลับเพื่อวางแผนวิธีจัดการกับท่าน โปรดระวังมนต์สะกดของมันไว้ให้ดี มันมีพิษร้ายแรงนัก หากสัมผัสกับผิวหนังจะมีฤทธิ์ทำให้มึนงงและเคลื่อนไหวไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...