ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 332

ทั้งสองเป็นพวกเดียวกัน?

เหลิ่งชิงฮวนคิด ก่อนจะเข้าใจเรื่องราวในทันที

เคยได้ยินมาว่าเคล็ดวิชาเหมาซานแบ่งออกเป็นสองแขนงนั่นคือลัทธิเต๋าและวิชาไสยศาสตร์ นักบวชลัทธิเต๋าสามารถขับไล่ภูตผี ปราบปีศาจ ทำนายชะตาและอธิษฐานขอให้ความชั่วร้ายมลายหายไป ดังนั้นพวกเขาจึงได้รับการยกย่องอย่างสูงจากฮ่องเต้ทุกราชวงศ์

ทว่าวิชาไสยศาสตร์ต่างออกไป ส่วนใหญ่วิชาไสยศาสตร์เป็นสิ่งอันตรายดังนั้นจึงถูกห้ามใช้ในพระราชวัง

ตามที่อี๋นั่วกล่าวเมื่อครู่ ยายหลิงไม่สามารถใช้อำนาจในวังนี้ได้อย่างอิสระ ดังนั้นนางจึงจำเป็นต้องหาผู้ช่วยมาจัดการกับเธอ

เนื่องจากนักบวชอวิ๋นชิงใช้ยาพิษมาเล่นกล จึงไม่ต่างจากนักต้มตุ๋นสักเท่าไร ต่อให้เธอเปิดโปงกลอุบายของเขา ยายหลิงคงจะไม่กังวลมากนัก แม้ว่าเธอจะมีวิชากังฟูอยู่บ้าง แต่จะสามารถหลบหนีจากวังที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาได้ยังไง

ในเมื่อยายหลิงกล้าที่จะพูดคุยเรื่องส่วนตัวกับน่าจาอี๋นั่วต่อหน้าคนอื่น แปลว่านางคงเข้าใจว่าเธอไม่รู้เรื่องวิชาเสียงลับ ดูเหมือนว่าแม้สาวน้อยคนนี้จะยังเด็กแต่ก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

เธอกล้ามาที่นี่เพื่อสะสางบัญชีกับยายหลิงเพียงลำพัง นางยังเด็กมาก ยายหลิงคงไม่เคยรู้จักนางมาก่อนและไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนางมากนัก

เมื่อคิดเช่นนั้นโอกาสในการชนะของเธอก็เพิ่มขึ้น 20%

จากนั้นเธอจึงกระซิบกับอี๋นั่ว “เดี๋ยวข้าจะจัดการกับนักบวชลัทธิเต๋า ส่วนเจ้าจัดการกับยายหลิงซะ อย่าได้ออมมือให้นาง ไม่แน่ว่าเราอาจต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ก็ได้”

น่าจาอี๋นั่วไม่ได้แสดงความกลัวใดๆ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นและตอบเพียงประโยคเดียวว่า “ลูกวัวเกิดใหม่ไม่กลัวเสือ”

เหลิ่งชิงฮวนกระแอมในลำคอ “เจ้าคือนักบวชลัทธิเต๋าสินะ เจ้ากับข้าไม่มีความแค้นในอดีตต่อกัน ข้าอยู่ของข้าดีๆ เจ้ามาใส่ความหาทำไม เจ้าควรจะรู้ไว้นะว่าคำพูดหลอกลวงเป็นเท็จถือเป็นอาชญากรรมเช่นกัน”

อวิ๋นชิงรู้สึกประหลาดใจที่เธอเอ่ยชื่อลัทธิเต๋าทันทีเมื่อเปิดปาก “ในเมื่ออาตมากล้าที่จะพูด นั่นแปลว่ามีความมั่นใจอยู่ไม่น้อย เจ้ายืมร่างคุณหนูใหญ่ตระกูลเหลิ่งยั่วยวนท่านอ๋อง ยั่วยุความสัมพันธ์สองแม่ลูก นำความหายนะมาสู่ประเทศและประชาชน วันนี้อาตมาจะขอทวงคืนความยุติธรรมและรับดวงวิญญาณอันเดียวดายของเจ้ากลับคืน!”

เหลิ่งชิงฮวนไม่สนใจ “ได้สิ ความชั่วร้ายไม่สามารถเอาชนะความดีได้หรอก”

วันนี้ข้าจะใช้ทักษะทางการแพทย์เผชิญหน้ากับวิชาลัทธิเต๋าของเจ้า มาดูกันว่าเจ้าเล่นกลเก่งกว่าทักษะทางการแพทย์ของข้าหรือเปล่า”

ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าทักษะทางการแพทย์จะเทียบอะไรกับลัทธิเต๋าได้ อวิ๋นชิงตะคอกด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “ไม่เจียมตัวเอาเสียเลย วันนี้อาตมาจะแสดงวิชาให้เจ้าได้เห็น แท่นบูชา!อัญเชิญปรมจารย์แห่งเต๋าจงแสดงพลังด้วยเถิด!”

หลังจากคำสั่ง เขาหยิบกระดาษสีเหลืองสามแผ่นออกมาจากแขนเสื้อวางไว้บนโต๊ะเครื่องหอมที่เตรียมไว้ล่วงหน้า จากนั้นยกมือขึ้นและดีดนิ้วสามครั้ง กลุ่มของเปลวไฟเล็ก ๆ สว่างขึ้นที่ปลายนิ้วจุดเทียนบนโต๊ะเครื่องหอม

เหลิ่งชิงฮวนมองฉากตรงหน้า งานชมดอกไม้ไฟนี้ไม่เลว แต่ออกจะเหมือนเล่นละครลิงไปหน่อยนะ

น่าเสียดายที่ผงฟอสฟอรัสไม่ได้รับการสกัดให้บริสุทธิ์มากพอ

เหลิ่งชิงฮวนส่ายหัว “ไฟทั้งสามของปรมาจารย์แห่งเต๋าไม่ได้เล่นกันแบบนี้นี่นา ดูก็รู้ว่าขโมยวิชามาแสดง”

จากนั้นเธอจึงยกมือขึ้นและดีดนิ้ว ทันใดนั้นก็มีเปลวไฟพุ่งออกมาจากปลายนิ้ว ก่อนจะเชิดคางขึ้นและเป่าเปลวไฟ นั้นเบาๆ ทำให้มันกระจายใหญ่ขึ้นและพุ่งตรงไปทางนักบวชเฒ่า ทำให้เคราของเขามีกลิ่นไหม้ในทันที

คนในวังกระซิบกระซาบกันพลางมองเธอด้วยความกลัว พวกเขาทั้งหมดมีความคิดเดียวกันนั่นคือ...นี่เป็นเวทมนตร์แน่นอน!

นักบวชอวิ๋นชิงสะบัดรวดเร็ว รีบดับควันที่เคราของเขาก่อนจะเย้ยหยันออกเสียงดัง “ก็แค่ทักษะเล็กๆ น้อย จะมีประโยชน์อะไร”

จากนั้นเดินขึ้นไปที่โต๊ะเครื่องหอมและทำท่าทางบนกระดาษสีเหลืองในอากาศพลางพึมพำบางอย่าง “เหล่าจวินอยู่นี่แล้ว จงปรากฏตัว!”

เฮ้อ!แย่จัง ไอคิวของแม่สามีฉันคงจะมีปัญหาจริงๆ สินะ

เหลิ่งชิงฮวนใบซีทีสแกนออกมาจากแขนเสื้ออย่างสบายๆ

สิ่งที่ปรากฏบนอยู่บนฟิล์มมืดนั้นคือโครงกระดูกมนุษย์ซึ่งกำลังยืนอยู่ในท่ายืนถือดาบไม้มะฮอกกานีไว้ในมือ จะเป็นใครไปได้หากไม่ใช่ปรมาจารย์ลัทธิเต๋าอวิ๋นชิง นี่มันแปลกเกินไป!

เหลิ่งชิงฮวนชี้ไปที่โครงกระดูกพลางถอนหายใจ “ข้าจะไปมีวิชาอะไรได้ ที่แท้เป็นแค่เพียงวิญญาณกระดูก สวมผิวหนังมนุษย์เพื่อหลอกคนในพระราชวัง ข้าดูหน่อยซิ เจ้าน่ะไม่เพียงแต่กระดูกซี่โครงร้าวเท่านั้นนะ กระดูกข้อที่สามของเจ้ายังยื่นออกมาจึงมีอาการปวดหลังปวดกระตุกที่ข้อเข่าอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้กระดูกสันหลังส่วนคอยังผิดรูปอย่างรุนแรง บีบอัดหลอดเลือดในสมองจนทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่พอ มักจะมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้และสมองได้รับความเสียหาย ดูเหมือนว่าเจ้าจะทนทุกข์ทรมานมาไม่น้อยเลยนะ”

นั่นนักบวชอวิ๋นชิงยืนงง เพราะสิ่งที่เหลิ่งชิงฮวนพูดนั้นเป็นความจริง นอกจากอาการปวดหลังแล้ว เขามักจะมีอาการวิงเวียนศีรษะและซี่โครงของเขาเพิ่งได้รับบาดเจ็บไม่นานมานี้อีกด้วย

สิ่งที่เหลิ่งชิงฮวนถืออยู่ในมือนั้นน่าทึ่งมาก ทำไมนางถึงเก่งขนาดนั้น หรือว่านี้เขาจะเจอผีเข้าจริงๆ เสียแล้ว

ขาของนักบวชอวิ๋นชิงสั่นเทา ใบหน้าซีดเซียวและตัวสั่นด้วยความกลัว สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัด

“เจ้า...เจ้ามาจากไหนกันแน่”

เหลิ่งชิงฮวนเย้ยหยันอย่างเย็นชา “เจ้ายกแท่นบูชาเพื่ออัญเชิญปรมาจารย์ลัทธิเต๋าแล้วไม่ใช่หรือ มีตาหามีแววไม่ หลานเอ๋ย ยังไม่รีบทำความเคารพบรรพบุรุษของเจ้าอีก?”

ทุกคนในวังหยุดนิ่งเมื่อเธอใช้ไม้นี้

ทุกคนมองไปยังนักบวชเต๋า จากนั้นไปมองไปที่เหลิ่งชิงฮวน ก่อนจะมองหน้ากันด้วยสายตาสยอง

หนึ่งในสองคนนี้ใครคือปีศาจกันแน่ ใครคือคนของลัทธิเต๋า ใครคือเทพเซียน นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

ทุกคนถอยหลังออกไปพร้อมกัน โดยกลัวว่าทั้งสองจะแสดงอิทธิฤทธิ์อ้าปากเปื้อนเลือด หักหัวตนเองแล้วกลืนเข้าไปในคำเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา