ทุกคนไม่กล้าที่จะก้าวไปหาเธอ
“อี๋นั่ว ไปกันเถิด”
เหลิ่งชิงฮวนถอยห่างออกไปทีละก้าว เธอจะต้องหาทางออกไปจากตำหนักเจียนเจีย
“พระนาง ท่านเองก็เห็นแล้วว่านางมีเวทมนตร์อันทรงพลัง อย่าปล่อยให้นางหนีไปได้ อาจไม่เป็นผลดีกับท่านอ๋องนะเจ้าคะ” ยายหลิงยังคงกระตุ้นนาง
พระสนมฮุ่ยเฟยกัดฟัน “ทหารอยู่ไหน เตรียมยิงธนู!”
ทหารคุ้มกันหลายคนที่อยู่นอกห้องโถงวิ่งกรูกันเข้ามาปิดล้อมตำหนักเจียนเจียพร้อมเตรียมยิงธนูตามคำสั่ง
เหลิ่งชิงฮวนไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด “เด็กที่อยู่ในท้องของข้าคือหลานชายราชวงศ์ฉางอัน ข้าจะดูว่ามีใครกล้าลงมือโดยไม่กลัวฮ่องเต้ลงโทษ”
“หากมีโทษใด ข้าจะรับผิดชอบเอง!”
“ได้” เหลิ่งชิงฮวนกัดฟันแน่น “หากวันนี้ท่านยังเห็นแก่ความรักเพียงเล็กน้อยระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ หม่อมฉันคงไม่ต่อต้านท่านและฆ่าคนทั้งหมด แต่น่าเสียดาย...”
เธอยกมือขึ้นอย่างเย็นชา ทันใดนั้นคนในห้องโถงก็อุทานขึ้นว่า “ดูนั่นสิ!”
ทุกคนมองตามเสียงนั้นและเห็นว่าดอกเบญจมาศหลายกระถางที่บานสะพรั่งในห้องโถงทั้งหมดเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็วและกลายเป็นสีดำสนิท จากนั้นกลีบดอกก็ร่วงหล่นทีละกลีบ ใบไม้ม้วนงอ พวกมันเหี่ยวเฉาและตายลงในพริบตา..
“เวทมนตร์ นางเป็นแม่มดจริงๆ!”
มีคนอุทานเสียงดัง ความสยองนั้นแผ่กระจายไปทั่วทั้งตำหนักเจียนเจียอย่างรวดเร็วและแผ่ซ่านเข้าไปในหัวใจของทุกคน
หากไม่ใช่เพราะเวทมนตร์คาถา มันจะทรงพลังขนาดนั้นได้อย่างไร
“ตุบ...” ชายในตำหนักคนแรกล้มลงกับพื้น ก่อนจะล้มลงไปตามๆ กัน แม้แต่พระสนมฮุ่ยเฟยเองยังทนไม่ได้ หลังจากเซไปสองก้าวนางก็ทรุดลงกับพื้น
ในห้องโถงทั้งหมด มีเพียงเหลิ่งชิงฮวนเท่านั้นที่ยืนอยู่พลางกวาดสายตาไปโดยรอบอย่างช้าๆ ก่อนจะก้าวออกจากประตูห้องโถงอย่างใจเย็น “วันนี้ไม่พวกเจ้าก็ข้าต้องตายกันไปข้างหนึ่ง หากใครกล้ายิงธนูก็ลองดู!”
พระสนมฮุ่ยเฟยโกรธจัด “นังแม่มด บังอาจนัก เจ้ากล้าโจมตีข้า! เจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วสินะ! หยุดนางไว้ อย่าปล่อยให้นางก้าวออกจากตำหนักเจียนเจีย!”
ไม่มีทหารคนใดกล้าผิดต่อเธอ พวกวางธนูลงแต่ยังไม่ยอมให้เธอเดินออกไป
เหลิ่งชิงฮวนหันกลับมา ดวงตาเย็นชาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าของพระสนมฮุ่ยเฟย จากนั้นดีดนิ้วและเปลวไฟก็ลุกโชนขึ้น ทันใดนั้นเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสัมผัสกับปลายผ้าม่าน ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
“เหลิ่งชิงฮวน เจ้าจะทำอะไรน่ะ!”
“แน่นอนว่าตายไปด้วยกันน่ะสิ!”
“ดับไฟเร็วเข้า ช่วยด้วย!” พระสนมฮุ่ยเฟยตะโกนด้วยความตื่นตระหนก
ทหารไม่สนใจจับกุมตัวเหลิ่งชิงฮวนอีกต่อไป พวกเขารีบเข้าไปดับเพลิง บางคนรีบเปิดประตูออกไปหาน้ำ
“ไร้สาระ เหลวไหล!” ฮ่องเต้โกรธ “ในฐานะพระสนม เจ้าฟังคำยุยงของคนนอก เชื่อคำพูดไร้สาระเหล่านี้ได้อย่างไร โดยเฉพาะตอนนี้ชิงฮวนยังคงตั้งครรภ์อยู่ หากมีอะไรผิดพลาด เจ้าจะรับผิดชอบอย่างไร บอกข้ามา!”
“ฝ่าบาท ทุกสิ่งที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริง ตอนนี้เหลิ่งชิงฮวนกำลังเล่นละครตบตาพวกเราอยู่ นางไม่เพียงแต่เสกไฟได้ แต่นางยังทำให้ดอกไม้ในตำหนักเหี่ยวเฉา เราทุกคนตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของนางเพคะ”
เหลิ่งชิงฮวนตอบด้วยสีหน้าราบเรียบเช่นเดิม “รายงานเสด็จพ่อ เมื่อครู่ชิงฮวนเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดีนัก เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันจึงแอบใช้ผงยาในการเพิ่มความแรงของเปลวเพลิง ทำให้กลิ่นแทรกซึมไปทั้งตำหนักเจียนเจีย นั่นเป็นสาเหตุทำให้ดอกไม้และพืชเหี่ยวเฉา คนในวังจะอ่อนแอลง ไม่ใช่เวทมนตร์แต่อย่างใด ผ่านไปไม่นานสรรพคุณทางยาจะเสื่อมลงและหายไปโดยธรรมชาติ”
จากนั้นเธอเหยียดมือออกไปโดยชูฝ่ามือขึ้นและแสดงให้ไทเฮาดู
“สำหรับกลอุบายการเล่นไฟล้วนเป็นกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ ของการแสดงเทียนเฉียวสามารถชมได้ทุกที่ เช่นเดียวกับที่นักบวชอวิ๋นชิงใช้วิธีการเสียดสีสิ่งของต่างๆ ในการจุดไฟ ทว่าหม่อมฉันควบคุมมันได้ไม่ดีนัก นิ้วจึงถูกไฟลวก แค่แสร้งทำเป็นแข็งแกร่งเท่านั้น หากหม่อมฉันมีวิชาควบคุมไฟได้จริงคงไม่ถูกลวกเช่นนี้กระมัง”
“ฝ่าบาท อย่าฟังในสิ่งที่นางพูด สิ่งที่หม่อมฉันพูดเป็นความจริง นี่เป็นบทสนทนาระหว่างนางกับเทียนอีที่ยายหลิงคนสนิทของจิ่นอวี๋ได้ยินมาด้วยตนเอง นักพรตเต๋าเทียนอีมองออก เขาเคยพูดในที่สาธารณะว่านี่เป็นกลยุทธ์หลี่ตายแทนเถา นางฟื้นคืนชีพจากศพ!”
เนื่องจากเหลิ่งชิงฮวนกำลังตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องยาที่จะคุกเข่าลงบนพื้น “พระสนมฮุ่ยเฟยเอาแต่พูดว่าหม่อมฉันใช้ศพคืนวิญญาณ เช่นนั้นหม่อมฉันขอถามท่านหน่อยว่า เหตุใดหม่อมฉันจึงต้องใช้ศพคืนวิญญาณ”
“แน่นอนว่าเป็นเพราะเหลิ่งชิงฮวนตัวจริงตายไปแล้ว เจ้าก็เลยยึดร่างของนางไป”
“หากเป็นเช่นนั้นหม่อมฉันคงจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความทรงจำในอดีตของเหลิ่งชิงฮวนทั้งหมดใช่หรือไม่”
“บางทีเจ้าอาจเก่งเรื่องเวทมนตร์ ไม่อย่างนั้นนักพรตเต๋าเทียนอีจะบอกว่าเจ้าอายุสั้นได้อย่างไร”
“นักพรตเต๋าเทียนอีกล่าวซิงอวิ๋นจวิ้นจู่ไม่มีวาสนาได้ใช้ชีวิต นั่นเป็นโชคชะตาที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ไม่ใช่หรือ เป็นเรื่องจริงที่วันนั้นหม่อมฉันไปพบนักพรตเต๋าเทียนอี ในตอนนั้นเราคุยกันเรื่องลัทธิเต๋านิดหน่อย ตอนที่เราคุยกัน จิ่นอวี๋กับยายหลิงกลับไปยังจวนฉีอ๋องแล้ว หลายคนในงานเลี้ยงสามารถเป็นพยานได้ นางจะแอบฟังสิ่งที่เราคุยกันได้อย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...