“แต่เจ้าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เจ้าอยากจะเข้าออกวังหลวงเกรงว่าก็เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย” แม่สามีที่ดีอยู่ด้านหลังก็ขุดหลุมให้เธออีก
“ขงจื๊อไม่พูดถึงเรื่องประเภทผีเทพ วิปริตวุ่นวาย เรื่องสมมติแบบนี้จะเป็นจริงได้ยังไงกันล่ะเพคะ? เสด็จพ่อฉลาดปรีชาสามารถ ไม่ควรถูกคนอื่นหลอกเลยนะเพคะ”
ฮ่องเต้โค้งตัวลงมา “ข้าไม่เชื่อคําพูดที่ไร้สาระของพวกผีปีศาจ แต่ว่า ข้าเชื่อในหนอนกู่พิษ ข้าคบค้าสมาคมกับพวกแคว้นหนานจ้าวหลายครั้ง เข้าใจความรุนแรงของหนอนกู่พิษ ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงโดยไม่มีหลักฐานแน่นอน”
ในเวลานี้เหลิ่งชิงฮวน ไม่เข้าใจความหมายของฮ่องเต้ ทำไมตัวเองถึงได้ไปเกี่ยวข้องกับแคว้นหนานจ้าวได้? มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกันเลยนะ?
ฮ่องเต้หยิบกระดาษออกมาจากแขนเสื้อ แล้วโยนใส่เธอ “อธิบายข้ามาทีสิ ข้อความนี้มันหมายความว่าอย่างไร?”
เหลิ่งชิงฮวนเปิดข้อความอย่างขวัญหนีดีฝ่อ ความตึงเครียดนั้น ตื่นเต้นกว่าการที่ได้รับจดหมายรักจากผู้ชายครั้งแรกเสียอีก หัวใจเต้น “ตึกตัก” มือสั่นคลี่เปิดดู มองแวบเดียวก็อึ้งไปเลย
โน้ตแผ่นนี้ไม่ใช่อื่นไหน คือใบที่วันนี้ฝากให้เจ้าลิงเอาไปให้รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข้างในนั้นไม่ได้เขียนอะไรมาก คือไม่ให้รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรีบไปจับกุมน่าจาอี๋นั่ว อย่าให้เขาหลบหนีออกนอกเมืองหลวงไปได้เด็ดขาด
ทำไมถึงได้ไปอยู่ในมือของฮ่องเต้ได้ล่ะ?
จริงๆแล้ว การจัดส่งแบบนี้ก็ไม่ใช่มืออาชีพ ง่ายต่อการที่จะทำจดหมายหล่นหาย ลิงไม่สามารถไว้ใจได้ รองผู้บัญชาการทหารก็ยิ่งไม่น่าวางใจ
ฮ่องเต้เห็นเธอตะลึง ก็พูดเสียงเย็นชาทันที “คิดว่าวังหลวงของข้าเป็นตลาดสดหรือยังไง? ลิงตัวหนึ่งสามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระ อยากจะกินอะไร ข้าส่า ควรให้เจ้าเข้าไปกินข้าวแดงในคุกดูสักสองสามวันก็ดีนะ”
เหลิ่งชิงฮวนเรียกมันว่าความขมขื่น
ไม่ง่ายเลยที่จะตบตาฮ่องเต้องค์นี้ คนเจ้าเล่ห์
ฮ่องเต้เห็นปกติเธอช่างพูด ช่างเจรจา ในเวลานี้กลับไม่พูดอะไรสักคํา ก็โกรธขึ้นมาอีกครั้ง
“ทำไม ไม่อธิบายให้ข้าฟังหน่อยเหรอ? อี๋นั่วผู้นี้มาจากไหนกันแน่? เจ้าพานางเข้ามาในวังหลวงมีจุดประสงค์อะไรกัน? ทำไมเจ้าต้องให้รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดไปจับกุมนางด้วย?”
เหลิ่งชิงฮวนอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา “กราบทูลเสด็จพ่อ คนนี้ชื่อน่าจาอี๋นั่ว นางอ้างว่าเป็นนักบุญหญิง ครั้งนี้ที่มาเมืองหลวง ก็เพื่อที่จะมาจับกุมยายหลิงนักบุญหญิงกบฎกลับไป ชดเชยชีวิตให้กับหัวหน้าศาสนาของพวกเขา
ชิงฮวนพานางเข้ามาในวังหลวง เพียงเพื่อหาที่ซ่อนตัวของยายหลิงเท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าเรื่องจะกลับตาลปัตรเช่นนี้ ตอนนั้นชิงฮวนปกป้องตัวเองไม่ได้ นางจึงฉวยโอกาสตอนที่วุ่นวาย หนีออกจากวังหลวงไปแล้วเพคะ”
“เจ้าน่าจะเดาได้ว่าหนอนพิษกู่นี้เก่ียวข้องกับนางสินะ?”
เหลิ่งชิงฮวนรีบปฎิเสธ “สงสัยนิดหน่อยเพคะ ไม่แน่ใจ แต่สุดท้าย ได้ยินคนของนักบุญหญิงเล่นไสยศาสตร์ ไม่ชำนาญหนอนพิษกู่ เป็นไปได้ว่าก่อนที่ยายหลิงจะสามารถเข้ามาในวังหลวงได้นั้น ได้ถูกพิษหนอนกู่จึงถึงนางควบคุมไว้ ดังนั้นพระสนมจึงอยากจะจับกุมนาง ส่งตัวให้เสด็จพ่อสอบสวน ว่านางมีผู้สมคบคิดอยู่เบื้องหลังหรือไม่เพคะ”
ฮ่องเต้ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่เย็นชา และเยาะเย้ยเล็กน้อย มีนัยนะที่ลึกซืึ้ง
“เจ้ารู้หรือไม่ ว่าเจ้านั้นมีความผิดฐานกลั่นแกล้งฮ่องเต้?”
เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้นทันที คำพูดนี้จะพูดซี๊ซั้วไม่ได้ สามารถหัวขาดได้
“ตัวชิงฮวนเองก็ไม่แน่ใจเพคะ ดังนั้นไม่สามารถกราบทูลเสด็จพ่อได้ ไม่เช่นนั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะอี๋นั่วทำการนั้น ก็ถือเป็นการกลั่นแกล้งพระองค์หรือเพคะ?”
“เรื่องนี้เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ คนที่ยายหลิงใช้หนอนพิษกู่ ไม่ใช่เจ้า แต่เป็นน่าจาอี๋นั่วผู้นั้น อย่างไรเสียเจ้าก็ไม่อาจหนีพ้นข้อสงสัยที่ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านได้ ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าต้องย้ายไปอยู่ในคุกหลวง สำนึกผิดกับความผิดของตัวเอง”
คุณพระ สามีของตัวเองยังคงต่อสู้อย่างนองเลือดอยู่ด้านนอก ปกป้องความสงบสุขของฉางอัน ตัวเองอยู่ที่นี่ ก็ถูกรังแกแล้วขนาดนี้
เหลิ่งชิงฮวนเงยหน้าขึ้นอย่างน่าสงสาร “ถ้างั้นหม่อมฉันยังมีโอกาสทำคุณไถ่โทษไหมเพคะ?”
ฮ่องเต้มองที่ท้องโย้ของนาง สีหน้าทนไม่ไหว ก็ยังคงพยักหน้า “อนุญาต”
เหลิ่งชิงฮวนลุกขึ้นทันที กลับไปในห้อง เอาขนมที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ลงในแหวนนาโน และมองผ้าห่มที่หอมนุ่มและสะดวกสบายบนเตียง ถอนหายใจเบา ๆ และกอดไว้ในอ้อมแขน จึงเดินประตูออกไปอย่างเชื่องช้า
พระสนมฮุ่ยเฟยคับข้องใจจนน้ําตาไหลและร้องไห้ครวญครางกับฮ่องเต้ เมื่อเห็นนางออกมาพร้อมกับผ้าห่มผืนหนึ่ง ก็เบ้ปากประชดประชัน ในที่สุดฮ่องเต้ก็ไม่ทน สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
เหลิ่งชิงฮวนและพระสนมฮุ่ยเฟยถูกขังอยู่ในห้องขังเดียวกัน
ยังดีที่ฮ่องเต้เห็นแก่ที่เธอกำลังตั้งครรภ์ ให้สิทธิพิเศษ ในห้องขังไม่ใช่หญ้าแห้งที่เต็มไปด้วยหมัด แต่ให้เตียงแก่พวกนางหนึ่งเตียง
เตียงไม่ใหญ่ คนเดียวก็เหลือเฟือ สองคนแน่นไปหน่อย แต่บนเตียงมีเพียงที่นอนและไม่มีผ้าห่ม ในสภาพอากาศแบบนี้สภาพแวดล้อมแบบนี้ อ้อมแขนที่เหลิ่งชิงฮวนโอบไว้เตียงนี้ก็คือของล้ำค่า
ทั้งคู่มาถึงก็ดึกดื่นแล้ว เหนื่อยเพลียมาก ดังนั้นเหล่ิงชิงฮวนจึงเอนตัวลงอย่างไม่เกรงใจ เอาผ้าห่มมาห่ม แล้วหลับตาลง
พระสนมฮุ่ยเฟยเดินวนรอบห้องขัง บีบจมูก ท่าทีรังเกียจ พอกลับมา ก็หงุดหงิดทันที “เจ้าไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่หรือไง? เข้านอนก่อนได้อย่างไร?”
เหลิ่งชิงฮวนหาวหวอด ตบที่ท้อง “ตอนนี้ท่านไม่แก่แล้ว แต่ในท้องของหม่อมฉันนั้นเป็นเด็กที่ต้องการการดูแลจริง ๆ เพราะฉะนั้น หม่อมฉันก็เลยไม่เกรงใจ”
“เอาลูกมาอ้างให้มันน้อยๆหน่อย!” พระสนมฮุุ่ยเฟยเบ้ปาก “ใครจะไปรู้ว่าเด็กในท้องของเจ้าเป็นลูกของใครกันแน่?”
เหลิ่งชิงฮวนกระพริบตา “สิ่งที่ท่านควรจะสนใจมากกว่าก็คือในท้องของหม่อมฉันเป็นตัวอะไรกันแน่ ถ้าเกิดคลอดออกมา แล้วมีหูยาว มีหาง จะทำยังไงดีล่ะ?”
คําพูดนี้ทําให้พระสนมฮุ่ยเฟยตกใจอยู่พักใหญ่ ทําไมตัวเองถึงคิดไม่ถึงล่ะ เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่าเป็นผี เป็นปีศาจ หรือสัตว์ประหลาด ลูกของนาง หลานของตัวเอง...คุณพระช่วย ไม่สามารถจินตนาการได้เลยจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...