เหลิ่งชิงฮวนแอบลืมตาเล็กน้อย มองแม่สามีตัวเองที่สีหน้าเหมือนกับกินอุจจาระเข้าไป พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ
เธอขยับไปด้านข้าง ตบที่ข้างตัว “ท่านจะนอนหรือไม่นอน?”
พระสนมฮุ่ยเฟยรีบส่ายหน้า ส่ายตะเกียงไฟไปมาทําให้ในห้องขังเต็มไปด้วยเงา เพิ่มความแปลกประหลาดเล็กน้อย รอบตัวเธอขาดบ่าวรับใช้กลุ่มนั้นที่เข้าใจตัวเองไป ทันใดนั้นนางก็หมดแรง รู้สึกว่าตอนนี้เหลิ่งชิงฮวนก็เป็นเหมือนปีศาจหน้าเขียวเขี้ยวเล็บ ทำให้คนหวาดกลัว
เธอกังวลว่าถ้าเธอนอนบนเตียงเดียวกันกับเหลิ่งชิงฮวน กลางดึกดื่น จู่ๆนางเกิดทนไม่ไหวหิวขึ้นมาล่ะ แล้วถลกหนักตัวเองกิน?
ดังนั้น เธอจึงปฎิเสธอย่างหนักแน่น
“งั้นท่านก็หาที่นอนเองก็แล้วกัน คนท้องนั้นเลี่ยงไม่ได้ที่จะง่วงนอนง่าย”
เหลิ่งชิงฮวนม้วนตัวเองเป็นกระบอก แล้วนอนหลับอย่างสบายใจ
พระสนมฮุ่ยเฟยไม่มีความคล่องแคล่วง ยืนก่อน ต่อมาก็เอนหลัง จากนั้นค่อยหมอบลง สุดท้ายทนไม่ไหวจริง ๆ จึงหาที่ที่สะอาดนิดหน่อย ปูผ้าคลุมบนพื้นแล้วนั่งลง
ยิ่งคิดยิ่งโมโห ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด เรียกว่าน้อยใจ กลั้นน้ำตาไม่อยู่พักหน่ึง งุนงงไปชั่วขณะ
เมื่อเริ่มเงียบสงบลง หนูในห้องก็เริ่มคึกครื้น ตอนแรกก็กระซิบกระซาบ ต่อมาก็ทะเลาะกันหรือกัดกัน สําหรับคนที่อาศัยอยู่ในห้องขังนี้ พวกมันไร้ซึ่งความหวาดกลัว ตีกันไปมา ไม่แน่ว่าอาจจะกลิ้งมาที่เท้าของพระสนมฮุ่ยเฟย
แม้ว่าพระสนมฮุ่ยเฟยจะไม่กลัว แต่รำคาญ เป็นเช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ทนไม่ไหว ทำได้เพียงวิ่งกลับไปนั่งที่ขอบเตียง
เหลิ่งชิงฮวนก็นอนไม่ค่อยหลับ ในฝันมักจะมีผีผู้หญิงร้องไห้ครวญคราง ตนเองทะเลาะกับผีผู้หญิง ทรมานเหงื่อท่วมตัว จากนั้นก็ตื่นขึ้นมา
มองดูแม่สามีตัวเองนั่งอยู่ที่ขอบเตียงเหมือนลูกไก่จิกข้าว ง่วงจนสับปะหงก ผมยุ่งเหยิง บารมีในเมื่อตอนกลางวันหายจนหมดสิ้น
เธอไม่พอใจ แอบด่าอยู่ในใจว่าสมควรแล้ว ทว่ากลับพลิกตัว เว้นที่นั่งข้าง ๆ ไว้ว่างเล็กน้อย
พระสนมฮุ่ยเฟยเหมือนกับอูฐที่แย่งเต็นท์ของเจ้าของ เหยียดขาออกก่อน จากนั้นค่อยๆไถลๆอย่างช้าๆ ยืดจนสุด แล้วก็หลับไป เพียงแต่ว่า เธอไม่มีผ้าห่ม นอนจนถึงฟ้าสาง ก็หนาวจนขดตัวกลม จากนั้นวันต่อมาตอนที่เหลิ่งชิงฮวนตื่น นางก็ลุกไม่ขึ้นแล้ว
โรคซ้อนโรค
กรรมใดใครก่อกรรมนั้นคืนสนองไม่ใช่หรือไง? แต่เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกว่า ทุกครั้งที่แม่สามีทำเรื่องชั่วช้านั้น ทำไมถึงได้ตัวเองถึงได้ซวยไปด้วยล่ะ?
ทั้งคู่อยู่ในคุกด้วยกัน ก็หวังว่าฮ่องเต้จะส่งหมอหลวงมารักษาให้นางกินยา นางก็คงรังเกียจไม่ให้ความร่วมมืออย่างแน่นอน เหลิ่งชิงฮวนจึงทำได้เพียงหยิบยาออกมาอย่างยอมรับชะตากรรม ปรุงยา จากนั้นก็พลิกตัวพระสนมฮุ่ยเฟยที่ไข้ขึ้นไม่ได้สติ จากนั้นถลกเกงด้านหลังเอวของนางลงเล็กน้อย เผยให้เห็นเนื้อก้น
พระสนมฮุ่ยเฟยไข้ขึ้นจนสติเลอะเลือนจริงๆ งุนงงสับสน ปล่อยให้เธอทําอะไรก็ได้
“ฟรึ่บ” เข็มจิ้มลงไป พระสนมฮุ่ยเฟยก็ร้อง “โอ๊ย” ออกมา จนจะกระโดดลุกขึ้นมา โชคดีที่เหลิ่งชิงฮวนเตรียมรับมือไว้ตั้งแต่แรก ออกแรงกดเข่าเล็กน้อย กดทับพระสนมฮุ่ยเฟยเอาไว้ ไม่เช่นนั้น นางสะดุ้งแรงอย่างนี้ก็อาจทำให้เข็มหักได้
“เจ้าจะทำอะไรน่ะ?” แม้ว่าพระสนมฮุ่ยเฟยดูเหมือนป่วยจนแทบจะใกล้ตาย แต่อำนาจบารมีนี้ยังคงดุร้ายน่ากลัว
เหลิ่งชิงฮวนยกมือขึ้น ตบไปที่ก้นอวบอิ่มของนาง ดัง “เพียะ” “จริงจังหน่อยสิ! หรือว่าอยากจะเรียกผู้คุมมาหรือไงกัน?”
พระสนมฮุ่ยเฟยนึกถึงสภาพตัวเองที่เปลือยอยู่ ตกใจจนไม่กล้าขยับหนี เรื่องนี้มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์เกียรติยศของตนเอง ด้านที่อับอายขายหน้าเช่นนี้ จะให้คนอื่นเห็นไม่ได้เด็ดขาด
“หากเจ้าจะกินข้า เจ้าก็อย่าคิดที่จะได้ออกไปจากคุกนี้เลย” เธอกลัวตัวสั่นงกข่มขู่เหลิ่งชิงฮวน
มือที่เหลิ่งชิงฮวนกำลังฉีดยานั้นสั่นขึ้นอย่างทนไม่ไหว ในหัวของแม่สามีตัวเองเต็มไปด้วยขี้เลื่อย ถูกจิ่นอวี๋ล้างสมอง ถึงได้เลอะเทอะไปหมด นางเชื่ออย่างสนิทใจว่าตัวเองเป็นปีศาจที่กินคน
เธอหายใจเข้าลึกๆ หายใจเข้าลึกๆอีกครั้ง อดทนต่อความหุนหันพลันแล่นของนางฉีดยาจนเสร็จเรียบร้อย ก็ปล่อยมือเท้าพระสนมฮุ่ยเฟยที่ทับเอาไว้
พระสนมฮุ่ยเฟย ส่งเสียง “แหวะ” ออกมา
เหลิ่งชิงฮวนพอใจเป็นอย่างมาก กินต่อไปเรื่อย เคี้ยว “กรุบกรับ”อย่างมีความสุข ใช้ฟันกัดเคี้ยวตุ้ยเหมือนกระต่าย
พระสนมฮุ่ยเฟยทนไม่ไหว “ข้าได้กลิ่นแพนเค้กต้นหอม เจ้าแอบเอาขนมมาใช่ไหม?”
เหลิ่งชิงฮวนแยกเขี้ยวยิงฟันอย่างมีความสุข “แล้วยังไง? ท่านอยากกินเหรอ? ถ้าท้องข้าร้อง ก็สามารถกินคนได้เหมือนกัน”
พระสนมฮุ่ยเฟยไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยให้ท้องร้องเสียงดัง “โครกคราก”
เหลิ่งชิงฮวนยังคงกินอย่างเอร็ดอร่อย จู่ๆก็ได้ยินเสียงพระสนมฮุ่ยเฟยร้องไห้ “ฮือฮือ” ขึ้นมา
“ต้องโทษเจ้า เจ้ามันคนร้ายกาจ ทําให้ข้าต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ รอให้ฉีเอ๋อร์กลับมา ข้าจะให้เขาหย่ากับเจ้าอย่างแน่นอน”
เหลิ่งชิงฮวนปัดเศษขนมที่อยู่บนตัว รู้สึกว่าขนมของตัวเองทำให้แม่สามีน้ำลายไหลอย่างแน่นอน แต่ฉันก็ยังไม่ให้
เธอกลืนขนมที่อยู่ใรปาก นั่งขัดสมาธิตรงหน้าพระสนมฮุ่ยเฟย “มา มา พวกเราถือโอกาสนี้มาพูดคุยกันด้วยเหตุผล ความผิดใครกันแน่”
พระสนมฮุ่ยเฟยเบ้ปาก “ข้าไม่มีแรงจะมาทะเลาะกับเจ้า ข้าหิวน้ำ”
เหลิ่งชิงฮวนเม้มปากหัวเราะ หยิบขวดกลูโคสออกมา เปิดฝาแล้วส่งให้นาง “กินเสร็จพวกเราค่อยทะเลาะกัน”
พระสนมฮุ่ยเฟยรับมาไว้ในมืออย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ตอนแรกชิมนิดหน่อยอย่างระวัง เมื่อรู้สึกอร่อย ก็ดื่ม “อึกอึก”ไปครึ่งขวด
หลังจากที่ดื่มเสร็จ แม้ว่าท้องยังร้องอยู่ แต่รู้สึกมีกำลังใจฟื้นตัวขึ้นมาทันที ดูมีชีวิตชีวา สามารถเริ่มทะเลาะได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...