ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 348

คนทั้งมหดในจวนกั๋วกงในเวลานี้ต่างกำลังเร่งรีบกันอยู่ ทั้งแม่สามีและลูกสะใภ้เพิ่งจะเข้าไปในคุก ฮ่องเต้เองก็ไม่อนุญาตให้พวกเขาเข้าเฝ้า บวกกันที่มีข่าวลือไปทั่วทั้งวังหลวง ใครจะไม่ร้อนใจได้ล่ะ

วันนี้ฮ่องเต้มีคำสั่งที่ทำให้เรื่องแย่ลงกว่าเดิม จนทำให้ใจของคนในจวนกั๋วกงเต้นตึกตักและบีบบังคับให้เสิ่นหลินเฟิงรีบไปที่คุกหลวง

ภายในคุกกหลวง เหลิ่งชิงฮวนกับฮุ่ยเฟยต่างมองตากันปริบๆ

จู่ๆก็ได้ยินข่าวลือเรื่องนิ้วมือและขาที่ใต้เตียงของตัวเองใครจะไม่รู้สึกอะไรได้ ถ้าหากว่าโลกนี้มีผีจริงกลางค่ำกลางคืนหากมีนิ้วสีขาวๆยื่นออกมาจากใต้เตียงก็สามารถทำให้ผู้คนตื่นตกใจได้

เหลิ่งชิงฮวนถามฮุ่ยเฟยว่า “ทำไมท่าถึงไม่กลัวหม่อมฉันเพคะ ยังจะมานั่งใกล้หม่อมฉันแบบนี้อีก”

ฮุ่ยเฟยเบ้ปาก “ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ”

“เพราะอะไรกันเพคะ”

“ถ้าเจ้ากินเนื้อมากขนาดนี้ไปจริงเจ้าคงไม่มาแย่งขนมชิ้นสุดท้ายของข้าไปหรอก เจ้ากินไปเยอะกว่าข้าเสียอีก”

เหลิ่งชิงฮวนทนไม่ไหวจนต้องยิ้มออกมา จู่ๆเธอก็ค้นพบว่าแม่สามีของเธอนั้นน่าสนุกจริงๆ

“อาจะเป็นเพราะหม่อมฉันกินจุก็ได้เพคะ”

ฮุ่ยเฟยเริ่มร้อนรน “เหลิ่งชิงฮวน เจ้ายังไม่ยอมจบอีกจะให้ข้าขอโทษเจ้าให้ได้เลยใช่ไหม ข้ายอมรับว่าเมื่อก่อนข้าเป็นคนใส่ความเจ้า ตัวเจ้ายังอุ่นแล้วก็ต้องกินอนเหมือนคนทั่วไป นอนหลับก็ยังละเมอออกมา แถมยังน้ำลายไหล บางครั้งเจ้าก็นอนกัดฟันแถมยังตัวร้อนอีก พอใจหรือยัง”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ยอมรับการขอโทษจากฮุ่ยเฟย เธอยังคงติดใจบางเรื่องอยู่ “หม่อมฉันนอนละเมอ? นอนกัดฟัน? ตอนนอนดูน่าเกลียดมากใช่ไหมเพคะ”

“ข้ายังไม่ได้บอกเลยว่าเจ้ายังผายลมอีกด้วย! เวลานอนยังไม่สำรวม แขนขากางอ้าซ่า ฉีเอ๋อร์รักเจ้าไปได้อย่างไร”

ใบหน้าของเหลิ่งชิงฮวนแทบไหม เธอเอามือขึ้นปิดหน้าทันที “ตายแล้ว หม่อมฉันนึกว่าหม่อมฉันนอนแล้วจะดูเหมือนสาวงามเสียอีก น่าอายจริงเชียว มิน่าล่ะเวลาเข้าหอกับสามีต้องดับไฟไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงเห็นอะไรที่ดูน่าเกลียดนี้เข้าแน่”

บางครั้งฮุ่ยเฟยก็รู้สึกว่าสมองของลูกสะใภ้นางบางครั้งก็ไม่ค่อยฉลาด ท่าทางโง่เง่า “ตอนนี้มันเวลาไหนกัน ในหัวเจ้าตอนี้ยังคิดอะไรไร้สาระอยู่อีก เจ้ารีบคิดเร็วเข้าว่าจะให้ทุกคนเลิกสงสัยเจ้าได้อย่างไร!”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจออกมา “พูดตามความจริงหม่อมฉันอยากกินซี่โครงจริงๆเพคะ ไม่ได้กินเนื้อมาตั้งหลายวันแล้ว พอเห็นกระดูนิ้วพวกนั้นแล้วก็จินตนาการไปถึงขาหมู”

ฮุ่ยเฟยอยากจะด่าว่านางตะกละ แต่ท้องของนางเองก็ประท้วงออกมา นางจึงรีบเงียบปากทันที

“น่าสงสารจัง ลูกชายของข้ากำลังต่อสู้อย่างกล้าหาญอยู่ข้างนอก และเข้าร่วมศึกนองเลือก ส่วนพวกเราสองกลับถูกคนอื่นรังแกแบบนี้”

เหลิ่งชิงฮวนนิ่วหน้า “ถ้าเช่นนั้นวันนี้พวกเราออกไปข้างนอกกัน? เดิมทีหม่อมฉันคิดจะพักอยู่ข้างในนี้สักพัก แต่ครจะรู่กันล่ะเพคะว่าที่นี่เองก็ไม่ปลอดภัย ไม่สู้ออกไปกินอะไรดีๆข้างนอก”

ฮุ่ยเฟยเยาะเย้ย “เจ้าพูดเสียดูง่าย คุกหลวงเป็นที่ที่เจ้าอยากจะไปก็ไป อยากจะมาก็มางั้นหรือ”

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะคิกออกมา “ไม่ใช่ว่ายังมีท่านหรือเพคะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีแผนหญิงงามแต่พวกเรายังมีแผนของเลือดเนื้อของเขานะเพคะ ขอแค่ท่านร้องไห้งอแงนิดหน่อยว่าจะแขวนคอต่อเสด็จพ่อ อย่าให้หม่อมฉันถูกทำร้ายอยู่คนเดียวสิเพคะ”

ขณะที่กำลังพูดคุยกันนั้นเอง เสิ่นหลินเฟิงและคนของเขาก็ได้มาถึงและได้ใช้คุกหลวงเป็นห้องสืบสวน

เสิ่นหลินเฟิงมีสีหน้าเป็นห่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาได้เห็นหมั่นโถวแข็งๆที่สามารถปาหัวคนแตกได้วางอยู่ที่หน้าห้องคุมขัง ผู้ชายตัวใหญ่คนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะสงสารจนแทบจะร้องไห้ออกมา

เหลิ่งชิงฮวนกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าไร้เรี่ยวแรงจนไม่มีแม้แต่แรงจะพูด ราวกับเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของนาง ที่หายใจติดขัด

“พระชายาฉีพ่ะย่ะค่ะ อภัยให้ด้วย กระหม่อมขอล่วงเกิน ฮ่องเต้มีคำสั่งให้กระหม่อมมาสืบสวนคดี หากมีอะไรที่ทำให้ไม่พอใจโปรดอภัยให้ด้วย”

เหลิ่งชิงฮวนเองในใจลึกๆก็คิดแบบนั้นเช่นกัน “ไม่แน่หรอก ถ้าหากว่าเป็นฝีมือคนทำออกมาคงจะเสียงดังมาก ชิ้นส่วนนิ้วเล็กๆน้อยเหล่านี้หนูสามารถลากเข้ามาเองได้ทั้งหมด”

“แต่แมวเสือดาวครึ่งตัวนั้นเล่า คงไม่ใช่ว่าหนูก่อกบฏจนจับแมวกินหรอกนะขอรับ”

ขุนนางที่มีส่วนร่วมในการสอบสวนอดไม่ได้ที่จะสอดปากขึ้นกับพระชายาฉีผู้ไม่น่าเชื่อถือคนนี้ บรรยากาศของการสอบสวนนั้นถือว่าทุกคนสามัคคีกันขาดก็แต่เพียงน้ำชาสักจอกกับเมล็ดแตง

เหลิ่งชิงฮวนยักไหล่ “แน่นนอนว่าไม่ใช่ รอยเลือดที่อยู่ข้างนอกทั้งหมดนั่นเป็นฝีมือคนจริง ในคุกหลวงนี้ในเวลากลางคืนจะมีเวรยามคอยลาดตระเวนทุกครึ่งชั่วยาม นั่นก็หมายความว่าเมื่อคืนนี้มีคนอย่างน้อยเจ็ดถึงแปดกลุ่มผ่าหน้าห้องขังของพวกข้า การจะเอาของเข้ามาในยามกลางคืนที่มืดมิดนั้นคนอื่นก็มองไม่เห็น

แต่ว่าถ้าหากว่าลงมือเร็วล่ะก็การสาดเลือดเอาไว้บนพื้นนั้นก็เป็นไปได้ที่คนที่มาลาดตระเวนหลังจากตนจะลื่นล้มเอาได้ ในเมื่อสามารถทำรอยเลือดไว้ให้ข้าถึงที่นี่เห็นได้ชัดว่าคนที่ลงมืออย่างน้อยก็น่าจะอยู่ในกลุ่มของคนที่ลาดตระเวนสามชุดสุดท้ายและคนที่ใส่ความข้าอยู่ในหมู่พวกเขา”

การคาดเดานี้เป็นตามที่เสิ่นหลินเฟิงคาดการณ์เอาไว้ เขาจึงสั่งให้หัวหน้าผู้คุมไปเรียกตัวผู้คุมที่ทำหน้าที่ลาดตระเวนทั้งหมดเข้ามาทันเพื่อซักถาม

แน่นอนว่าไม่มีใครยอมรับ อีกทั้งผู้ที่ลงมือยังได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว เขาได้สร้างคำโกหกที่แนบเนียนออกมาและมีพยานเหตุการณ์

เหลิ่งชิงฮวนที่นั่งอยู่ด้านข้างฟังเสิ่นหลินเฟิงซักถาม เธอก็หลับตาลงแล้วสอดมือเข้าไปควานอยู่ในแขนเสื้ออยู่ครู่หนึ่งและสัมผัสกับอะไรบางอย่างเข้าจริงๆ

ตัวทำปฏิกิริยาลูมินอล

ตัวทำปฏิกิริยาลูมินอลตัวทำปฏิกิริยาที่มนุษย์สร้างขึ้น เมื่อมีการออกซิเดชันมันจะเปล่แสงสีฟ้า อีกทั้งในเม็ดเลือดมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่สามารถทำให้เกิดการออกซิเดชันได้และทำให้ตัวทำปฏิกิริยาเปล่งแสงสีฟ้า ดังนั้นจึงเป็นไปได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะตรวจจับรอบเลือดได้

ครั้งก่อนที่วังเจียนเจียคนคนนั้นใช้เลือดสดของแมวเสือดาวสาดมาเพื่อใส่ความเธอ เหลิ่งชิงฮวนก็คิดได้ถึงวิธีนี้ในการรับมือกับคนร้าย แต่น่าเสียดายที่ในเวลานั้นองครักษ์ที่ด้านนอกถูกส่งไปที่ภูเขาหู่หลีพอดี จึงทำให้ขอบเขตความเป็นไปได้ของคนร้ายกว้างจึงทำให้เธอไม่สามารถตามสืบได้ เธอจึงทำได้แค่ปล่อยผ่านไป

ในวันนี้หลังจากที่รอให้ฆาตรกรยิ่งได้ใจแต่ก็ยังไม่ปล่อยเธอไป และลงมืออีกครั้ง เธอก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อคนคนนั้นเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว ในสมัยโบราณไม่มีสารฟอกขาวแต่ตัวทำปฏิกิริยานี้ก็ได้ผลเหมือนกัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา