ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 349

เหลิ่งชิงลุกขุ้นยืนอย่างสงบนิ่งและให้ผู้คุมยื่นมืออกมาแล้วฉีดพ่นตัวทำปฏิกิริยาลงไปในมือของผู้คุมสองสามคน

เหล่าผู้คุมทั้งหมดรู้สึกแปลกใจ ไม่รอให้เธออธิบายอะไรพวกเขาก็ยื่นมือให้เธอดู

เหลิ่งชิงฮวนจึงสั่งออกไปว่า “ดับไฟ”

ช่างเชื่อฟังคำสั่ง โคมไฟในคุกถูกดับลงหมด ทัศนวิศัยของคนที่อยู่ภายในนั้นไม่ดีเลย มันมืดมาก

ในเวลานี้เองสิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจคือหนึ่งในผู้คุมนักโทษคนหนึ่งมือทั้งคู่ของเขามีแสงสีเขียวอ่อนเรื่องแสงออกมาอย่างชัดเจนในที่มืด

เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะเย็นออกมา และชี้นิ้วออกไป “คนที่ใส่ความข้าก็คือเขา!”

ผู้คุมนักโทษมองซ้ายมองขวาด้วยใบหน้ามึนงง

“”พระชายาหมายความว่าอย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ ท่านบอกว่ากระหม่อมเป็นคนทำ ท่านมีหลักฐานหรือไม้

เหลิ่งชิงฮวนคำรามในลำคอออกมาเบาๆ “งั้นเจ้าก็อธิบายให้ข้าฟังหน่อยว่ามือของเจ้าไปเปื้อนเลือดที่ไหนมา”

“มือของกระหม่อมสะอาดหมดจดมีรอยเลือดที่ไหนกันพ่ะย่ะค่ะ เห็นกันอยู่ชัดๆว่าท่านพ่นบางอย่างไปบนมือของกระหม่อมเพื่อใส่ร้ายกระหม่อม”

“ไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตา ทำไมมือของคนอื่นถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรล่ะ”

เหลิ่งชิงฮวนเดินตรงไปยังสถานที่ที่พบกับซากแมวเสือดาวและฉีดตัวทำปฏิกิริยาลงไปบนนั้นเล็กน้อย ครั้งนี้ปฏิกิริยารวดเร็วมาก บริเวณที่มีคราบเลือดสว่างขึ้นทันที

“ต่อให้เจ้าจะล้างมือกี่ครั้ง แต่น้ำยาของข้าเองก็สามารถตรวจสอบรอบเลือดที่เหลืออยู่บนมือของเจ้าได้ ดังนั้นขอเตือนว่าให้รับสารภาพเสียโดยดีจะได้ไม่ลำบากในภายหลัง”

เสิ่นหลินเฟิงมองไปที่ตัวทำปฏิกิริยาในมือของเธอด้วยความสนอกสนใจ พี่สะใภ้ของเขาช่างเป็นคนชั้นยอด

เวลานี้ผู้คุมนักโทษลนลานขึ้นมาแล้ว เขาคิดที่จะแก้ตัว

“เมื่อคืนนี้ข้าฆ่าไก่”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้พูดเล่นลิ้นกับเขา “ได้ยินว่าในคุกหลวงมีเครื่องทรมาณจำนวนมาก คิดว่าเจ้าคงคุ้นเคยกับมันมาก ถ้าอย่างไรลองมันทีละอันดีไหม ที่ข้ามีเครื่องจับเท็จอยู่ ขอเพียงแค่เจ้าพูดโกหกออกมา ข้าก็จะให้เจ้าได้รู้สึกเหมือนโดนฟ้าฟาดลงมาเลย ถ้าหากว่าได้ใช้ทั้งสองอย่างร่วมกันข้าเชื่อว่าเจ้าจะพูดความจริงออกมาอย่างรวดเร็ว”

เสิ่นหลินเฟิงรู้สึกประทับใจในตัวของเหลิ่งชิงฮวนเป็นอย่างมาก เขาจึงเชื่อเธอโดยไม่สงสัยเลยและรีบให้คนลากผู้คุมนักโทษคนนั้นออกไปและเริ่มทรมาณ

คนเหล่านี้ปกติแล้วลงโทษนักโทษแต่ละคนอย่างเลือดเย็น แต่เมื่อต้องมาเจอกับตัวแล้วก็รีบยอมรับทันที ยังไม่ทันได้ลงมือจริงๆเลยนะ ผู้คุมคนนั้นก็รีบเข้ามาสารภาพกับเสิ่นหลินเฟิงอย่างยินดี

“ข้าสารภาพแล้วขอรับ ข้าจะสารภาพทั้งหมด ข้ารับเงินมาจากถานกงกงมาหนึ่งร้อยเหรียญเงินจึงได้โลภไปชั่วครู่ เป็นเขาที่สั่งให้ข้าทำขอรับ”

ถานกงกง?

เสิ่นหลินเฟิงไม่คุ้นเคยกับเรื่องของคนในวัง เขาจึงนิ่วหน้าแล้วหันไปทางฮุ่ยเฟย ฮุ่ยเฟยชะงักไป เห็นได้ชัดว่านางประหลาดใจเป็นอย่างมาก

“ถานกงกงเป็นคนติดตามของฮ่องเฮา”

วังคุนอวี้

การมาถึงอย่างกะทันหันของฮ่องเต้ทำให้ฮองเฮารู้สึกประหลาดใข

หลังจากที่ฮ่องเต้ประทับนั่งลงแล้วเขาก็สอบถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ถานกงกงล่ะ ไม่ได้อยู่คอยรับใช้เจ้าหรือ”

ฮองเฮาพูดอย่างลอยๆว่า “วันนี้เขาไม่ได้อยู่คอยรับใช้หม่อมฉันเพคะ”

ดวงตาของฮ่องเต้มืดลง “เรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ดี ถ้าหากว่าข้าไม่ตามเรื่องจนถึงที่สุดข้าจะไปตรวจสอบเรื่องอะไรได้อีก และจะทำให้คนอื่นเชื่อถือใรตัวข้าได้อย่างไร”

ฮองเฮาเงียบลงไปในทันที และไม่กล้าบ่นอะไรออกมาอีก “หม่อมฉันไร้ความสามารถในการปกครอง ทำให้ฝ่าบาทต้องเหนื่อยแล้ว”

ฮ่องเต้ปรับสีหน้าเล็กน้อย “เจ้าเป็นผู้นำของวังหลัง เป็นแม่ของแผ่นดิน เจ้าแตกต่างกับเหล่านางสนมที่คอยเอาแต่ริษยาพวกนั้น เหล่าองค์หญิงและองค์ชายทั้งหมดต่างเรียกเจ้าว่าเสด็จแม่ สำหรับข้าแล้วเจ้าย่อมต้องสำคัญ แต่เกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถให้ความยุติธรรมกับเด็กพวกนี้ได้อย่างเท่าเทียมกัน”

เหมือนตบหัวแล้วลูบหลัง ฮองเฮาจึงขอบพระทัยไป

ผ่านไปอยู่ครู่หนึ่ง ขันทีน้อยก็เข้ามารายงานว่าทหารรักษาการณ์เมื่อคืนนี้เป็นพยานได้ว่าทั้งวันไม่ได้เห็นถานกงกงออกนอกวังเลย

ฮ่องเต้จึงครุ่นนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปบอกกับหลินเฟิง พระชายาฉี แล้วก็...ผู้คุมนักโทษคนนั้นว่าเข้ามาในวังด้วยกัน”

ฮองเฮาก้มหน้าลง “ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ร่างกายของฮุ่ยผินไม่สู้ดีนัก หม่อมฉันเองก็เป็นกังวลจึงอยากขอฝ่าบาทเห็นแก่ท่ากั๋วกงให้ฮุ่ยผินกลับมาที่วังได้ไหมเพคะ”

ฮ่องเต้จึงเล่นไปตามน้ำ “ฮองเฮามีเมตตา งั้นก็เอาอย่างที่เจ้าว่าเถอะ เรียกฮุ่ยผินมาด้วย”

ทั้งสี่คนเข้าวังมาพร้อมกัน ผู้คุมนักโทษถูกสั่งให้พบกับถานกงกง ผู้คุมนักโทษมึนงงไป

เนื่องจากถานกงกงที่เขาพบไม่ใช่คนเดียวกับที่เขาพบเมื่อคืนนี้

เห็นได้ชัดว่ามีคนแกล้งทำตัวเป็นคนใกล้ชิดของฮองเฮาเพื่อให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ทั้งเพื่อใส่ความเหลิ่งชิงฮวนและเพื่อใส่ร้ายฮองเฮา

จากคำสารภาพของผู้คุมนักโทษ เมื่อคืนนี้ในเวลาใกล้ค่ำมีคนมาหาเขาและบอกว่าตนเป็นคนใกล้ชิดของฮองเฮาที่ชื่อถานกงกง คนคนนั้นเอาเงินหนึ่งร้อยเหรียญเงินมาให้เขา จากนั้นก็ให้เขาลงมือเพื่อใส่ความเหลิ่งชองฮวน

ฮ่องเต้รู้สึกมึนงงเล็กน้อย จึงได้สอบถามอย่างเฉียบแหลมว่า “เจ้าไม่ได้รู้จักคนคนนั้นเลย ทำไมถึงได้ยอมทำตามคำสั่งของเขากัน การใส่ร้ายพระชายาฉีไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เงินแค่หนึ่งร้อยเหรียญเงิน เจ้าถึงกับยอมเสี่ยง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา