ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 351

“เลิกถอนเถอะเพคะ กลับมาแล้วหม่อมฉันจะทำยาย้อมผมจากธรรมชาติให้ พอย้อมแล้วผมก็จะกลายเป็นสีดำเงางามเหมือนกับเด็ก”

“มีของดีแบบนั้นด้วย? คงไม่ใช่ว่าโดนฝนแล้วตัวข้าจะเปื้อสีดำทั้งตัวหรอกนะ มันจะได้ผลหรือ” ฮุ่ยเฟยถามอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

เหลิ่งชิงฮวนกลอกตาใส่นาง “ตอนนี้หม่อมฉันไม่มีอารมร์จะคิดเรื่องนี้ กำลังคิดอยู่จะช่วยลูกชายของท่านจากวิกฤตินี้อย่างไรดี ท่านว่าในค่ายทหารที่ไม่สงบแบบนั้นไม่มีเรื่องอะไรให้ทำเท่าไร หม่อมฉันคิดจะสร้างเรื่องสักหน่อยก็ออกไปนอกวังไม่ได้ ถูกขังอยู่ที่นี่ทำอะไรไม่ได้ไม่เท่าไร แต่ยังต้องตกอยู่ใต้สายตาของเสด็จพ่อ ทำอะไรท่านก็รู้ไปเสียหมดเหมือนกับไม่มีอะไรที่สามารถปิดบังท่านได้”

“เรื่องนี้ไม่ง่ายหรือ เจ้าก็ให้หลินเฟิงทำสิ ข้ามีช่องทางในการแจ้งข่าวให้กับเข้าโดยที่เสด็จพ่อของเจ้าไม่รู้”

“หลินเฟิง?” ดวงตาของเหลิ่งชิงฮวนสว่างวาบ “ท่านให้เขาคิดวิธีให้หม่อมฉันออกไปจากวังสิเพคะ ออกไปสัมผัสถึงการเป็นตัวล่อเป้าเสียหน่อย”

ฮุ่ยเฟยไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าตัวล่อเป้าหมายความว่าอย่างไร แต่เหลิ่งชิงฮวนบอกว่ามีวิธี นั่นก็คือต้องมีวิธี นางมีความเชื่อใจในตัวของลูกสะใภ้คนี้เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นนางก็สั่งให้คนรีบนำจดหมายไปส่งให้กับเสิ่นหลินเฟิง

วันถัดมาเหลิ่งชิงฮวนก็ได้พบกับเสิ่นหลินเฟิง

คนของฮ่องเต้มาที่ตำหนักเจียนเจียและมีราชโองการมาให้เหลิ่งชิงฮวนออกนอกวังไปกับเสิ่นหลินเฟิงเพื่อช่วยในการสืบคดีการตายของใต้เท้าเว่ย

เมื่อคืนนี้เหลิ่งชิงฮวนได้เตรียมแผนการที่จะใช้ในวันนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว ขอแค่เสิ่นหลินเฟิงหาข้ออ้างให้เธอออกนอกวังได้เธอก็นะรีบรับทันทีและตามเขาออกไปนอกวัง

เสิ่นหลินเฟิงรอเธออยู่ท่หน้าประตูวัง เมื่อเห็นเธอเขาก็ยิ้มจนเผยให้เห็นฟันซี่ขาว

“พี่สะใภ้วันนี้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้วใช่ไหมขอรับ”

เมื่อนึกถึงเมื่อวานที่แสดงละครร้องไห้ต่อหน้าฮ่องเต้เมื่อวานนี้เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย”ดีมากแล้ว ดีมากแล้ว”

“ต้องมารบกวนพี่สะใภ้อีกแล้ว ต้องขออภัยจริงๆขอรับ”

เกรงใจขนาดนี้? พวกเราไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันเสียหน่อย จะแสดงให้ใครดูกัน

เหลิ่งชิงฮวนจึงพูดไปอย่างเกรงอกเกรงใจว่า “ข้าสิที่ต้องขอโทษ ข้ามักจะทำให้เจ้าลำบากเสมอเลย เรื่องแค่นี้ยังต้องให้เจ้ามาช่วย”

เสิ่นหลินเฟิงรู้สึกตกใจ “ช่วยเรื่องอะไรหรือขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนเองก็ชะงักไป “เจ้าไม่ได้รับจดหมายจากข้าที่ฝากท่านป้าของเจ้าส่งไปให้หรือ”

เสิ่นหลินเฟิงส่ายหน้า “เมื่อคืนนี้ข้ายุ่งเรื่องคดีทั้งคืน ข้าไม่รู้เรื่องเลยขอรับ และข้าก็ไม่ได้กลับไปที่จวนกั๋วกงด้วย อีกทั้งยังไม่ได้รับจดหมายอะไร มีอะไรหรือขอรับ”

ไม่ได้รับ? หรือว่าจะถูกท่านพ่อฮ่องเต้สกัดเอาไว้? ก็รู้อยู่หรอกว่าเสด็จแม่น่ะพึ่งไม่ได้ ทำเรื่องอะไรไม่สำเร็จ ตัวปัญหาลำดับหนึ่ง และดีใจคิดไปเองว่าตัวเองมีความลับ การเป็นผู้หญิงที่โง่ได้แบบเธอนับว่ามีวาสนา

โชคดีที่ตัวเธอไม่ได้ว่าแผนอะไรน่าอายเอาไว้ ฮ่องเต้จึงได้อนุญาตให้เธออกไปข้างนอก หรือว่าเขาจำยอมต้องอนุญาตนะ?

“ไม่มีอะไรหรอกข้าแค่อยากหาข้ออ้างออกจากวังไปให้สบายใจน่ะ เจ้าล่ะ หาข้ามีเรื่องอะไร คงไม่ใช่ว่าเพราะคดีจริงๆหรอกนะ”

เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้า “เรื่องนี้คุยที่นี่คงไม่สะดวกนัก พวกเราเดินทางไปคุยไปกันเถอะขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนขึ้นไปบนรถม้าที่เสิ่นหลินเฟงิเตรียมเอาไว้ เสิ่นหลินเฟิงขี่ม้าอยู่เคียงข้างไปกับรถม้า เมื่อไปถึงสถานที่ที่คนนำทางนำไปเขาก็อธิบายถึงคดีให้เธอฟังอย่างง่ายๆ

ครั้งนี้ขุนนางที่ถูกำร้ายเป็นขุนนางมหาดไทยฝ่ายขวาแซ่เว่ย เขาถูกทำร้ายในเวลายามสองเมื่อคืนนี้ คนแรกที่พบศพคือภรรยาของเขาที่แซ่หลิน

สาเหตุการตายเหมือนกับขุนนางที่ถูกทำร้ายคนอื่นก็คือถูกพิษ พิษที่ใช้เป็นพิษชนิดเดียวกับที่อยู่ในชาจอกชาเขียวบนโต๊ะตำรา หลังจากที่เขาดื่มมันลงไปแล้วก็เสียชีวิตทันที

ภายในห้องมีคนคนหนึ่งที่อยู่ในชุดไว้ทุกข์ออกมาต้อนรับ ดวงตาของเขาแดงก่ำ ใบหน้าเศร้าสร้อย เขาออกมาแล้วพุ่งเข้ามาจับมือของเสิ่นหลินเฟิงแล้วพูดว่า “ที่จวนได้เชิญท่านอาจารย์เข้ามาทำพิธีให้กับท่านพ่อท่านอาจารย์บอกวาต้องเผากระดาษเงินกระดาษทองในสถานที่ที่ท่านพ่อเสีย พวกเราไม่ได้แตะต้องอะไรที่นี่เลย เผาเสร็จก็จะไปแล้ว”

เสิ่นหลินเฟิงค่อนข้างอ่อนไหวต่อรูปคดี เขาซักไซ้ต่ออีกไม่ประโยคเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของ “ท่านอาจารย์” จากนั้นก็เข้าไปสำรวจแล้วถึงจะยกมือโบกไล่

กระดาษเงินกระดาษทองถูกเผาจนหมดแล้ว คุณชายเว่ยก็เอากระถางขี้เถ้าวางกลับไปไว้ที่มุมโต๊ะจากนั้นก็ส่งสัญญาณมืออกไปกับผู้ติดตาม

เสิ่นหลินเฟิงรั่งเขาเอาไว้ “เดิมที่กระถางขี้เถ้านี่อยู่ตรงไหน”

“อยู่ตรงนี้ไงขอรับ ท่านพ่อใช้มันในการเผาจดหมายที่ไม่ใช้แล้ว”

“ปกติแล้วเขาได้รับจดหมายเยอะงั้นหรือ”

คุณชายเว่ยส่ายหน้า “ไม่เยอะขอรับ เรื่งงานปกติจะถูกส่งไปที่กรมมหาดไทย”

เสิ่นหลินเฟิงกวาดสายไปไล่ไป ไม่มีฝุ่นอยู่ในห้องตำรา แต่เห็นได้ว่าใต้เท้าเว่ยผู้นี้นั้นปกติเป็นคนละเอียดถี่ถ้วน ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ใช้กระถางขี้เถ้านี่บ่อยทำไมถึงต้องวางไว้ที่ข้างเท้าตลอดเวลา?

เขาพยักนหน้าลงแสดงให้เห็นว่าเข้าใจ จากนั้นก็ชี้ไปที่ถ้วยชาที่เหลืออยู่บนโต๊ะตำราแล้วพูดกับเหลิ่งชิงฮวนว่า “ถ้วยชาใบนี้ ข้าให้คนเก็บเอาไว้เป็นพิเศษ พี่สะใภ้ลองดูว่ามีเบาะแสอะไรไหม”

เหลิ่งชิงฮวสวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง เธอยกถ้วยชาขึ้นแล้วสูดดม เป็นดังที่เสิ่นหลินเฟิงกล่าว ยาพิษนี้ไร้สีไร้กลิ่น ลำพังแค่ประสาทสัมผัสทั่วไปสัมผัสถึงมันไม่ได้เลย มันคือพิษอะไรกันแน่

เธอรีบเปิดการตรวจจับของแหวนนาโนทันที เพียงไม่นานก็รู้ผล เพียงแต่ว่าพิษชนิดนี้นอกจากจะมีการสลายตัวที่รวดเร็วแล้วก็ไม่มีจุดเด่นอื่นอีก

แต่เธอกลับพบบางสิ่งที่ผิดปกติในถ้วยชานี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา