ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 359

เมื่อคิดดีแล้ว เหลิ่งชิงฮวนยังถือโอกาสพูดซ้ำเติมว่า “องค์หญิงจิ่นอวี๋ไม่เจอความพ่ายแพ้ก็ไม่ยอมถอย หากท่านจะทำตามใจตัวเองโดยไม่ฟังคำแนะนำจริงๆ ยืนกรานจะไปบำเพ็ญตนที่สำนักแม่ชีให้ได้ ข้าอยู่ที่นี่มีสถานที่ดีๆ ให้ไป พูดกับหัวหน้าชีนั่นสักคำ ก็ดูแลได้มากแล้ว”

จิ่นอวี๋ได้ยินก็เป็นเดือดเป็นร้อน “ท่านอยากให้ข้าออกบวชถึงจะสบายใจใช่หรือไม่”

เหลิ่งชิงฮวนกะพริบตาอย่างประหลาดใจ “เมื่อสักครู่องค์หญิงจิ่นอวี๋เอะอะโวยวายว่าจะออกบวชมิใช่หรือ พอพระสนมฮุ่ยเฟยไม่เห็นชอบความคิดของท่าน ท่านก็ขอแก้ปัญหาด้วยการตาย ข้าเอาใจใส่ด้วยความหวังดี ทำไมถึงไม่พอใจเล่า”

จิ่นอวี๋เงียบปากไปครู่หนึ่ง “พูดมากความ พระชายาไม่ชอบหม่อมฉันเสียมากกว่า ถึงไม่อยากให้ข้าอยู่ที่จวนท่านอ๋อง”

เหลิ่งชิงฮวนยอมรับโดยไม่หวาดหวั่น “ใช่แล้ว ข้าไม่ชอบท่าน ใครจะชอบสตรีที่จ้องจะเขมือบสามีของตนเองเล่า ข้าโง่หรืออย่างไร”

ไม่สนใจไมตรีระหว่างกันแล้ว จิ่นอวี๋นึกไม่ถึงว่าต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟย แม้แต่ความเกรงใจ เหลิ่งชิงฮวนก็เหลือให้นางเป็นทางหนีทีไล่เพื่อกำจัดสถานการณ์ที่อึดอัดใจเลย

ใบหน้ากลายเป็นสีแดง จากนั้นก็กลายเป็นสีม่วง

เมื่อก่อน มียายหลิงอยู่ด้วย เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ กลัวนางกลับวังไปทำร้ายพระสนมฮุ่ยเฟย จึงให้นางอยู่ที่จวนท่านอ๋องอย่างไม่มีทางเลือก ตอนนี้ ในเมื่อยายหลิงโดนกำจัดออกไป ตัดปีกน้อยๆ ของนางแล้ว ยังจะกลัวนางคิดอะไรแผลงๆ อะไรอีก

นางแค่อยากให้พระสนมฮุ่ยเฟยเห็นจิ่นอวี๋โวยวาย นั่นเป็นการแกล้งทำ เจ้าลองส่งนางไปที่สำนักแม่ชีดูสิ รับรองวันต่อมานางต้องร้องไห้โวยวายจะกลับมาแน่

ถึงอย่างไร จะให้เหลิ่งชิงฮวนประนีประนอมยิ่งไม่มีทาง

คำพูดเหล่านี้ทำให้จิ่นอวี๋พูดไม่ออก

พระสนมฮุ่ยเฟยเงียบขรึมอยู่ข้างๆ

เหลิ่งชิงหลางแสร้งเป็นเกลี้ยกล่อมจิ่นอวี๋ เพื่อให้นางยอมถอย “คนมากมายเกลี้ยกล่อมเจ้าแบบนี้ เจ้าอย่าหัวแข็งอีกเลย พระสนมฮุ่ยเฟยหวังดีกับเจ้า เจ้ายืนกรานว่าจะทิ้งชีวิตดีๆ และหรูหรา เพื่อไปสร้างความลำบากและความเจ็บปวดให้ตนเองหรือ”

จิ่นอวี๋ร้องไห้สะอึกสะอื้น “พอข้าคิดถึงเรื่องราวที่ประสบในชีวิต ก็รู้สึกน้อยใจ นึกไม่ถึงว่าตนเองจะเป็นที่น่ารังเกียจขนาดนี้”

“องค์หญิงพูดอะไร ข้าอยากให้เจ้าอยู่ที่จวนท่านอ๋องเป็นเพื่อนข้าจะตาย ไม่อย่างนั้นอยู่คนเดียวคงจะน่าเบื่อเกินไป กลับจวนท่านอ๋อง ข้าจะช่วยให้คำแนะนำเจ้าดีๆ อาจจะมีคุณชายที่ต้องตาอยู่ก็ได้นะ”

เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตาเล็กน้อย คำพูดของเหลิ่งชิงหลาง ชัดเจนว่ากำลังสนับสนุนจิ่นอวี๋

ก่อนหน้านี้ทั้งสองยังทะเลาะกันจนเข้ากันไม่ได้เพราะเรื่องตาบอด ทำไมพริบตาเดียว ก็ดีกันแล้วล่ะ

ตอนนี้เหลิ่งชิงหลางมีครรภ์ นางจึงไม่กลัว เพราะถือว่ามีคนหนุนหลัง และไม่จำเป็นต้องประจบประแจงจิ่นอวี๋ นอกจากว่าทั้งสองคนมีความเห็นบางอย่างตรงกัน

ไม่ก็ยั่วยวนมู่หรงฉี ไม่ก็จัดการเหลิ่งชิงฮวนอย่างนาง ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ ดังนั้นจะให้หม่าป่าสองตัวนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้ ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่

จิ่นอวี๋พยักหน้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่พูดจา เนื่องจากโดนเหลิ่งชิงฮวนตอกหน้าง่ายไปแล้ว

เหลิ่งชิงหลางเป็นฝ่ายออกความเห็นอีกครั้ง “ตอนนี้ตำหนักเจียนเจียไม่กว้างขวาง ให้จิ่นอวี๋อยู่ที่จวนท่านอ๋องชั่วคราวไปก่อนดีหรือไม่ จะได้อยู่เป็นเพื่อนข้า พระสนมฮุ่ยเฟยท่านคิดเห็นอย่างไรเพคะ”

พระสนมฮุ่ยเฟยไม่ได้พยักหน้า นางหันหน้าไปทางเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนก็พยักหน้าอย่างง่ายๆ “ได้สิ รอท่านพี่กลับจวนก่อน พวกเราจะเอาชายหนุ่มผู้มีความสามารถล้ำเลิศสองสามคนที่พระสนมฮุ่ยเฟยพยายามคัดเลือกมาอย่างเหนื่อยยาก และองค์ชายแห่งมั่วเป่ยที่เชิญมาเป็นแขกที่จวนท่านอ๋องนั่นมาให้องค์หญิงจิ่นอวี๋คัดเลือกอย่างเต็มที่ ข้าจะเตรียมลูกบอลแพรปักให้เจ้า เจ้าชอบคนไหน ก็ทุบหัวของเขา เรื่องนี้ พี่สะใภ้จะพยายามอย่างเต็มใจ”

จิ่นอวี๋แอบกัดฟัน “พี่สะใภ้กำลังถากถางว่าจิ่นอวี๋ตาบอดหรือเพคะ”

เหลิ่งชิงหลางโบกมืออย่างมีแผนในใจ “วางใจเถอะ โรคตาของเจ้าพี่สะใภ้ต้องช่วยรักษาเจ้าให้หาย และให้เจ้าออกเรือนอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน”

จิ่นอวี๋ยิ่งคิดยิ่งกังวลใจ จึงย้ายกลับตำหนักเจียนเจียวันนั้นเลย อยู่ในห้องโถงกับพระสนมฮุ่ยเฟย และยังเจอเหลิ่งชิงฮวนบ่อยๆ

แต่ทว่า อยู่ต่อหน้าพระสนมฮุ่ยเฟย นางเก็บอาการไว้ไม่น้อยอย่างชาญฉลาด ไม่ก่อความวุ่นวายให้คน เอือมระอาอีกต่อไป เพราะตอนนี้ถือว่าอยู่ในความสงบ

คำพูดของไทเฮามีผลมาก ได้ยินว่าวิ่งไปหาฮ่องเต้ หยิกเอาและออกคำสั่ง ฮ่องเต้ประกาศพระราชโองการทันที สั่งคนควบม้าเร็วและทำการลงแส้เพื่อไปเรียกมู่หรงฉีกลับมา

มอบภารกิจกำจัดลัทธินักบุญหญิงให้กับข้าหลวงซื่อชวน

ชีวิตน้อยๆ ของเหลิ่งชิงฮวนค่อนข้างผ่านไปอย่างชุ่มฉ่ำ แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการมองภายนอก

เหมือนนางกลายเป็นคนที่ทำให้คนทั้งวังหลังอิจฉามากที่สุด ความโดดเด่นของนางบดบังเยี่ยนผินซึ่งเพื่อตั้งครรภ์จนมิด ทุกคนล้วนทราบดีว่าลูกหลานของฮ่องเต้แห่งราชสำนักฉางอันในท้องของนางสูงศักดิ์ยิ่ง

มีเพียงนางเท่านั้นทราบดีว่ารสชาติของความอกสั่นขวัญแขวนนี้มันไม่สบายใจ นางต้องระวังลูกศรลับกับการลอบทำร้ายจากทุกทิศทางตลอดเวลา

นางอยากกลับจวนฉีอ๋อง แต่ไทเฮากับฮ่องเต้กลับคิดว่า มู่หรงฉีไม่อยู่ ให้นางกลับไปเองไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่ององครักษ์อินทรีซึ่งกำลังสืบสวนอยู่ ในสถานที่ที่อันตรายที่สุด พวกเราได้รับข่าวสารว่องไว หากคนชั่วพวกนั้นจนมุม และเสี่ยงมาแก้แค้นนางจะทำอย่างไร

คำพูดของฮ่องเต้จะเมินเฉยไม่ได้ เหลิ่งชิงฮวนจึงทำได้เพียงขอป้ายห้อยเอว และกลับจวนฉีอ๋องเพื่อเก็บเสื้อผ้ากับกล่องยา และพาแม่นมเจียวเข้าวังมาปรนนิบัติรับใช้อยู่ข้างกาย

อีกอย่าง นางไปหาเถ้าแก่ของหอหงปินมา ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างละเอียด

นางต้องเริ่มวางแผนและเตรียมตัวส่งตัวซวยอย่างจิ่นอวี๋คนนี้ออกไป

คราวนี้ ลองเปลี่ยนกลยุทธ์ดูบ้าง ไม่เล่นอย่างฉลาด แต่เราจะเล่นสกปรก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา