ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 377

“ถ้าบอกมาเช่นนี้ สิ่งที่ข้าคาดเดาผิดไปงั้นหรือ?”

“ไม่ใช่ๆ” เสิ่นหลินเฟิงส่ายหน้า “ตอนที่พี่สาวคนนั้นได้ยินคำถามของข้า ในตอนนั้นก็รีบตอบกลับมาในทันทีไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำไป ตอนนั้นข้ายังรู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงเอ่ยถามนางว่าจำเรื่องที่ผ่านมาหลายวันแบบนี้นี้ได้ชัดเจนได้ยังไง ? มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักนิด

นางบอกว่าวันนั้นก่อนที่จินเอ้อร์จะออกไป พบว่าในแขนเสื้อไม่ได้เอาถุงเงินมาด้วย และยังเอ่ยถามนางว่าวันนี้คือวันอะไร บอกว่าใกล้ถึงวันที่ทางจวนจะจ่ายเบี้ยหวัดให้แล้ว อีกสองสามวันจะมาอีกครั้งและจะจ่ายเพิ่มให้เป็นสองเท่า นางไม่รู้ตัวหนังสือจึงผูกปมเอาไว้ที่เชือก และจำวันนั้นได้อย่างชัดเจน”

เรื่องแบบนี้ยังมีการติดค้างชำระอีกหรือ? พี่สาวคนนี้มีวิธีจดจำบัญชีที่ค่อนข้างพิเศษจังเลยนะ

เหลิ่งชิงฮวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เจ้าคิดว่าจินเอ้อร์จงใจพูดถึงวันที่ใช่หรือไม่? เพื่อที่ว่าถึงเวลาจะได้มีคนค่อยเป็นพยานให้เขา?”

เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้า “ด้วยเหตุนี้ข้าจึงซักถามพี่สาวคนนั้นอย่างละเอียดเป็นพิเศษ นางบอกว่าวันนั้นนางเข้านอนเร็ว นอนไปตั้งแต่หัววัน ตื่นอีกทีฟ้าก็สว่างแล้ว เห็นได้ชัดว่าจินเอ้อร์ผู้นี้มีโอกาสที่จะออกไปก่ออาชญากรรมข้างนอกได้ ดังนั้นหลินเฟิงจึงอยากจะถามพี่สะใภ้หน่อยว่าท่านใช้อะไรในการสันนิษฐานว่าจินเอ้อร์เป็นบุคคลน่าสงสัย? มีเบาะแสอะไรเพิ่มเติมหรือไม่?”

เหลิ่งชิงฮวนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจบอกความจริงออกไป

“เพราะว่าจินเอ้อร์มักจะทำตัวสนิทสนมใกล้ชิดกับเหลิ่งชิงหลางอยู่ตลอดเวลา มักจะส่งเเม่นางที่ชื่อว่าเสี่ยวจือเข้าออกจวนอ๋องเป็นประจำ คนคนนี้ข้าเคยเห็นกับตาตัวเอง สงสัยว่าจะเป็นฟังผิ่นจือผู้ตายนั่นแหละที่ปลอมตัวเป็นผู้หญิง และสองวันก่อนที่ฟังผิ่นจือจะถูกฆ่า จินเอ้อร์เข้ามาที่จวนอ๋องถึงสองครั้ง ดังนั้นข้าถึงได้กล้าที่จะคาดเดาออกมาเช่นนี้ ส่วนรายละเอียดลงลึกถึงสาเหตุการตายของเขาว่าเกี่ยวข้องกับพวกเขาจริงๆหรือไม่ ข้าเองก็ไม่รู้แน่ชัด ถึงอย่างไงคนอย่างฟังผิ่นจือทำพฤติกรรมชั่วช้าเอาไว้มากมาย ย่อมมีต้องศัตรูมากอยู่แล้ว”

ทั้งสองคนเพิ่งพูดคุยเกี่ยวกับคดีนี้ไปได้ไม่กี่ประโยค พอฮ่องเต้เสด็จมาก็หยุดการพูดคุยลง

เหตุการณ์ลอบสังหารเมื่อสองวันก่อนได้จัดการอย่างเหมาะสมแล้ว และไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแข็งกระด้าง องค์ชายอันต๋าเองก็แสดงความขอบคุณเหลิ่งชิงฮวนที่ให้ความช่วยเหลือตัวเอง

บรรยากาศเป็นไปอย่างกลมกลืน

เหลิ่งชิงฮวนไม่มีกะจิตกะใจที่จะรับฟังพวกเขาร้องเพลงสรรเสริญและโอ้อวดกันไปมา สติสตางค์ทั้งหมดจดจ่ออยู่ที่จิ่นอวี๋ และแอบภาวนาให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ให้ทุก ๆ อย่างเป็นไปอย่างที่คาดหวังไว้

ทางด้านจิ่นอวี๋ก็กำลังนั่งอยู่ในเรือนพักผ่อนของตำหนักเจียนเจีย นางลูบแมวน้อยด้วยท่าทางเหม่อลอย ดวงตาจ้องมองไปที่นอกประตู

เพราะเป็นคนตาบอดนางจึงไม่สามารถอ่านตำรา ไม่สามารถเย็บปักถักร้อย และไม่สามารถวาดรูปได้ สิ่งที่เคยทำเป็นงานอดิเรกในอดีตไม่สามารถทำได้แล้ว ทำได้เพียงนั่งนิ่ง ๆ อยู่คนเดียวและคิดว้าวุ่นใจกับเรื่องต่าง ๆ อย่างเงียบๆ

วันนี้ฮ่องเต้ทำการจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อต้อนรับองค์ชายมั่วเป่ย ขอแค่มีพระราชโองการการอภิเษกสมรสออกมาเท่านั้น ตัวเองก็จะปลอดภัย

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอะไรขึ้นอีก นางจึงไม่ก้าวเท้าออกไปไหนอยู่แต่ในตำหนักเจียนเจีย แม้แต่สวนอุทยานก็ไม่ไป

ที่หน้าประตูมีเงาใครบางคนที่ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แวบผ่านไป ดวงตาของนางที่เดิมทีดูเซื่องซึมก็กะพริบตาปริบ ๆ ขึ้นมา หากเมื่อสักครู่ดูไม่ผิดละก็ ร่างกลม ๆ ที่เห็นแวบผ่านไปตะกี้นี้น่าจะเป็นลี่ว์อู๋

ได้ยินมาว่าวันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่นางก็ถูกพวกแม่นมทั้งหลายปลุกให้ตื่นขึ้นมา ทำการจัดแจงแต่งองค์ทรงเครื่องเหมือนกับต้นไม้ที่เอาไว้เขย่าเงินก็ไม่ปาน อีกสักพักฮ่องเต้ก็คงมีรับสั่งให้นางไปเข้าเฝ้าที่วังเยี่ยนชิ่ง

แต่ว่าเงาคนที่เพิ่งแวบผ่านไปสวมใส่เพียงแค่เสื้อผ้าแบบเรียบ ๆ สีเขียวเท่านั้น และที่หัวก็ไม่มีปิ่นปักผมสักอัน และที่สำคัญที่สุดนางกำลังถือถุงผ้าอยู่ในมือ

ต้องเป็นนางแน่นอน หากดูจากคนทั่วทั้งวังหลังแล้ว จะมีใครบ้างที่มีร่างกายอุดมสมบูรณ์ได้ถึงขนาดนี้?

ถ้าเช่นนั้นการที่นางทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ แบบนี้ นางต้องการทำอะไรกันแน่?

หัวใจของนางเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ มองไปรอบ ๆ หนึ่งที ภายในเรือนไม่มีนางกำนัลหลงเหลืออยู่สักคน

ทุกคนต่างก็ยุ่งกันหมด ไม่มีใครสนใจนาง

นางจึงรีบวางแมวในอ้อมแขนลงทันที จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและแสร้งทำเป็นคลำทางเพื่อเดินมุ่งตรงไปยังประตู นางชะโงกหัวออกไปดู

เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิดเป็นลี่ว์อู๋นั้นเอง ในมือนางถือถุงผ้าเอาไว้และเดินหลบซ้ายหลบขวาอย่างระมัดระวัง

มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติหรือว่าลี่ว์อู๋คิดจะหนีงั้นหรือ? ได้ยินมานานแล้วว่าลี่ว์อู๋ไม่อยากแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ในครั้งนี้ ร้องไห้โวยวายอยู่สองวันติด และยังบอกอีกว่าจะหนีออกจากวังไป เดิมทีคิดว่านางแค่พูดเล่น ๆ เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะทำจริงๆ

หากมองไกลออกไปจะเห็นรถม้าบรรจุถังไม้ที่เคลือบด้วยสีแดงจอดอยู่ที่ทางเข้าตรงทางเดิน จิ่นอวี๋รู้ดีว่ามันถูกเอาไว้ใช้เพื่อบรรจุน้ำ ทุก ๆ เช้าจะมีรถม้าออกจากเมืองขึ้นไปบนเขาอวี้เฉวียนและกลับมาพร้อมกับถังที่เต็มไปด้วยน้ำแร่จากบนภูเขาเพื่อให้เจ้านายในวังหลวงทั้งหลายเอาไว้ใช้ชงชา

พวกนางจะทำอะไร?

จิ่นอวี๋เฝ้ามองจากระยะไกล ก็เห็นลี่ว์อู๋ใช้มือและเท้าปีนขึ้นไปบนรถม้า และองครักษ์ผู้นั้นก็เปิดฝาถังออก จากนั้นก็พยายามช่วยพยุงลี่ว์อู๋เข้าไปในถังน้ำ แล้วก็ปิดฝากลับเข้าไปใหม่

ลี่ว์อู๋กำลังจะใช้วิธีซ่อนตัวอยู่ในรถบรรทุกน้ำเพื่อออกจากวังนะหรือ! เหลิ่งชิงฮวนช่างฉลาดเสียเหลือเกิน เป็นวิธีที่ไม่ทำให้ใครจับสังเกตได้ เกรงว่าองครักษ์ที่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูคงจะไม่เปิดฝาออกเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดเป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้นองครักษ์ที่รักษาการในวังนี้ส่วนใหญ่ยังเป็นคนของมู่หรงฉีอีก

ตอนนี้ร้องเรียกคนจะดีไหม?

จิ่นอวี๋ครุ่นคิดอย่างลังเลเล็กน้อย แน่นอนว่าทำไม่ได้!

นางเป็นคนประเภทตีสองหน้าเก่ง ชอบแอบวางแผนทำอะไรลับหลังคนอื่น ต่อหน้ายังต้องแกล้งทำเป็นเหมือนดอกบัวขาวที่ใสซื่ออ่อนโยนเป็นคนดีอยู่ หากเปิดโปงเรื่องลี่ว์อู๋หลบหนีคาหนังคาเขาเช่นนี้ จะทำให้นางล่วงเกินคนในวังหลังเกือบครึ่งวัง หากมีการสืบสวนขึ้นมา จะเกี่ยวพันไปถึงมู่หรงฉี แบบนั้นจะทำให้เขาเกลียดที่ตัวเองเขาไปยุ่งไม่เข้าเรื่องได้

ดังนั้นนางจึงได้แต่เฝ้ามองรถบรรทุกน้ำจากออกไป

จากนั้นเมื่อหันหลังกลับมาก็พบกับขันทีสองคนจึงเข้าไปขวางทางเอาไว้

ขันทีรู้จักนาง จึงเอ่ยถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ท่านหญิงจิ่นอวี๋? ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียวได้? คนรับใช้ในวังที่ค่อยรับใช้ไปไหนขอรับ?”

จิ่นอวี๋มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย “ข้ากำลังมองหาแมวพันธุ์ดราก้อนหลี่ตัวนั้นของข้า ได้ยินมาว่ามีคนเห็นมันมุดเข้าไปในรถบรรทุกน้ำของวังหลวงกับตา เจ้าช่วยไปถามหาให้ข้าได้หรือไม่? แมวหายเป็นเรื่องเล็ก แต่อย่าได้ทำให้ถังน้ำที่เจ้านายในวังทั้งหลายใช้ดื่มต้องสกปรกเลย”

ท่านหญิงสั่งออกมา ขันทีน้อย ๆ อย่างเขาจะไม่รับปากได้หรือ? ทันใดนั้นก็แยกย้ายกันไปจัดการ คนหนึ่งรีบไปหารถบรรทุกน้ำ ส่วนอีกคนพานางไปส่งที่ตำหนักเจียนเจีย

จิ่นอวี๋ยิ้มอย่างเย็นชา ดูเหมือนว่าละครสนุกๆกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว ดูสิว่าคนช่างพูดช่างจาอย่างเหลิ่งชิงฮวนยังจะโต้แย้งอย่างไรได้อีก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา