มู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ถือเป็นโชคดีมากสำหรับผู้เป็นสามีอย่างข้า ที่ข้ายอมจำนนต่ออำนาจของเจ้าตั้งแต่แรก ไม่อย่างนั้นหากข้าเลือกที่จะต่อต้านหรือขัดขืน ทำให้เจ้าอาฆาตแค้น ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าจะตอบโต้ข้าอย่างไรบ้าง”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้ม “ตอนแรกหม่อมฉันมีแผนการเช่นนั้นอยู่ในใจจริงๆ น่าเสียดายที่ไม่ได้ทำตามแผนการนั้น เช่นนั้นท่านบอกมาดีไหมว่าท่านรู้สึกทรมานมากแค่ไหน” ใบหน้าของมู่หรงฉีมืดลง “เจ้าไม่คิดหรือว่าอาจมีคำพูดบางคำที่อาจทำลายความสงบสุขและความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา บางอย่างแค่คิดในใจก็เพียงพอ ตัวอย่างเช่น ข้าเคยคิดหาวิธีจะเอาชนะเจ้า ทำให้เจ้าอ้อนวอนร้องขอชีวิตอะไรทำนองนั้น”
เหลิ่งชิงฮวนหรี่ตาลงเล็กน้อย “จนถึงตอนนี้ทำสำเร็จแล้วหรือยัง”
มู่หรงฉีโอบเอวของหญิงสาวในทันที “ไม่สำเร็จ แม้ว่าจะเคยร้องขอความเมตตา แต่ไม่ได้ทำด้วยความต้องการจากใจจริง นั่นไม่ถือว่าเป็นการเอาชนะเจ้าได้สำเร็จ”
เหลิ่งชิงฮวนใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นั้นหยิกเอวของเขาอย่างแรง “แล้วท่านต้องการอะไรอีก”
“ตอนแรกข้านึกว่าเจ้าอาจเป็นโสมพันปีกลับชาติมาเกิด ได้ยินมาว่าการดื่มซุปโสมหนึ่งอึกจะทำให้มีชีวิตอมตะ ข้าอยากจะลองชิมเสียหน่อย เจ้าคิดว่าระหว่างแขนกับปาก ตรงไหนจะรสชาติดีมากกว่ากัน”
นี่เรากำลังอยู่ในตำหนักเสด็จแม่ของท่านนะ ทำไมถึงกล้าพูดจาอุกอาจเช่นนี้ เธอกะพริบตาอย่างเจ้าเล่ห์ “หากท่านอยากจะดื่มซุปโสม หม่อมฉันจะให้น้ำกับท่านทั้งถังไว้อาบน้ำเลย”
“ตอนกลางคืนไปอาบด้วยกันสิ ข้าจะดูด้วยว่าปีศาจไม้ซักผ้านั้นอาบน้ำอย่างไร จะได้ใส่พุทราแดงกับเก๋ากี้ลงไปเคี่ยวช้าๆ ด้วยไฟอ่อน”
เหลิ่งชิงฮวนมองค้อน ก่อนจะสะบัดมือออกแล้วเดินออกไป “ท่านน่ะสิปีศาจไม้ซักผ้า หน้าตาก็เหมือนไม่ซักผ้าไม่มีผิด”
มู่หรงฉี เดินตามพลางลดเสียงลง “โกรธหรือ ข้าจะเล่าเรื่องตลกเกี่ยวกับไม้ซักผ้าให้ฟังดีไหม”
“เรื่องตลก?”
คนจริงจังอย่างท่านมีอารมณ์ขันเหมือนคนอื่นด้วยเหรอ
มู่หรงฉีลดเสียงลง ก่อนจะเริ่มเล่าด้วยท่าทางเขินเล็กน้อย “ข้าได้ยินกลุ่มชายในค่ายทหารพูดคุยกัน ” ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายกลุ่มนั้นที่ไม่สนใจเนื้อสัตว์และผักในค่ายทหาร ข้าขอบอกไว้ก่อนนะว่ามันค่อนข้างหยาบคายนิดหน่อย ห้ามตีข้า”
แค่ฟังเท่านี้ก็รู้ว่าไม่ใช่เรื่องดี เหลิ่งชิงฮวนถลึงตามองเขา “ตีท่าน? หม่อมฉันกลัวจะเจ็บมือเปล่าๆ”
มู่หรงฉีกระแอมสองครั้งก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้ม “มีสามีภรรยาคู่หนึ่งใช้คำว่าซักผ้าเป็นสัญญาณลับในการร่วมหลับนอน ครั้งหนึ่งพวกเขาทะเลาะกันและไม่คุยกัน ภรรยาทนความเหงาไม่ได้ดังนั้นจึงลูกไปหาสามีบอกว่าเสื้อผ้าสกปรกถึงเวลาซักแล้ว สามียังโกรธจึงบอกกับลูกไปว่ามีคนยืนไม้ซักผ้าไป ลูกกลับไปบอกผู้เป็นแม่ตามจริง
ภรรยาไม่พูดอะไร หลังจากนั้นไม่กี่วัน ความโกรธของสามีคลายลง เขาจึงส่งลูกไปบอกว่าคนเอาไม้ซักผ้าคืนมาแล้ว สามารถซักผ้าได้แล้ว เจ้าลองเดาซิว่าภรรยาตอบว่าอะไร”
เหลิ่งชิงฮวนมองไปที่มู่หรงฉีด้วยความประหลาดใจ นี่ใช่อ๋องฉีผู้โหดเหี้ยมคนเดิมหรือไม่ ทำไมถึงลามกเช่นนี้
เขากล้าพูดเรื่องต้องห้ามในที่สาธารณะ
ไม่แปลกใจเลยที่คนมักพูดกันว่าผู้ชายเกิดมาพร้อมกับความสกปรก หลังจากที่ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้น สัตว์ร้ายในตัวของมู่หรงฉีก็ค่อยๆ เคลื่อนไหว โดยมักจะพูดจาหยอกล้อเธอแบบนี้อยู่บ่อยๆ จนกู่ไม่กลับแล้ว
เธอพูดอย่างโกรธเคือง “หากเป็นหม่อมฉันจะบอกว่ายืมของเพื่อนบ้านที่ชื่อเหล่าหวังมาซักแล้ว”
“ไม่ใช่ มู่หรงฉีตอบ ก่อนจะพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “ภรรยาคนนั้นตอบไปว่านางซักผ้าด้วยมือไปแล้ว”
เหลิ่งชิงฮวนผงะ เธอใช้เวลานานกว่าจะเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ ก่อนจะใช้เท้าเตะเขา “มู่หรงฉี คนลามก!”
จากนี้ไปเหลิ่งชิงฮวนจะไม่มีวันกล้าพูดคำนั้นออกไปอีก
มู่หรงฉีกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเธอ เขาจึงยอมโดนเตะโดยไม่หลบ เขายังประคองเธออย่างระมัดระวังและกลั้นยิ้ม “คราวนี้ฮูหยินยังเห็นข้าเป็นไม้ซักผ้าอีกหรือไม่”
มู่หรงฉีพยักหน้า “เคยทำตอนเด็ก”
“นี่แหละคือเหตุผล พอน้ำร้อนราดบนก้อนน้ำแข็ง ไอสีขาวจะลอยตัวขึ้นทันที ข้อแตกต่างคือน้ำแข็งที่หม่อมฉันใช้ค่อนข้างพิเศษ แม้ว่าจะเทในน้ำเย็นลงไปก็จะมีหมอกขาวลอยขึ้นมา มันเป็นเรื่องของวิทยาศาสตร์ เพียงแต่คนอื่นไม่ได้ให้ความสนใจ เป็นเพราะจิ่นอวี๋ไม่ได้ตราหน้าว่าหม่อมฉันเป็นสัตว์ประหลาด ท่านไม่ยอมแพ้หรือ”
คำอธิบายดังกล่าวทำให้มู่หรงฉีเข้าใจ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้โง่จึงไม่ได้ถามต่อว่านางใช้น้ำแข็งแบบไหน เหตุใดถึงน่าทึ่งมากมากขนาดนั้น
เหลิ่งชิงฮวนแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก มียามากมายในแหวนนาโนที่ต้องเก็บไว้ในน้ำแข็งแห้ง ดังนั้นแหวนจึงมีหน้าที่ทำน้ำแข็งแห้งซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดี
ทว่าไม่ช้าก็เร็วเขาต้องค้นพบความลับของแหวนนาโน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเคยถามเธอซ้ำถึงสองครั้งว่าทำไมถึงมีแหวนเหล็กไร้ค่าอยู่บนนิ้ว แหวนพลอยในจวนฉีอ๋องไม่พอให้เธอสวมใส่หรือย่างไร
ก่อนออกจากวัง เหลิ่งชิงฮวนเรียกหลิงตังมากำชับเสียงเบา “ช่วงนี้เจ้าต้องคอยดูแลเจ้านายให้ดี อย่าปล่อยให้นางอยู่กับจิ่นอวี๋ตามลำพัง บอกเจ้านายของเจ้าไปว่านี่เป็นคำพูดของข้า และจงระวังสายตาคู่นั้นของจิ่นอวี๋ให้ดี ข้างกายนางมีเด็กรับใช้แค่สองคน เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าไม่วางใจที่จะว่านางไว้กับคนอื่น ดังนั้นข้าของฝากเจ้าด้วย ไม่ว่าองค์หญิงจิ่นอวี๋จะพูดอะไร จำไว้ว่าอย่าทิ้งเจ้านายไว้ลำพังเด็ดขาด”
หลิงตังที่คุ้นเคยกับเหลิ่งชิงฮวนในหลายวันมานี้ นางเชื่อฟังคำพูดของเธอและรีบรับปากอย่างเต็มใจ
“พระชายาไม่ต้องกังวล บ่าวจะดูแลทุกอย่างเองเจ้าค่ะ”
เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเห็นดวงตาของจิ่นอวี๋ฟื้นตัว เธอก็มีลางสังหรณ์ไม่ดี เมื่อนึกถึงสิ่งที่น่าจาอี๋นั่วเคยเตือน เธอจึงเกิดความสงสัยว่าจิ่นอวี๋กำลังฝึกเวทมนตร์คาถา
ตราบใดที่นางอยู่ในฉางอันนานขึ้นหนึ่งวัน เหลิ่งชิงฮวนจะไม่รู้สึกเบาใจ
เธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์ชายอันต๋าจะออกเดินทางพาตัวก่อกวนนี้ออกไปโดยเร็วที่สุด เมื่อไปยังมั่วเป่ย นางอยากจะทำอะไรก็ตามใจต้องการ ยิ่งทำให้มั่วเป่ยโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกยิ่งดี นั่นถือได้ว่าเป็นคุณูปการที่ยิ่งใหญ่สำหรับฉางอัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...