เสิ่นหลินเฟิงถือราชโองการสมราพระราชทานในฝันด้วยความดีใจและความไม่แน่ใจ เขาอยากจะร้องไห้ออกมาทั้งไม่มีน้ำตา เดิมทีเขาเป็นพวกบ้างาน ถ้าหากมีคดีเขาก็จะทำมันจนลืมกินลืมนอนโดยไม่ทำอะไรอื่น
แต่ว่าคดีนี้ไม่ว่ามองตรงไหนก็เป็นแผนการของฮ่องเต้ชรา ตัวเขาไม่ได้แก้ไขคดีแต่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของตาเฒ่าต่างหาก
ในเมื่อฮ่องเต้มั่นใจเช่นนี้ทำไมถึงไม่ไปหาพี่สะใภ้เอง ใช้ทุวิถีทางมมารบเร้าเขาให้ได้ทำไมกัน
เหมือนกับว่าเขามองเห็นชายชรากำลังขุดหลุมอยู่ใต้เท้าตัวเองด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว ส่วนเหยื่อก็คือคนงามที่ตัวเขาเฝ้ามองมานานอย่างลี่ว์อู๋
เขาเดินออกมาจากห้องทรงพระอักษรอย่างอ่อนล้า เมื่ออกมาเสิ่นหลินเฟิงก็เห็นลี่ว์อู๋ที่เขากำลังนึกถึงอยู่
ลี่ว์อู๋อยู่ในชุดชาววังสีชมพูอ่อนปักเป็นรูปดอกท้อด้วยด้ายสีเงิน นางกำลังยืนเท้าเอวประจันหน้ากับเขา นางเข้ามาใกล้เขาด้วยท่าทางที่เหมาะสมที่ข้างบ่อปลาคาร์ฟนับพัน ในมือของนางถือชามรูปใบบัวเอาไว้และกำลังโยนอาหารลงไปในน้ำเพื่อให้อาหารปลากคาร์ฟ รอยยิ้มของนางราวกับดอกไม้แรกแย้ม
เสิ่นหลินเฟิงที่หลายวันมานี้หวานเลี่ยนกับความรักของคนอื่น เมื่อเขาได้เห็นลี่ว์อู๋ฮอร์โมนในร่างของเขาก็หลั่งออกมาจำนวนมาก และรู้สึกว่าลำคอของตัวเองแห้งผาก หัวใจของเขาเต้นรัวจนแทบไม่เป็นจังหวะ
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลี่ว์อู่นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน พวกเขาสนิทกับมากกว่าคนแปลกหน้า แต่ก็เหินห่างกันเกินกว่าจะเป็นคนรัก แต่พวกเขาก็มีความสัมพันธ์คลุมเครือที่ทั้งสองฝ่ายรู้ดีอยู่แก่ใจว่ามากกว่าเพื่อนทั่วไป
เขาใช้สายตาอันคลุมเครือนี้มองไปที่ลี่ว์อู๋ เสิ่นหลินเฟิงมองนางด้วยสายตาที่มองนางว่านั้นบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ซึ่งจุดบกพร่อง ร่างกายสะโอดสะอง ใบหน้างามพริ้ม นิสัยใสซื่อ จิตใจดีอีกทั้งยังมีน้ำใจ ซึ่งตรงกับคนที่เขาอยากได้มาเป็นฮูหยินผู้สืบทอด
ข้ารับใช้ของลี่ว์อู๋อยู่ไม่ไกลจากนาง เมื่อเห็นเสิ่นหลินเฟิงก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันทีและรีบเตือนลี่ว์อู๋ “องค์หญิงเพคะ องค์หญิง รัชทายาทเสิ่นมาแล้ว”
ลี่ว์อู่หันไปก็เห็นเสิ่นหลินเฟิง นางก็ทำตัวไม่ถูกและถูชายเสื้อไปมา ใบหน้าสีชมพูก้มต่ำลง
“รัชทายาทเสิ่น”
เสิ่นหลินเฟิงเองก็ทำตัวไม่ถูกไปหมด เขาเดินเข้าไปใกล้แล้วกระแอมออกมา “องค์หญิงลี่ว์อู๋ บังเอิญจริง”
ลี่ว์อู๋ขบริมฝีปากไปมา “ไม่บังเอิญหรอก เสด็จพ่อให้ข้ามารอท่านที่นี่บอกว่าท่านมีเรื่องจะพูดกับข้า”
เสิ่นหลินเฟิงกัดกราม เขาหยิบราชโองการสมรสพระราชทานออกมาจากอกเสื้อ “เมื่อครู่นี้ฝ่าบาทมอบราชโองการให้กับข้า มีตัวหนังสือบางตัวเขียนได้ไม่ค่อยดี ข้าจึงอยากให้องค์หญิงลี่ว์อู๋ช่วยดูเสียหน่อย”
เขากางราชโองการออกอย่างระมัดระวังแล้วชี้ไปที่ตัวอักษรบางตัวบนนั้นจากนั้นก็เลื่อนไปตรงหน้าลี่ว์อู๋
ลี่ว์อู๋ขยับเข้ามาใกล้เขามาก ยากที่จะทำให้จิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่านได้ เขาหน้าแดงและชี้นิ้วไปและอ่านออกมาด้วยน้ำเสียงสงสัย “ประทานสมรสให้กับรัชทายาทเสิ่นเป็นฮูหยินผู้สืบทอดตระกูลเสิ่น อยู่กันอย่างรักใครปรองดอง อยู่ครองคู่กันไปจนแก่เฒ่า...”
หัวใจของนางอดไม่ได้ที่จะกระตุกวูบเหมือนกับถูกทุบด้วยท่อนไม้ นางกำหมัดแน่นแล้วถามออกมาอย่างยากลำบาก “เสด็จพ่อพระราชทานสมรสให้ท่าน?”
เสิ่นหลินเฟิงพยักหน้าอย่างจริงจัง “ตอนนี้ขาดก็แค่ประทับตราราชลัญจกร”
ลี่ว์อู๋เม้มปากออกมาจนมีเสียงและเต็มไปด้วยความผิดหวัง “ไม่รู้ว่าแม่นางบ้านไหนที่โชคดีแบบนี้กัน”
ดวงตาของเสิ่นหลินเฟิงมีประกายของความขี้แกล้งออกมาอย่างไม่ตั้งใจ “ถ้าท่านขอร้องข้า ข้าจะให้ท่านดูชื่อชื่อที่อยู่ตรงหน้า”
ไหนเลยลี่ว์อู่จะมีอารมณ์มาล้อเล่นในตอนนี้ ตอนนี้นางรู้สึกเพียงว่าสิ่งที่นางทำไปช่างไร้ผล นางทุ่มเทไปทุกอย่างแต่กลับไม่ได้อะไรกลับมาเลย หลายปีมานี้นางทุ่มเทไปทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เขากลับมาล้อเล่นกับนางเช่นนี้
นางรู้สึกอับอายเป็นอย่างมากและหันหลังเตรียมจะจากไป “ไม่บอกก็ช่างเถิด ฮูหยินคนนั้นของท่านเกี่ยวอะไรกับข้ากัน ทำไมข้าต้องขอร้องท่านด้วย”
“แล้วถ้าหากว่าเกี่ยวกับท่านล่ะ”
เสิ่นหลินเฟิงหายตัวมาปรากฏตรงหน้าของนาง ยังไม่ทันได้พูดอะไรใบหน้าของเขาก็แดงเสียแล้ว เขาอยากจะทำแบบโฉวซือเส่าที่ถึงแม้จะเป็นคนมีความสามารถแต่ก็ประพฤติตัวอยู่นอกกรอบและเย้าแหย่คนงามดูสักครั้ง สุดท้ายหน้าของเขาก็ไม่หนาพอ
อีกทั้งเมื่อเขาก้มหน้าลงก็เห็นขอบตาของลี่ว์อู๋แดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าการล้อเล่นครั้งนี้ของเขานั้นทำเกินไป
ลี่ว์อู๋พาลโกรธเขาเอาดื้อๆ นางไม่อยากให้เขาเห็นท่าทางจนมุมของนาง นางจึงก้าวเข้าไปข้างหน้าแล้วบดขยี้เท้าของเขา
“ถอยไป!”
จวนอ๋องฉี
มู่หรงฉีกับเสี่ยวอวิ๋นเช่อกำลังนั่งอาบแดดอยู่บนหลังคาบ้าน พวกเขาหาเรื่องมาพูดคุยกันอย่างสบายๆ
เสี่ยวอวิ๋นเช่อขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างลำบากใจ “จะต้องทำอย่างที่ท่านแม่พูดทั้งหมดเลยหรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นอยากให้ข้าเสียหน้ามากใช่หรือไม่”
มู่หรงฉีนำเสี่ยวอวิ๋นเช่อเข้ามาในอ้อมกอด เขาใช้มืออันหยาบกระด้างค่อยๆลูบไปบนหัวของเสี่ยวอวิ๋นเช่อ “พ่อขอถามเจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเองได้ก่อเรื่องใหญ่อะไรไว้”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อยังคงรู้ความอยู่บ้าง “ท่านแม่บอกว่าข้าไม่ควรที่จะขโมยของของเสด็จปู่โดยที่ท่านยังไม่อนุญาต ข้ารู้ว่าข้าทำผิด หลังจากนี้ข้าไม่กล้าแล้วขอรับ”
มู่หรงฉีพูดอย่างมีความนัยว่า “ทุกคนต้องต้องได้รับโทษในการรับผิดชอบต่อความผิดของตัวเอง ดังนั้นข้อผิดพลาดของเจ้านั้นได้ทำให้คนอื่นได้รับอันตรายและไม่สะดวกสบาย เจ้าเข้าใจตรงนี้ไหม”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อพูดอย่างลำบากใจว่า “ข้าทราบแล้วขอรับ ท่านแม่สั่งสอนข้าแล้ว”
มู่หรงฉีกระแอมออกมาเบาๆ “เจ้าขโมยของที่สำคัญมากของเสด็จปู่ พอเสด็จปู่รู้แล้วจะโกรธมาก แม่ของเจ้าจึงได้ทำเช่นนี้เสด็จปู่ของเจ้าจึงหายโกรธ ในตำราพิชัยยุทธ์ซุนจื่อเรียกกลยุทธ์นี้ว่ากลยุทธ์ทุกข์กาย“
เสี่ยวอวิ๋นเช่อตกตะลึงไปในทันที “หมายความว่าเสด็จปู่ทนที่จะตีข้าอีกไม่ได้ใช่หรือไม่ขอรับ”
เด็กนั้นสามารถสอนได้ สอนไปเพียงนิดเดียวเขาสามารถเข้าใจเรื่องอื่นได้อย่างต่อยอดอย่างาก
มู่หรงฉีเอาแต่ทอดสายตามองไปที่ปลายถนนและยิ้มออกมาน้อยๆ “ที่แม่ของเจ้าสอนเจ้าเจ้าจำเอาไว้ได้แล้วใช่ไหม”
เสี่ยวอวิ๋นเช่อพยักหน้า “ข้าจำได้แล้วขอรับ”
มู่หรงฉีใช้มือกดไปลงไปบนแก้มก้นของเขาอีกทั้งกดไปบนแผ่นหลังอย่างไม่วางใจ “ดี ท่านลุงเสิ่นของเจ้ามาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...