ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 583

ลี่ว์อู๋ถูกส่งมาที่บ้านหลังใหม่ เสิ่นหลินเฟิงอยู่ด้านนอกคอยต้อนรับแขกเหรื่อ โดยเฉพาะพวกพี่น้องที่รับมือยาก

ชายหนุ่มกลุ่มนี้คันไม้คันมือ ล้วนมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้เสิ่นหลินเฟิงรู้สึกขนหัวลุก

หลายวันมานี้ ไม่ว่ากับใครเขาก็เกรงใจ ระมัดระวังเป็นพิเศษ กลัวว่าพวกพี่น้องกลุ่มนี้จะสร้างปัญญาให้กับตัวเองในวันนี้ แม้ว่าลี่ว์อู๋จะเป็นองค์หญิง แต่นางก็นิสัยดี ไม่วางมาด คนกลุ่มนี้ได้ตรวจสอบมาอย่างแจ่มแจ้งแล้ว

ตอนที่เสิ่นหลินเฟิงนั้นดื่มคาราวะ ตั้งใจหาเหลิ่งชิงฮวนเป็นพิเศษ “พี่สะใภ้ วันนี้มีเพียงท่านที่สามารถช่วยหลินเฟิงแล้ว”

เหลิ่งชิงฮวนมองเขาด้วยรอยยิ้ม ก็รู้ได้เลยว่ามีเรื่องที่จะต้องขอร้องตัวเองอย่างแน่นอน

“ถ้าเป็นเรื่องการปลุกห้องเจ้าสาวในคืนนี้ละก็ ไม่ต้องพูดเลยเพคะ ทำสิ่งใดก็ต้องได้รับสิ่งนั้น”

เสิ่นหลินเฟิงทําหน้านิ่วคิ้วขมวด “งั้นขอร้องท่านช่วยบอกท่านพี่ ช่วยออมมือให้หน่อยได้เถิด? ท่านไม่อาจทำเป็นนิ่งเฉยได้นะ ไม่อย่างนั้นข้าต้องถูกพวกพี่น้องกลุ่มนี้เอาตายแน่”

“ท่านมาขอร้องคนที่กลัวว่าโลกจะไม่วุ่นวายมายุติเหตุการณ์วุ่นวาย เป็นไปได้หรือเพคะ? หม่อมฉันไม่สร้างความวุ่นวายก็เป็นเรื่องดี ท่านยังหวังให้หม่อมฉันช่วยท่านอีกหรือ?”

“ครั้งก่อนท่านกับท่านพี่แต่งงานกัน หลินเฟิงก็ยังสามารถละเว้นท่านได้”

เหลิ่งชิงฮวนเห็นเขาสงสารจริง ๆ เม้มริมฝีปาก “หม่อมฉันไม่กล้าหาเรื่องให้ทุกคนโกรธเคืองได้ ท่านอย่ามาขอร้องหม่อมฉันเลยเพคะ ถ้าจะขอ ไปขอเสด็จตาเถอะ พระองค์ต่างหากที่ร้อนใจอยากจะอุ้มหลาน”

เสิ่นหลินเฟิงทำตาปริบๆ ตอบสนองขึ้นมาทันที ลืมเสด็จตาของตัวเองไปได้ยังไงเนี่ย? นี่เป็นพลังหนึ่งคนเฝ้าด่าน ทหารหมื่นนายมิอาจกรายผ่าน ลำพังเพียงใช้แค่ในสนามรบก็สิ้นเปลืองแล้ว

วันนี้การปลุกห้องเจ้าสาวนั้นเป็นเหมือนสนามรบ มีเพียงผู้เฒ่าอาวุโสกั๋วกงถึงจะสามารถสยบเจ้าเด็กแสบกลุ่มนี้ได้ เพียงแค่ออกคำสั่ง ใครจะกล้าบุ่มบ่าม?

ผู้เฒ่าอาวุโสกั๋วกงเป็นคนที่มีคุณธรรมบารมีสูงส่งอย่างแท้จริง งานเลี้ยงมงคลในวันนี้ ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ผู้เฒ่าอาวุโสกั๋วกงนั้นเป็นกังวลอย่างมาก

ส่วนใหญ่ที่นั่งอยู่ที่นี่ล้วนเป็นผู้บัญชาการทหารที่กล้าได้กล้าเสีย การดื่มเหล้านั้นจึงไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังนั้นบรรยากาศบนโต๊ะอาหารนั้น ครึกครื้นเป็นอย่างมาก

แม้แต่อ๋องเซวียนและคนอื่นๆ ก็กระตือรือร้นสนใจในเหล้า ผลัดถ้วยคืนจอกกับทุกคน หัวเราะชอบใจเสียงดัง

ทุกคนค่อยๆเปลี่ยนเป็นไม่มีเด็กไม่มีผู้ใหญ่ คลื่นหลังมักจะสูงกว่าคลื่นหน้า จนอยากที่จะพลิกหลังคา

เพราะว่าอากาศหนาว แขกผู้มีเกียรติทั้งหมดอยู่ในห้องรับรองแขก โต๊ะของแขกผู้หญิงนั่งอยู่ติดกัน ตรงกลางมีฉากกั้นหรือชั้นดอกไม้กั้นเอาไว้

แขกคนสำคัญส่วนใหญ่เป็นราชวงศ์ที่ศักดิ์สูงและฮูหยินของขุนนางระดับชั้นผู้ใหญ่ ไม่คาดคิดเลยว่าน่าจาอี๋นั่วก็ตามหรูอี้มาโดยไม่ได้รับเชิญ

สถานะตัวตนของเธอค่อนข้างที่จะกระอักกระอ่วน ไม่คุ้นชินกับคนของฉางอัน เลือกนั่งมุมที่ไม่เป็นที่สะดุดตาคน ด้านหลังพิงฉากกั้น แยกกับที่นั่งของแขกผู้ชาย

ฉู่รั่วซือนั่งอยู่ติดกับโต๊ะของนาง

ทางฝั่งแขกผู้ชายยิ่งครึกครื้นมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาก็เริ่มส่งเสียงเชียร์ เหลิ่งชิงฮวนฟังแล้ว เหมือนกันว่าเสิ่นหลินเฟิงกำลังดื่มด่ำกับเหล้า

แต่งงานสามวันไม่มีเล็กใหญ่ คนพวกนี้สามารถสร้างความปั่นป่วนได้จริง ๆ

เหลิ่งชิงฮวนเองก็เพิ่งจะรู้สึกปลงไป ฉากกั้นของแขกชายและหญิงนั้นไม่รู้ว่าถูกใครผลักล้มแล้ว!

และน่าจาอี๋นั่วที่นั่งอยูด้านหลังฉากกั้น เธอนั่งหันหลัง จึงไม่ทันระวังตัว เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนจึงหันไปดู ฉากกั้นก็หล่นลงมาทับใส่ตัว

นางรีบยกแขนขึ้นมาป้อง แต่สุดท้ายก็สายเกินไป ประติมากรรมแกะสลักบนฉากกั้นหล่นลงมาพาดผ่านที่หน้าของนาง จากนั้นก็หล่นลงไปที่พื้น

ฉู่รั่วซีที่นั่งหันหลังอยู่โต๊ะข้างๆก็ถูกทุบโดนเข้าที่ไหล่ขวาเช่นกัน

การเคลื่อนไหวไม่น้อย แขกทั้งชายและหญิงงต่างก็เดินตามเสียงมา แล้วก็ต้องตกใจ

น่าจาอี๋นั่วกุมหน้าไว้ มีเลือดซึมออกมาตามซอกนิ้ว หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างสีหน้าตกใจซีดเซียว “อ๊ะ หน้าขององค์หญิง!”

เสียโฉมแล้ว พังแล้ว พังอย่างสมบูรณ์ พังอย่างโหดร้าย

ที่นั่งบนโต๊ะแขกฝั่งผู้ชาย อ๋องเซวียนที่ดื่มจนหน้าหูแดงก่ำ หันหน้ามา ออกคำสั่งอย่างลุกลี้ลุกลน “รีบไปตามหมอมาเร็ว!”

ณ ขณะนั้น ทุกคนต่างไม่มีใครกล้าส่งเสียงดังอีก ทุกคนต่างเงียบลง

คนของจวนอันกั๋วกงรีบกุลีกุจอไปเชิญหมอไปที่จวน เหลิ่งชิงฮวนก็ลุกขึ้น ทว่าไม่ได้สนใจน่าจาอี๋นั่ว แต่เดินตรงไปที่ฉู่รั่วซี

เหลิ่งชิงเฮ่อและแม่ทัพฉู่แล้วยังมีองค์ชายตระกูลฉู่คนอื่นๆต่างก็อยู่ที่งานเลี้ยงรับรอง เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป ก็เข้าไปล้อมรอบฉู่รั่วซีไว้นานแล้ว

“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

เหลิ่งชิงเฮ่อเป็นคนแรกที่ตอบสนอง “เจ้า เจ้าหมายถึง รั่วซือนาง...”

พูดตะกุกตะกัก พูดจาไม่คล่อง

เหลิ่งชิงฮวนยิ้มหวาน “ใช่แล้ว มีแล้ว”

พี่ชายของตัวเองห้าวหาญมาก มีเร็วมากขนาดนี้

พี่ใหญ่ตระกูลฉู่ร้อง “โอ้” แล้วก็โดดขึ้นมา “อะไรนะ? อะไรนะ? เจ้าว่าอะไรนะ? ท่านพ่อ ท่านได้ยินหรือเปล่า? น้องสาวท้องแล้ว!”

เสียงนี้ดึดดูดสายตาของผู้คนจํานวนมากจากทางฝั่งของน่าจาอี๋นั่วด้านนั้น

แม่ทัพใหญ่ฉู่ลูบมืออย่างตื่นเต้น “เจ้าเบาเสียงลงหน่อย อย่าทำให้เด็กตกใจ”

ฉู่รั่วซือก็อับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีที่พี่ชายไร้เดียงสาของตัวเองตะโกนร้อง ท้ายที่สุดแล้ว การตั้งครรภ์นี่เป็นเรื่องที่น่าอายจริง ๆในสมัยโบราณ ที่ไหนจะมีส่งเสียงโวยวายอย่างนี้ล่ะ?”

ฉู่รั่วซีมอง “พี่ใหญ่! เลิกโวยวายได้แล้ว!”

พี่ใหญ่ตระกูลฉู่ลูบด้านหลังท้ายทอย “ไม่เอะอะแล้ว ไม่เอะอะแล้ว ข้าจะกลับไปบอกท่านแม่”

เหล้าไม่ดื่มแล้ว แยกออกจากฝูงคน วิ่ง “ตึกตึกตึก” ไป

ทุกคนต่างก้าวไปข้างหน้าแล้วร่วมยินดี เหลิ่งชิงเฮ่อ ณ ขณะนั้นก็กลายเป็นซื่อบื้อ สีหน้าดูมีความสุข รู้เพียงแค่ยิ้มแหย

แม่ทัพใหญ่ฉู่รู้ว่าชิงฮวนรักษาให้ฉู่รั่วซือ ก็ตะโกนขึ้นอย่างดีใจ “งานเลี้ยงนี้ข้าได้จัดขึ้นที่จวนแม่ทัพแล้ว อีกทั้งยังขอให้พระชายาฉีและฉีอ๋องตอบรับคำเชื้อเชิญมาร่วมงาน ท่านสมกับเป็นเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรจริงๆ แม่นยำมาก มองกลับไป ข้าควรที่จะจุดธูปคาราวะท่าน!”

ฉู่รั่วซือไม่พอใจ “ท่านพ่อ ท่านพูดอะไรของท่านเนี่ย!”

ทุกคนหัวเราะชอบใจเสียงดัง

แม่ทัพใหญ่ฉู่ตื่นเต้นจนหนวดเครากระดกขึ้น “ความจริงอันยิ่งใหญ่!”

ถ้าลูกสาวของตัวเองยังไม่คลอดอีก ตาแก่ตระกูลเหลิ่งปากเหม็นนั่น ยังไม่รู้ว่าจะดูถูกตัวเองยังไงอีก? ครั้งนี้ก็ลืมตาอ้าปากได้อย่างเต็มที่แล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา