ผ่านไปหลายวัน ลี่ว์อู๋และเสิ่นหลินเฟิงไปขอบคุณแม่สื่อถึงที่บ้าน มาเป็นแขกที่จวนฉีอ๋อง นำข่าวที่น่าตกใจสองเรื่องมาบอกเหลิ่งชิงฮวน
ประการแรก ฮ่องเต้เพิ่งมีรับสั่งปลดฮ่องเฮา
การสิ้นพระชนม์ของเยี่ยนผิน ได้สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในวังหลวง ผู้คนหวาดผวา ข้าหลวงในวังต่างก็สงสัยกันเยอะ
มีคนบอกว่า เยี่ยนผินคิดสั้นชั่วขณะหนึ่ง กระโดดลงทะเลสาบอย่างขุ่นเคืองใจ
บ้างก็มีคนบอกว่า นางกำนัลรับใช้ที่อยู่ใกล้ตัวฮองเฮาเป็นคนคนผลักเยี่ยนผินตกลงไปในน้ำจนจมน้ำตาย
และก็มีหลายคนบอกว่า ในทะเลสาบนั้นมีผีพราย ลากเยี่ยนผินลงไปในน้ำ ดูดเลือดของเธอให้แห้ง ให้นางมาเป็นผีตัวตายตัวแทน
เสด็งอารองที่ตอนนี้ถูกพี่ชายของฮ่องเต้ย้ายจากเหอตงไปเหอซี อยู่ห่างไกลกัน ไม่เคยได้รับข่าวคราว ไม่เช่นนั้นคงเข้ามาแทรกแซงอย่างแน่นอน
ฮ่องเต้ในเวลานั้นงานมงคลของลี่ว์อู๋กำลังจะใกล้เข้ามา จึงไม่ได้ออกฤทธิ์ไป หลังจากงานอภิเษกของลี่ว์อู๋ ก็ออกราชโองการทันที สั่งปลดฮองเฮาลดขั้นเป็นสนมเอก
ในพระราชโองการใช้คำที่คลุมเครือ ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมถึงปลดฮองเฮา บอกเพียงแค่ศีลธรรมไม่คู่ควรกับตำแหน่ง ตำหนักทั้งหกไม่เชื่อฟัง แต่เห็นได้ชัดเจนมากว่า การตายของเยี่ยนผิน ได้ทำให้ฮองเฮาต้องเป็นแพะรับบาป เพื่อระงับขอวิพากษ์วิจารณ์ของทุกคน
หลังจากที่ฮองเฮาได้รับราชโองการก็ล้มป่วยลง โกรธจนล้มป่วย
เหลิ่งชิงฮวนกลับรู้สึกว่าการตัดสินใจของฮ่องเต้ในครั้งนี้ฉลาดมาก อย่างน้อยที่สุด ก็เห็นได้ชัดว่าฮองเฮาไม่ใช่คู่แข่งของคนนี้ มีแค่โยกย้ายตำแหน่งนี้ จึงจะสามารถปกป้องตัวเองได้ อีกทั้งจุดประสงค์ของผู้อยู่เบื้องหลังก็จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
การถอยกลับอย่างกล้าหาญ บางครั้งก็เป็นความฉลาดอย่างหนึ่ง
ข่าวที่สอง ยิ่งเหนือความคาดหมาย
บาดแผลบนหน้าของน่าจาอี๋นั่วหายสนิทดีแล้ว รอยแผลเป็นนั้นไม่เล็กเลยจริงๆ และน่าเกลียดมาก
อ๋องเซวียนตั้งใจเข้าวัง เพื่อกราบทูลเหตุการณ์ในวันนั้นกับฮ่องเต้ เขารู้สึกโทษตัวเองและรู้สึกผิดอย่างมากสําหรับเรื่องนี้
เมื่อเผชิญหน้ากับน่าจาอี๋นั่วที่เสียโฉม ช่วงเวลานั้นอ๋องเซวียนก็มีความกล้าหาญขึ้นมา จึงขอพระราชโองการ ต้องการที่จะรับผิดชอบอี๋นั่ว ยินดีที่จะแต่งนางเข้าจวน เป็นพระชายารองของเขา
ตอนนั้นพระองค์มีปฎิกิริยาอะไร พูดอะไรกับอ๋องเซวียนนั้น ไม่มีใครรู้ได้เลย รู้เพียงแค่ว่าหลังจากนั้นพระองค์ก็มีรับสั่งเรียกองค์หญิงอี๋นั่วเข้าวัง หลังจากเช็คบาดแผลบนใบหน้าของนางแล้ว ก็เห็นดีเห็นงามด้วย
และน่าจาอี๋นั่ว ได้ยินว่าก็ตอบตกลงอย่างมีความสุขดี ไม่กระมิดกระเมี้ยนเลยสักนิดเดียว ไม่ลังเลแม้แต่น้อย
ฉากจบนี้ทุกคนไม่มีใครคาดคิด ความรับผิดชอบของอ๋องเซวียน ไม่นึกเลยว่าจะรับผิดชอบจนถึงขั้นอุทิศกายถวายให้
เหลิ่งชิงฮวนไม่รู้ว่า หากวันนั้นเป็นหญิงสูงวัยที่ถูกฉากกั้นกระแทกใส่จนมีบาดแผลบนใบหน้า อ๋องเซวียนจะรับผิดชอบด้วยวิธีนี้หรือไม่?
เสิ่นหลินเฟิงกล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น ในบรรดาแขกน่าจะมีเพียงแค่สองสามคนที่มีสติ ว่ากันว่าฉากกั้นนั้นอ๋องเซวียนเป็นคนชนจนล้มลงจริงๆ ดังนั้นในตอนนั้นเองทุกคนก็เลยไม่กล้าที่จะปากสว่าง
เพราะฉากจบนี้ เหลิ่งชิงฮวนคิดกลับกัน รู้สึกว่าเรื่องฉากกั้นล้มนั้นเป็นเรื่องบังเอิญ กลายเป็นเรื่องโชคชะตานำพาพอดิบพอดี
นอกจากนี้ ยังได้ยินอีกว่า เพราะเรื่องนี้พระชายาเซวียนโกรธจนวิ่งไปร้องห่มร้องไห้กับฮองเฮา ฮองเฮาเองก็ไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเพราะไม่ไว้หน้าเธอ
พระชายาเซวียนก็กระฟัดกระเฟียตกลับไปที่บ้านแม่ รอให้อ๋องเซวียนยอมแพ้ มารับนางกลับจวน
ใครจะไปคาดการณ์ได้ว่าครั้งนี้อ๋องเซวียนกลับไม่ทนเหมือนดังเดิมไม่สนใจกับการต่อต้านของพระชายาเซวียน เพียงแต่ยุ่งอยู่กับการเตรียมการสําหรับงานอภิเษกกับพระชายารอง
พระชายาเซวียนเห็นว่าตัวเองไม่ได้รับความสนใจ ได้ยินท่าทีของอ๋องเซวียน นอกจากร้องไห้ครวญครางแล้วก็จนปัญญา บวกกับคิดถึงลูก ก็กลับจวนด้วยความเศร้าหมองใจ
คำพูดของน่าเยี่ยไป๋นั้น ใจตรงกันกับการคาดเดาของเหลิ่งชิงฮวน
ดังนั้น เรื่องตลกวุ่นวายที่เกิดขึ้นในงานมงคลของเสิ่นหลินเฟิงนั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ แต่เป็นการจงใจอย่างนั้นเหรอ?
หากทั้งสองมีแผนจะแต่งงานกันล่วงหน้า ร่วมมือกันเล่นละครต่อหน้าทุกคน อ๋องเซวียนเป็นฝ่ายาออกหน้ารับผิดชอบเอง ทำให้คลื่นลมสงบ เห็นได้ชัดว่าเขาคำนึงถึงสถานการณ์โดยภาพรวม และทำทุกอย่างให้มันสมเหตุสมผล
ทั้งสองคนนี้คบกันตั้งแต่เมื่อไหร่?
อ๋องเซวียนแต่งกับน่าจาอี๋นั่วก็สามารเข้าใจได้ อย่างไรก็ตาม ในสายตาของคนนอก อี๋นั่วเสียสละเสรีภาพและความสุขของตัวเองเพื่อเสด็จพี่ น่าเยี่ยไป๋รู้สึกซาบซึ้งและละอายใจ สองพี่น้องมีมิตรภาพที่หนักแน่น สักวันหนึ่ง เมื่อน่าเยี่ยไป๋ขึ้นครองราชย์ เขาจะระลึกถึงความดีของน้องสาวตัวเองอย่างแน่นอน
แต่ทำไมน่าจาอี๋นั่วถึงเลือกที่จะแต่งงานกับอ๋องเซวียนล่ะ?
ฮ่องเต้มีรับสั่งเปลี่ยนวันพระราชทานอภิเษก
เพราะร่างกายของน่าเยี่ยไป๋นั้นดีขึ้นแล้ว กำลังจะกลับไปที่หนานจ้าว ดังนั้น น่าจาอี๋นั่วแต่งเข้าจวนอ๋องเซวียน เวลาเตรียมตัวกระชั้นชิด พยายามที่จะทำพิธีให้เรียบร้อยก่อนที่ขุนนางจะเดินทางกลับแคว้นหนานจ้าว
พิธีของพระชายารองน่าจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายมาก พระชายารองฟังดูดีนะ จริงๆแล้วก็เป็นเพียงอนุภรรยา
ไม่ได้สง่างาม ไม่มีคาราวะฟ้าดิน ตระกูลผู้หญิงเป็นชนชั้นสูงที่โดดเด่น มีแขกมาร่วมอวยพร หากเป็นตระกูลชนชั้นธรรมดา ก็จะมีเกี้ยวยกเข้าไปที่ประตูด้านข้าง ก็คือสูงกว่านางสนมเล็กน้อย
แต่สุดท้ายนางสนมก็ไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะเข้าประตูด้านข้าง ทำได้เพียงหลังฟ้ามืดเข้าทางประตูเจี่ยว หลบๆซ่อนๆ เหมือนกับแอบมีความสัมพันธ์กัน
ทว่า อ๋องเซวียนแต่งงานกับน่าจาอี๋นั่ว กลับใช้ความพยายามอย่างมาก จดหมายเชิญงานแต่งแจกจ่ายออกไป ไม่เพียงตาเหล่าท่านอ๋อง องค์หญิง แม้แต่เหล่าขุนนางที่เดินเจอใกล้ชิดกันอยู่ทุกวันก็ได้รับเชิญด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...