ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 586

เรื่องที่ฉู่รั่วซือตั้งครรภ์ ส่งมาที่จวนมหาเสนาบดี มหาเสนาบดีตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ว่าหลานชายดีแค่ไหน ก็เป็นของคนอื่น ตัวเองได้แต่อิจฉาตาร้อน ตั้งตารอหลานแท้ๆของตัวเองมาหลายปี จะไม่ตื่นเต้นได้ยังไง?

ทางฝั่งด้านจวนแม่ทัพ ก็วิ่งมาที่จวนมหาเสนาบดีเหมือนโคมไฟม้าวิ่ง ความไม่สบายใจต่างๆ จนอีกนิดจะเหยียบประตูจวนมหาเสนาบดีพังแล้ว

ฉู่รั่วซือได้รับการดูแลจากทุกคน ทั้งยังไม่อนุญาตให้นางถือมีดจับปืนอีก ใครก็ไม่กล้าที่จะยั่วโมโหนาง จนเกือบจะวางนางไว้บนหิ้งบูชาแล้ว

ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็ยังคงเกิดเรื่องขึ้น

เหลิ่งชิงฮวนกำลังตรวจอาการเป็นครั้งสุดท้ายให้น่าเยี่ยไป๋ก่อนออกเดินทาง จวนมหาเสนาบดีก็ส่งวิ่งวุ่นเข้ามาเชิญให้นางรีบไปที่จวนมหาเสนาบดี บอกว่ฉู่รั่วซือหกล้ม ตกเลือดแล้ว

ตอนนี้อัครเสนาบดีและเหลิ่งชิงเฮ่อไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น เชื่อแค่ฝีมือหมอเหลิ่งชิงฮวน

เหลิ่งชิงฮวนตกใจ ไม่ทันได้เก็บข้าวของ ก็รีบขึ้นรถม้าไปที่จวนมหาเสนาบดี

ในจวนมหาเสนาบดี มีพวกพี่ชายทั้งหลายและฮูหยินของจวนแม่ทัพ และยังมีนายหญิงน้อยสองสามคนเมื่อได้ยินข่าวต่างก็มาที่นี่กันหมด ประตูห้องของเหลิ่งชิงเฮ่อสองสามีภรรยาก็เบียดล้อมกันแน่นขนัด เมื่อเห็นเหลิ่งชิงฮวน ดีใจยิ่งกว่าเห็นคนรักตัวเอง เข้ามารุมล้อมพูดเป็นเสียงเดียวกัน

“พระชายา ท่านต้องช่วยรักษาลูกในท้องฉู่รั่วซือเอาไว้ให้ได้นะเพคะ”

หลังจากเหลิ่งชิงฮวนเกิดใหม่ ก็เห็นต่างฝ่ายต่างพยายามหลอกลวงซึ่งกันและกันระหว่างพวกพี่น้อง มีเพียงพี่น้องไม่กี่คนในจวนแม่ทัพ รวมไปถึงน้องสะใภ้ต่างก็เข้ากันได้ดี

ปฏิบัติต่อฉู่รั่วซือน้องสามีคนนี้ พี่สะใภ้หลายคนก็เจ็บปวดจริงๆ

ช่วงเวลาสำคัญนี้ทั้งอัครเสนาบดีและแม่ทัพฉู่ก็ยังส่งเสียงโวยวายอยู่ด้านข้าง

แม่ทัพใหญ่ฉู่ตำหนิอัครเสนาบดี อัครเสนาบดีไม่พอใจ ทั้งสองโกรธมาก น้ำลายปลิวว่อน เหมือนไก่ชนสองตัวที่ไม่ยอมกัน แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจ และก็ไม่มีคนห้ามทัพ ทุกคนต่างชินกันหมดแล้ว

เหลิ่งชิงฮวนเดินตรงเข้าไปในห้องฉู่รั่วซือ ฉู่รั่วซือกำลังนั่งพิงอยู่ที่เตียง ไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย เหลิ่งชิงเฮ่อเฝ้าอยู่ข้างๆ ร้อนใจจนเหงื่อตก ขอบตาแดงแล้ว

ไม่พูดเรื่องไร้สาระแล้ว รีบเดินขึ้นไปตรวจ จ่ายยา โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก ภาวะแท้งคุกคามน่ะ ไม่ร้ายแรงมาก

“อย่างน้อยก็เป็นผู้ฝึกสอนการต่อสู้ เดินยังไงถึงล้มได้?”

เหลิ่งชิงฮวนให้ทุกคนกินยาสงบจิต จากนั้นก็พูดแซว

เมื่อคำนี้พูดออกไป ในห้องก็เงียบไปชั่วขณะ

ฮูหยินฉู่ไล่ให้พวกนายหญิงน้อยออกไป “โชคดีมาก ในเมื่อรั่วซือไม่เป็นอะไรแล้ว รีบไปที่ห้องครัว ตุ๋นซุปให้รั่วซือหน่อย”

เหล่านายหญิงน้อยไม่เกรงใจเลยสักนิด หัวเราะคิกคักไปห้องครัวกันเป็นกลุ่ม เห็นจวนมหาเสนาบดีเป็นอาณาเขตบ้านของตัวเอง

เหลิ่งชิงเฮ่อถอนหายใจเบาๆ จึงเอ่ยปาก “ช่วงนี้ที่จวนไม่สงบสุขมาโดยตลอด”

เหลิ่งชิงฮวนประหลาดใจ “ทำไมเหรอ?ขโมยขึ้นเหรอ?”

“มันเป็นแปลกประหลาดอะไรกันแน่?”

ฉู่รั่วซือทำเสียง “หึ” “ล้วนแต่เป็นกลอุบายเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็มีคนหลงเชื่อ อย่างเช่น ตกกลางดึกที่ลานบ้านจู่ๆก็มีไฟผีพุ่งใต้ไม่รู้โผล่มาจากที่ไหน กระโดดไปมา ทำให้คนตกใจ หลังจากที่ข้าได้ยิน ก็วิ่งออกไปดู บนพื้นมีผงที่ยังไหม้ไม่หมด แม้ข้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็มั่นใจได้ว่า ผีพุ่งใต้อันนั้นจะต้องมีคนก่อเรื่องไว้แน่”

ข้อนี้ เหลิ่งชิงฮวนเห็นด้วยอย่างแน่นอน ต่อให้เป็นผีพุ่งใต้จริง นั่นเป็นเพียงปรากฏการณ์ที่ศพตามถิ่นทุรกันดานนั้นตากแดดตากลมอยู่ตลอดปี ก็เป็นปรากฎการณ์ที่ฟอสฟอรัสเกิดการเผาไหม้ก็เท่านั้นเอง

ถ้าหาก เหลิ่งชิงหลางตายอย่างไม่เต็มใจจริงละก็ คนที่นางควรมาหาก็ต้องเป็นเธอ เหลิ่งชิงฮวนสิ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาหาฉู่รั่วซือปรากฎตัวระบายความรู้สึกอยู่ที่นี่?

เธอพยักหน้าและยอมรับ

ในที่สุดฉู่รั่วซือก็หาคนที่รู้ใจเจอ จึงพูดต่อ “แล้วยังมีอีก ที่หน้าบ้านและหลังบ้านของข้า ช่วงกลางดึก ก็จะได้ยินเสียงคนแก่ไอ ไอค่อกแค่ก ไม่ยอมหยุด แต่เมื่อออกไปดู แม้แต่เงาคนก็ไม่มี ท่านว่ามันแปลกไหม?”

เหลิ่งชิงฮวนไม่สามารถอธิบายได้ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เจอกับตัวเอง แต่ฟังดูแล้วน่ากลัวจริงๆ

“ยังมีอีก” ฉู่รั่วซือพูดถึงตรงนี้ก็ตื่นเต้นเล็กน้อย “เมื่อคืน พี่ของท่านได้หนังสือเล่มหนึ่งมา อ่านจนเคลิ้ม ส่งข่าวมาบอกว่าจะนอนในห้องตำรา เพื่อไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของข้า ข้าก็เลยนอนก่อน จากนั้น ข้าก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูจากด้านนอก

ข้าคิดว่าพี่ของท่านกลับมาแล้ว สั่งให้แม่เฒ่าที่เฝ้าตอนดึกออกไปเปิดประตู แต่ด้านนอกก็ว่างเปล่า ข้ารู้สึกแปลกใจนิดหน่อย นึกว่าตัวเองหูฟาดไป ก็เลยหลับต่อ ใครจะไปรู้ว่ากลางดึกก็มีคนมาเคาะประตูแกล้งข้าอยู่สองสามครั้ง แม่เฒ่าที่เฝ้าตลอดทั้งคืนก็ได้ยินชัดเจน แต่เสียดายที่เปิดประตูออกไปก็ไม่เจอใคร

ดึกดื่นเที่ยงคืน แม่เฒ่าขี้ขลาด กลัวนิดหน่อย อีกทั้งยังเอ่ยถึงเรื่องวุ่นวายในจวนอีก ก็เลยไม่กล้าออกไปดู

ในใจของข้านั้นอึดอัด ไม่กลับไปพักผ่อนบนเตียงแล้ว นั่งรออยู่ที่เก้าอี้ ดูสิว่าใครกันที่มันบังอาจมาแกล้งข้า ครั้งนี้รอจนใกล้ฟ้าสาง ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก ข้าไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เปิดประตูรีบวิ่งออกไปทันที ใครจะรู้ รีบเดินไปหน่อย ก็เลยลื่นล้มลงกับพื้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา