จินซ่างซูได้ยินดังนั้นก็ดีใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้จินเอ้อร์จะมิได้เรื่อง แต่นั่นก็เลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเขาเองเช่นกัน รีบทำหน้าหนาแล้วขอให้เหลิ่งชิงฮวนช่วยทันที
เหลิ่งชิงฮวนอ้าปากรับคำอย่างเริงร่า “เรื่องเล็กน้อยเอง ใต้เท้ามิต้องเกรงใจหรอก แต่ว่าข้าก็มีเรื่องยุ่งๆ ที่นี่เช่นกัน ต้องขอความช่วยเหลือจากใต้เท้าจินกับจินเอ้อร์ด้วย”
จินซ่างซูตบหน้าอก “พระชายาบอกมาได้เลย!”
เหลิ่งชิงฮวนยิ้มน้อยๆ “เมื่อวานท่านอ๋องของข้าบังเอิญไปเจอชิงเจียว น้องชายของข้า ก็เลยเพิ่งรู้ว่าเขาค่อนข้างจะเข้าใจเรื่องระหว่างข้ากับชิงหลาง ข้ากับเขาเป็นพี่น้องกัน มินึกเลยว่าจะเกิดเรื่องศึกสายเลือดขึ้นมาอีก ได้ข่าวว่าคุณชายรองจินกับน้องชายของข้ามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จะสามารถรบกวนให้คุณชายรองจินกับน้องชายของข้าอธิบายความจริงในตอนนั้นได้หรือไม่ ข้ากับชิงเจียวจะได้ปรับความเข้าใจกันในเร็ววันด้วย”
คำพูดนั้นทำให้จินซ่างซูยิ้มเจื่อน แม้ว่าเหลิ่งชิงฮวนจะพูดอย่างสุภาพ แต่ใครๆ ก็ต่างฟังออกว่านางโทษจินเอ้อร์ที่ไปพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าชิงเจียว
เจ้าแทงข้างหลังข้า เหตุใดข้าจะต้องช่วยเจ้าด้วยล่ะ?
จินซ่างซูยิ้มอย่างกระอักกระอวน “เรื่องนี้พระชายามิต้องกังวล กลับไปข้าน้อยจะไปสอนบทเรียนให้เจ้าลูกชายไร้ประโยชน์นี่ ให้เขารีบอธิบายเรื่องตอนนั้นให้ชิงเจียวฟังว่าเกิดเหตุใดขึ้น ถ้ากล้าพูดเรื่องไร้สาระแม้แต่คำเดียว ข้าน้อยจะหักขาเขาอีกข้างหนึ่ง”
เหลิ่งชิงฮวนพอใจเป็นอย่างยิ่ง “ดี ข้าจะรอข่าวดีจากจินซ่างซู เจ้าต้องจำไว้ว่า แผลสุนัขกัดจำเป็นต้องรักษาภายในสามวัน จะผัดวันประกันพรุ่งมิได้เด็ดขาด มิเช่นนั้นมันจะมิได้ผล”
จินซ่างซูขอบคุณเป็นการใหญ่ก่อนจะจากไป
เมื่อกลับมาถึงจวน ก็แจ้งให้จินเอ้อร์ทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น การช่วยชีวิตจินเอ้อร์ก็เป็นเรื่องสำคัญ และส่งคนไปเชิญเหลิ่งชิงเจียวมา
เหลิ่งชิงเจียวได้รับบทเรียนจากมู่หรงฉีแล้ว ถึงแม้ว่าจะเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง แต่มู่หรงฉีพูดถูกว่าพี่น้องอย่างจินเอ้อร์คบมิได้ คนจากจวนสกุลจินถูกเขาปฏิเสธ และบอกว่าอยู่ที่จวนทบทวนตัวเองแล้ว มิอยากออกไปไหน
ขาของจินเอ้อร์มิสะดวกนัก จึงทำได้เพียงสั่งคนให้ไปเตรียมเกี้ยวเบาะนุ่มๆ มาเพื่อพาเขาไปที่จวนมหาเสนาบดี
เหลิ่งชิงเฮ่อกับเหลิ่งเซียงมิได้รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเห็นจินเอ้อร์มาถึงหน้าประตูด้วยใบหน้านิ่วคิ้วขมวด
จินเอ้อร์แทบมิได้สนใจว่าจะมองเขาด้วยสีหน้าแบบใด ขอโทษเหลิ่งชิงเจียวเรื่องขายนักร้องหญิงก่อน จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เหลิ่งชิงหลางวางแผนลับต่อเหลิ่งชิงฮวนอยู่หลายครั้งอย่างละเอียด เขาร้องไห้อย่างขมขื่น บอกว่าตนสมควรตาย วันนี้เขาได้รับบทเรียนและตาสว่างขึ้นมาแล้ว
เหลิ่งชิงเจียวมิได้คิดอันใดมากนัก มิรู้เลยว่าจินเอ้อร์จะต้องยอมจำนนอยู่ภายใต้อำนาจของเหลิ่งชิงฮวน แล้วน้ำตาก็หลั่งไหลริน แสดงให้เห็นว่ารู้ซึ้งแล้ว แต่ในระดับหนึ่งเขาก็ยังได้รับผลกระทบจากจินเอ้อร์ และเริ่มคิดทบทวนอยู่ในใจของตน
คิดจะเปลี่ยนคนคนหนึ่งในเวลาอันสั้นนั้นเป็นเรื่องที่ยาก เหลิ่งชิงฮวนคิดว่าควรจะให้เวลาเขาสักหน่อย
จุดสิ้นสุดของตระกูลจิน มีความทุกข์ระทมในห้าปีนั้นของเหลิ่งชิงหลางก็ส่งผลกระทบต่อเขามากเกินไป พูดแล้วเขาก็เป็นเด็กที่น่าสงสารคนหนึ่ง
นางคอยเตือนให้เหลิ่งชิงเฮ่อระมัดระวังตัวและก็ต้องให้ความสนใจกับความผันผวนในอารมณ์ของชิงเจียวด้วย
นางฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแบบแบ่งฉีด และทำมันซ้ำเช่นเดิม บอกจินเอ้อร์ว่าเชื้อพิษสุนัขบ้ามีระยะในการฟักตัวสามปี ทุกๆ ปีจะต้องเข้ามาฉีดยาป้องกันหนึ่งเข็ม พอผ่านสามปีนี้ไป รับรองได้เลยว่าปลอดภัยหายห่วง
จินเอ้อร์ก้มหน้าลง มิกล้าสบตานาง จินซ่างซูและจินฮูหยินขอบคุณนางเป็นอย่างมากสำหรับความเอื้ออาทร และขาดมิได้เลยที่จะต้องขอบคุณนางเป็นพันๆ หมื่นๆ ครั้ง
เรื่องนี้ผ่านไป และวันที่อ๋องเซวียนต้อนรับน่าจาอี๋นั่วก็มาถึง
เหลิ่งชิงฮวนก็เข้าใจดีว่าอันใดเรียกว่า ตระกูลใหญ่ ธุรกิจใหญ่ ค่าใช้จ่ายมากมาย จวนท่านอ๋องก็เข้าสู่ฤดูหนาว งานมงคล งานอวมงคล น้ำใจของมนุษย์ก็จ่ายไปๆ มาๆ ซึ่งมิใช่ค่าใช้จ่ายน้อยๆ เลย
แต่ละคนมีภรรยาที่แต่งงานตั้งกี่คน เงินก็ต้องแบ่งให้ตามความรัก
อ๋องเซวียนรับพระชายารองมาหนึ่งคน แต่มิใช่เมียแต่ง พระชายาจริงๆ อย่างพวกนางเหล่านี้ เดิมทีก็มิอยากจะไปแสดงความยินดีเสียด้วยซ้ำ เมื่อมาถึงด้านหน้า พระชายารุ่ยก็เรียกคนไปส่งข่าว นัดนางไปด้วยกัน โดยบอกว่าดูน่าสนุก
พระชายาเซวียนต้องแสดงอำนาจให้น่าจาอี๋นั่วที่เข้าประตูมา
“ช้าก่อน”
“มีอันใดรึ?”
พระชายาเซวียนยิ้มเยาะ “ท่านอ๋องมิเข้าใจกฏของการรับนางสนมของจวนท่านอ๋องแห่งนี้รึ? ครั้งแรกเกิด ครั้งที่สองก็ต้องคุ้นเคย ครั้งที่สามครั้งที่สี่ก็ต้องชำนาญแล้ว พระชายาอย่างหม่อมฉันตระเตรียมแทนท่านมามากมาย ก็ย่อมช่ำชองดี”
มีใครบางคนหัวเราะเบาๆ อยู่ในกลุ่มฝูงชน ในจวนอ๋องเซวียนมีหญิงสาวมากมาย การเป็นพระชายาเซวียนนั้นมันมิง่ายเลย
อ๋องเซวียนกดเสียงต่ำ “วันนี้วันสำคัญ มีแขกมามากมายขนาดนี้ มีธุระอันใดก็ค่อยว่ากันทีหลัง!”
พระชายาเซวียนมิขยับเขยื้อนใดๆ “พระชายารองอย่างนาง แม้ว่าจะเป็นองค์หญิง ใช้เกี้ยวแปดคนหาม หม่อมฉันยังทนได้ แต่ชุดสีแดงนี้มีแค่พระชายาหลักเท่านั้นถึงจะใส่ได้ นางมีสิทธิอันใดมาสวมมัน? แล้วชุดสีชมพูที่หม่อมฉันสั่งให้คนไปเตรียมมาล่ะ? นี่มิใช่การหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัดรึ?
อีกอย่าง พระชายารองเข้ามาข้างใน กฏเข้าประตูหลักอยู่ที่ไหนเล่า? ถ้าท่านอ๋องหลงใหลในตัวนาง เมื่อประตูปิดแล้ว พวกท่านแสดงความเคารพกันก็จบ ดื่มแลกแก้วสุราก็ดี หม่อมฉันก็พูดอันใดมิได้ แต่ตอนนี้มิใช่!”
โอ้โห! ศึกได้เริ่มขึ้นแล้ว!
เหลิ่งชิงฮวนกับเสี่ยวอวิ๋นเช่อยืนเขย่งเท้าอยู่ในฝูงชนและมองดูอย่างตื่นเต้น แทบอยากจะตะโกนส่งเสียงเชียร์สุมไฟให้พระชายาเซวียนซึ่งๆ หน้า
สีหน้าของอ๋องเซวียนเคร่งขรึมขึ้นมาทันที “นางเป็นองค์หญิง ก็ต้องปฏิบัติตามกฏขององค์หญิงอยู่แล้ว”
“เข้าเมืองตาหลิ่วก็ต้องหลิ่วตาตาม นางแต่งงานกับจวนอ๋องเซวียน ก็ต้องปฏิบัติตามกฏของจวนอ๋องเซวียน หรือว่าพระชายาเอกอย่างหม่อมฉันจะต้องคล้อยตามนางด้วยอย่างนั้นรึ? วันนี้ทุกคนอยู่ที่นี่ ก็ให้ทุกคนตัดสินเอาก็แล้วกันว่าแบบนี้นับว่าหลงใหลอนุละเลยภรรยาหรือไม่!”
“ไร้สาระ!” อ๋องเซวียนตำหนิด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แค่เรื่องเล็กน้อย เจ้ายังคิดเล็กคิดน้อยเช่นนี้ ช่างเป็นผู้หญิงที่ขี้อิจฉาเสียจริง! ทหาร พาพระชายาเข้าไปข้างใน ดื่มชารอเสีย อย่ามาทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...