ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 607

ข้างหลังเหลิ่งชิงฮวนมีคนรับใช้สองคนติดตามอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลอย่างระมัดระวัง

เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยถาม “นี่คืออะไร?”

คนรับใช้เอ่ย “เดิมทีก็แค่ลานสำหรับเก็บของจิปาถะเจ้าค่ะ ด้านในมีสุนัขสองตัวเฝ้าอยู่”

เหลิ่งชิงฮวนมองผ่านรอยแตกของประตูเข้าด้านในมีหญ้าแห้งขึ้นรกร้าง เห็นได้ชัดว่าไม่มีใครดูแลมันมาเป็นเวลานาน

เธอไม่สนใจ หันหน้าหนีและกำลังจะเดินจากไป แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามาพลางร้องเรียกเธอ “พระชายา!”

คนรับใช้ทั้งสองอธิบาย “นี่คือคุณชายของพวกเราเจ้าค่ะ” เหลิ่งชิงฮวนเหล่ตามอง นี่คือบุตรชายคนเดียวของแม่ทัพใหญ่ที่เกือบจะได้แต่งงานกับลี่ว์อู๋

เมื่อลองพิจารณาดูแล้วเขามีรูปร่างสูงและดูสง่า แต่ว่าจมูกงุ้มเหมือนอินทรี โหนกแก้มสูง มองดูใบหน้านี้แล้วไม่ใช่ใบหน้าที่ดูจงรักภักดี ไหนเลยจะดูสง่างามและอ่อนโยนเหมือนหลินเฟิง?

คุณชายฝูเดินเข้ามา ยกชายเสื้อของเขาและคุกเข่าลงต่อหน้าเหลิ่งชิงฮวน “ข้าไม่รู้ว่าพระชายาอยู่ที่นี่จนกระทั่งได้ยินเสียงสุนัขเห่า สุนัขอารักขาสองตัวนี้ดุร้ายมากซ้ำยังเคยทำร้ายผู้คนมาก่อน ยากที่จะฝึกฝน ดังนั้นข้าจึงเลี้ยงมันไว้ที่นี่และไม่อนุญาตให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้มัน หวังว่าคงไม่ได้ทำให้พระชายาตกใจหรอกนะ”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้ตกใจ แต่เธอรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เนื่องจากสุนัขถูกขังอยู่ในสนามหญ้าและไม่สามารถออกไปไหนได้ นับประสาอะไรกับการเข้ามาทำร้ายเธอ คุณชายฝูกำลังกังวลอะไรอยู่?

สถานะพระชายาอ๋องฉีมีประโยชน์ขนาดนี้เลย?

อีกอย่างก็แค่สุนัขที่ถูกล่าม ไม่เห็นต้องรีบร้อนมาอธิบายอะไรแบบนี้เลย

เธอยิ้มเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ข้าเป็นแค่คนหยาบกระด้างที่เติบโตในชนบท สุนัขสองตัวไม่สามารถทำให้ข้ากลัวได้ แค่สนามหญ้ารกไปด้วยวัชพืช ข้าไม่รู้ว่างูพิษของข้าจะเลื้อยข้าไปด้านในหรือไม่ คุณชายฝูช่วยเปิดประตูให้ข้าเข้าไปหาดูหน่อยจะได้หรือไม่?”

คุณชายฝูปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด “จวนนี้ยากที่จะให้เข้ามาได้ พระชายามีร่างกายสง่างามไม่อาจก้าวเท้าเข้ามาในที่รกร้างเช่นนี้ได้ หากพระชายาหาของไม่พบ ข้าจะสั่งให้คนรับใช้มาช่วยหาให้”

เหลิ่งชิงฮวนทำสีหน้าลำบากใจ “แต่งูตัวนี้มีพิษร้ายแรง หากเผลอไปทำร้ายคนเข้า ข้าคงเสียใจมากๆ ข้าลองไปหาที่อื่นดูก่อนแล้วกัน ถ้าไม่เจอจริงๆ ค่อยว่ากันอีกที”

เห็นได้ชัดว่าคุณชายฝูถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เช่นนั้นก็ดี”

เหลิ่งชิงฮวนไม่ได้อยู่ตรงนั้นต่อ เธอหันหลังเดินออกมาทันที

แหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ใช่การดีใกล้จะมืดแล้วแต่ยังไม่สามารถหางูตัวเล็กๆ ได้ ทั้งที่เธอพยายามอย่างมาก

เหลิ่งชิงฮวนงุนงง มันจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเธอได้อย่างไร? จึงได้แต่ยอมปล่อยไป

แม่ทัพใหญ่ฝูกลับมาในตอนกลางคืนและรายงานเธอเกี่ยวกับการจัดกองกำลังป้องกัน เหลิ่งชิงฮวนฟังอย่างไม่ใส่ใจ “ตระกูลโฉวกับข้ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมานาน บัดนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นข้าก็ย่อมช่วยสุดแรง”

“โจรเหล่านี้มีไหวพริบและเก่งในการปลอมตัว ข้าอยู่ในจวนก็เอาแต่พะว้าพะวัง ไม่สู้พรุ่งนี้ข้าไปกับท่านใต้เท้า บางทีอาจจะพบอะไรก็เป็นได้”

แม่ทัพใหญ่ฝูไม่ปฏิเสธ “เช่นนั้นก็ลำบากพระชายาแล้ว”

หลังจากพูดจบเขาก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้และดุด่าฮูหยิน

เหลิ่งชิงฮวนรีบเกลี้ยกล่อม “เดิมทีก็เป็นความประมาทของข้าเองที่ทำให้ฮูหยินตกใจ ใต้เท้าฝูอย่าได้ดุด่านางเลย ข้าไม่ทุกข์ใจที่เจ้าพวกนั้นหายไป แต่ข้ากลัวว่ามันจะไปทำร้ายตนในจวนมากกว่า ตอนนี้อากาศหนาว พอพวกมันทนไม่ไหวอีกสักพักก็คงกลับมาเอง”

แม่ทัพใหญ่ฝูพูดคำสุภาพอีกสองสามคำจากนั้นก็กลับไปเพื่อพักผ่อน

เหลิ่งชิงฮวนส่งคนออกไปนอกปิดประตู ก็เป่าเทียน ขึ้นเตียงและนอนโดยสวมเสื้อผ้าบุหนา

เธอหลับไปจนกลางดึก มีคนมาพลิกตัวนั่งข้างเตียงเธอ เปิดผ้าม่านออก เธอถึงสะดุ้งตื่น

ผู้ที่มาค่อยๆ เอนกายนอนลงข้างๆ เธอ

มู่หรงฉีคิดแล้วก็สมเหตุสมผล ทั้งสองกระโดดขึ้นไปบนหลังคาเพื่อหลีกเลี่ยงการลาดตระเวนและตรงไปที่ลานร้างตามทางที่จำได้

ทั้งสองคนมองเห็นแสงตะเกียงที่สั่นไหวในลานนั้นได้จากระยะไกล

มีคนอยู่ในสนาม นอกจากนี้สุนัขทั้งสองยังสงบและไม่เห่า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าออกบ่อยๆ

ยุ่งยากจริงๆ!

ทั้งสองมองหน้ากันอยากจะรีบเข้าไปตรวจสอบสถานการณ์แต่ไม่กล้าผลีผลาม เพราะประสาทสัมผัสในการได้ยินของสุนัขนั้นไวเกินไป หกถูกพวกมันเจอเข้าคงไม่ใช่เรื่องดี

ทั้งสองคนหมอบอยู่บนหลังคาฝั่งตรงข้าม เหลิ่งชิงฮวนหยิบกล่องออกมาจากแหวนนาโน เมื่อเปิดกล่องแมลงสองสามตัวก็กระพือปีนบินไปที่ลานทันที

เหลิ่งชิงฮวนลดเสียงลง “แมลงชนิดนี้ชอบกัดสัตว์ทีละตัว มันมีพิษรุนแรงที่ทำลายประสาท ขอเพียงแค่สุนัขดุร้ายสองตัวนี้ถูกแมลงกัด พวกมันก็จะมึนงงไปชั่วคราวเพคะ”

ทั้งสองหยุดพูดและตั้งใจฟัง หลังจากที่สุนัขทั้งสองส่งเสียงดังก่อนจะนิ่งไป

แสงตะเกียงนั้นก็หายไป ไม่รู้ว่าถูกพัดจนดับหรือเข้าไปด้านในแล้ว

ทั้งสองลงมาจากหลังคาและค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้ เหลิ่งชิงฮวนกำเข็มเงินไว้ในมือ เมื่อไม่ได้ยินเสียงเห่าของสุนัข พวกเขาจึงปีนข้ามกำแพงเข้าไป

ภายในลานนั้นมืดสนิท เมื่อเหยียบลงไปก็อาจจะเหยียบโดนกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียงได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง

มีแสงลอดออกมาจากพื้นดิน แม้ว่ามันจะสลัวมากแต่ก็ยังพอมองเห็นได้ชัดเจน สถานที่ที่ปกคลุมด้วยหญ้าสูงน่าจะเป็นทางเข้าห้องใต้ดินซึ่งมักถูกปกคลุมด้วยกองฟืนแห้ง หากเคลื่อนย้ายก็จะเกิดเสียงดัง

“ใต้เท้าของข้าให้พวกเราสองคนไปส่งเจ้า ขออภัยด้วย เป็นหนี้ต้องจ่าย เป็นคนร้ายต้องชดใช้กรรม พวกเราแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น หากเจ้าข้องใจอะไรก็เอามาลงที่พวกข้า หากจะโทษ ก็โทษที่เจ้าคิดแต่จะเอาเงินไม่สนชีวิต คิดอยากจะล่วงเกินผู้ที่ไม่ควรล่วงเกิน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา