ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 616

สองคนที่อยู่ตรงข้ามมองหน้าสบตากันไปมาเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ารู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก

มู่หรงฉีเองก็ประหลาดใจเช่นกัน และก็มองไปที่เหลิ่งชิงฮวนด้วยความแปลกประหลาดใจเหมือนว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ถ้าหากสิ่งที่ชิงฮวนพูดมาเป็นความจริง ก็ไม่น่าแปลกใจที่ผู้บัญชาการฟู่จะโง่ขนาดนั้น ตอนที่พบว่าตัวเองกับชิงฮวนมาช่วยโฉวซือเส่าออกมา มิน่าเขาถึงได้ตั้งใจนำกองทหารมาฆ่าพวกเขาสองคนเพื่อปิดปาก

เพราะว่าการสมรู้ร่วมคิดกับหนานจ้าว มีความผิดฐานทรยศขายชาติ ทั้งช่วยลักลอบซื้ออาวุธผิดกฎหมาย ทั้งสมรู้ร่วมคิดก่อกบฏ จริง ๆ เขารู้อยู่นานแล้วว่าเสด็จลุงรองมีความคิดทะเยอทะยานอยู่จึงร่วมมือกระทำความชั่วด้วย ทั้งหมดล้วนมีความผิดฐานก่อกบฏเหมือนกัน และจะพัวพันไปถึงคนทั้งตระกูล แทนที่จะทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเอง สู้ฆ่าคนปิดปากเสียก่อน ค่อยหาทางเอาชีวิตรอดจะดีกว่า

เกี่ยวกับปืนและระเบิดฟ้าคำรณ เหลิ่งชิงฮวนได้เคยอธิบายอย่างละเอียดเกี่ยวกับพลังและอันตรายของพวกมันกับมู่หรงฉีเอาไว้ก่อนแล้ว และบอกกับเขาด้วยความมั่นใจอย่างยิ่งว่า ใต้เท้าหลู่ของมั่วเป่ยมีมันสมองและมีความสามารถในการสร้างอาวุธทั้งสองนี้ได้

เพียงแต่เรื่องที่ว่าทำไมชิงฮวนถึงรู้จักสิ่งเหล่านี้ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนล่ะ

แม้ว่าบรรพบุรุษของนางจะมีความรู้มากมาย แต่ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมาตอนที่นางอยู่ที่เจียงหนาน นางก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปและสะสมเพิ่มพูมขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้ของนางเกินขอบเขตไปแล้ว

“ไม่ใช่!” ชายคนนั้นกัดฟันแน่น ยังคงไม่ยอมรับ

“เจ้าไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร” เหลิ่งชิงฮวนหัวเราะอย่างเป็นกันเอง “บอกข้ามาสิ สินค้าของพวกเจ้าชุดนั้นซ่อนอยู่ที่ไหน?”

“ไม่รู้”

“ข้าเดาว่าพวกเจ้าจะต้องนำสินค้าขนมาที่ฉางอันแล้ว อาจจะอยู่ที่เหอซีหรือไม่ก็ที่จิ้นโจว เตรียมไว้พร้อมที่จะแลกเปลี่ยนเงินและสินค้ากับเสด็จลุงรองแล้ว แต่ผลที่ได้ก็คือเงินจำนวนนั้นของเสด็จลุงเกิดความผิดพลาดกลางคัน ไม่สามารถทำการมอบหมายได้อย่างราบรื่น

แต่เพราะว่าพวกเจ้าก็รู้ข่าวเรื่องที่เสด็จลุงรองทำการปล้นตระกูลโฉวแล้ว และเรื่องที่เขาทำสำเร็จลุล่วงแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากยกเลิกการค้าขาย ดังนั้นจึงเลือกที่จะเสี่ยงอยู่ที่ฉางอันต่อ ตอนที่พวกเจ้ารู้ว่ามีแผ่นไม้ไหลตามน้ำออกมาจากภูเขา จึงเดาได้ว่าเงินจำนวนนั้นที่เสด็จลุงรองปล้นมาน่าจะซ่อนอยู่ในแอ่งน้ำ จึงรีบส่งคนไปที่ภูเขาเพื่อตรวจสอบทันที ใช่หรือไม่?”

ชายคนนั้นยังคงไม่ยอมรับสารภาพออกมา “ไม่ใช่”

เหลิ่งชิงฮวนถอนหายใจออกมา “พวกเรามาร่วมมือกันดีหรือไม่? เจ้าบอกที่อยู่ของเสด็จลุงรองมาตามตรง และบอกแหล่งที่เก็บสินค้าของพวกเจ้ากับข้า บางทีข้าอาจจะละเว้นชีวิตพวกเจ้าไว้ก็ได้ ถ้าต้องให้ข้าลงมือกับพวกเจ้า พวกเจ้าก็จะเจ็บปวด ข้าเองก็คงทนดูไม่ไหว มันแย่มากแค่ไหนนั้นข้าจะบอกให้ ปกติเวลาข้าทรมานคนก็จะมีสภาพเหมือนไม่ใช่คนเลยล่ะ”

ชายคนนั้นเริ่มมีเหงื่อออกเปียกโชกเต็มศีรษะแล้ว คนที่นั่งอยู่บนพื้นทั้งสองคนสบตากัน แล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย

มู่หรงฉีรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ชิงฮวน ระวัง!”

ก่อนที่คำพูดจะได้ทันพูดจบ ทั้งสองคนก็กระโดดลุกขึ้นมาอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คนหนึ่งพุ่งไปหาเหลิ่งชิงฮวน ส่วนอีกคนหนึ่งถือดาบยาวในมือประลองเดี่ยวกับมู่หรงฉี

เหลิ่งชิงฮวนไม่ลังเลที่จะเหนี่ยวไกปืนที่ถืออยู่ในมือและยิงกระสุนไปหนึ่งนัด

มู่หรงฉีก็เสียสมาธิเล็กน้อยเช่นกัน ชักดาบขึ้นมาสู้กลับคนที่กระโจนเข้าหาเขาโดยไม่ลังเล และปลายดาบก็แทงเข้าไปในหัวใจของเขา

ในชั่วเวลาพริบตาเดียว ชายผู้ที่นั่งขัดตะหมาดอยู่บนเตาที่ทำให้อุ่นก็มีเลือดไหลออกจากมุมปาก ร่างกายสั่นไหว คาดไม่ถึงว่าจะกินยาพิษฆ่าตัวตายเสียแล้ว

เมื่อเหลิ่งชิงฮวนหันกลับมาเพื่อจะช่วยเขา ชายคนนั้นก็เสียชีวิตไปแล้ว

พวกเขาทั้งสามคนมีความตั้งใจแน่วแน่อยู่แล้วที่จะตาย เมื่อเห็นว่าตัวตนถูกเปิดเผย และไม่สามารถหนีออกมาได้ ดังนั้นจึงไม่มีความลังเลที่จะฆ่าตัวตาย เพราะกลัวว่าหากตกอยู่ในเงื้อมมือของมู่หรงฉีอาจถูกทรมานอย่างรุนแรงจนทนไม่ไหว

เหลิ่งชิงฮวนก้มตัวลงไปดู ก็พบว่าคนที่ถูกยิงยังสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ และไม่ได้ยิงถูกจุดสำคัญ จึงรีบช่วยชีวิตเอากระสุนออกมา พยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตเขาเอาไว้

หากทหารในมั่วเป่ยสามารถมีอาวุธที่ทรงพลังเช่นนี้พกพา ภายภาคหน้าคงล่าอาณานิคมเมืองต่างๆ และพิชิตใต้หล้าได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน

คดีปล้นเล็ก ๆ น้อย ๆ เพียงคดีเดียว คาดไม่ถึงว่าจะได้ข้อมูลมากขนาดนี้ ทั้งสองเบิกตากว้างและตกตะลึง

“จะทำอย่างไรดี?” เหลิ่งชิงฮวนเอ่ยถามขึ้น “แม้แต่ชาวมั่วเป่ยยังสามารถสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ และมุ่งหน้าไปที่ภูเขาเพื่อตรวจสอบ ทางด้านเสด็จลุงรองก็คงได้รับข่าวตั้งนานแล้วอย่างแน่นอน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงไม่เห็นคนของเสด็จลุงรองเลย จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายเริ่มระแวดระวังตัวขึ้นมาแล้ว รู้ว่าพวกเรากำลังล่อออกไปให้ติดกับดักหรือเปล่า ทำไมเขาถึงได้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก?”

มู่หรงฉีขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าก็รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้เช่นกัน เสด็จลุงรองยอมเสี่ยงถึงเพียงนี้คงไม่ยอมละทิ้งเงินจำนวนนั้นไปง่าย ๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีข่าวลือหลุดรอดออกไปแล้ว?”

แต่ว่าไม่มีทหารคนไหนของจวนผู้บัญชาการรู้ว่าพวกเรากำลังซุ่มโจมตีอยู่ มีตรงไหนที่พวกเราประมาทเลินเล่อไป?

มู่หรงฉีหันไปสั่งทหารม้าเหล็ก “หาจิตรกรคนหนึ่งมาวาดภาพเหมือนพวกเขาทั้งสามคน และติดประกาศไปทุกที่ ประการจับพวกเขาทั้งสามคน เพื่อจะได้ค้นหาเบาะแส”

ทหารม้าเหล็กรู้สึกงงงวยเล็กน้อย พวกเขาทั้งสามคนตายไปหมดแล้ว ท่านอ๋องฉีจะเสียแรงจับกุมพวกเขาเพื่ออะไร?

เหลิ่งชิงฮวนเดาเจตนาของเขาออกคร่าวๆ “ท่านอยากรู้ว่าหากผู้สมรู้ร่วมคิดของทั้งสามคนรู้ว่าพวกเขาถูกประกาศจับแล้ว พวกนั้นจะมาที่ซ่อนตัวแห่งนี้เพื่อมาแจ้งข่าวให้พวกเขาทราบหรือไม่ใช่ไหม?”

มู่หรงฉีพยักหน้า “เนื่องจากตอนนี้ไม่มีเงื่อนงำอะไร พวกเราก็ควรพยายามทุกวิถีทางเพื่อหาเบาะแสออกมา ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์หรือไม่ แต่ยังไงก็ต้องลองดูก่อน”

หลังจากนั้นก็สั่งกำชับกับทหารม้าเหล็กอีกว่า “อย่าลืมปิดข่าวให้สนิท อย่าปล่อยให้ข่าวหลุดออกไปเด็ดขาด จากนั้นก็จัดหาพี่น้องสองสามคนมาเฝ้าที่นี่ เมื่อเห็นบุคคลน่าสงสัย ก็จับกุมมาสอบปากคำให้หมด”

ทหารม้าเหล็กรับคำสั่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา