ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 649

โฉวซือเส่าชักจะรู้สึกปวดหัวขึ้นมาแล้ว เวลาที่ผู้หญิงดื่มมากเกินไป มันวุ่นวายถึงเพียงนี้เลยหรือ ร้องไห้กระจองอแงเหมือนเด็กทารกในผ้าห่อตัวไม่มีผิด นี่ยังต้องให้ปลอบกันอีกหรือไร?

จำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยดื่มกับเหลิ่งชิงฮวน นางคอแข็งไม่เบาเลยทีเดียว นอกจากจะรู้จักวิธีดื่มที่หลากหลายแล้ว ยังรู้จักใช้ผลไม้ชนิดต่างๆ มาผสมให้สุรามีสีสันสวยงามและอร่อยมาก

ว่ากันว่าถ้าผู้หญิงไม่เมา ผู้ชายก็จะไม่มีโอกาส โฉวซือเส่าเกิดตัณหาคิดจะมอมเหลิงชิงฮวนเพื่อให้นางขาดความยั้งคิด

ใครจะรู้เล่าว่าเมื่อเหลิ่งชิงฮวนดื่มจนเมาได้ที่แล้ว นางหาได้มาเกาะแกะตนเองเหมือนนกตัวน้อยไม่ แต่กลับวิ่งไปที่สวนร่ายรำหมัดเมา หนำซ้ำยังคว้าแส้หนังฟาดไปทั่ว บอนไซในสวนทั้งหมดถูกฟาดจนไม่เหลือแม้แต่ใบ ทิ้งไว้เพียงลำต้นเปล่าๆ

ช่างเป็นการสูญเสียอย่างหนักหน่วง บอนไซเหล่านั้นหายากและราคาแพงหูฉี่เลยนะ

นับแต่นั้นเป็นต้นมา หากเหลิ่งชิงฮวนคิดจะดื่มจนเมา โฉวซือเส่าจะเป็นคนแรกที่ปฏิเสธและโยนไหสุราทิ้ง

โฉวซือเส่าทอดถอนหายใจยาวๆ แล้วกัดฟันเค้นคำพูดออกมา “เจ้าเมาแล้ว!”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ระคนไปด้วยความหงุดหงิดของเขา เฟิงเหล่ยอวี้จึงไม่กล้าเอะอะโวยวาย ได้แต่เบ้ปากและร่ำไห้สะอื้นเบาๆ “ข้ามีเงินนะ เก็บไว้ตั้งเยอะแหนะ ท่านรอข้าเดี๋ยว ข้าจะไปเอามา!”

นางพยายามลุกขึ้น ทั้งมือและเท้าสะเปะสะปะไปหมด

ความโกรธพุ่งขึ้นไปที่ขมับของโฉวซือเส่า เขาใช้มือข้างหนึ่งกดนางไว้ “ข้าไม่เอาเงินก็ได้ ข้าให้เจ้าเปล่าๆ เลย!”

จากนั้นก็ก้มศีรษะลงไปประกบริมฝีปากของเฟิงเหล่ยอวี้

จูบแรกที่โฉวซือเส่าอุทิศให้นั้น รสชาติไม่ได้สวยงามนัก

เนื่องจากนางดื่มมากเกินไป แล้วก็เพิ่งจะอาเจียนออกมา

ความหอมหวานที่ผู้คนพูดถึงกันนั้น ไม่มีเลยสักนิด รสชาติก็คงไม่ต่างจากตอนที่มู่หรงฉีกินเต้าหู้เหม็นแล้วไปจูบกับเหลิ่งชิงฮวนหรอก

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกอ่อนนุ่มของริมฝีปากยังคงยอดเยี่ยม เหมือนได้สัมผัสกับกลีบดอกไม้ นุ่มลื่นและละเอียดอ่อน

ทันใดนั้น เฟิงเหล่ยอวี้ที่ประเดี๋ยวร้องไห้ประเดี๋ยวหัวเราะ ก็สงบขึ้นมาโดยพลัน พลางคล้องแขนรอบคอของโจวสีเฉ่าอีกครั้ง และตอบสนองเขาอย่างละโมบ ราวกับไม่อยากให้เขาผละจากไป

เด็กสาวตัวน้อยที่อยู่ใต้ร่างของเขาเมามาก แม้ว่าโฉวซือเส่าจะเมาไม่มาก แต่วินาทีนั้น อารมณ์ของเขากำลังพลุ่งพล่าน และรู้สึกวิงเวียนศีรษะเหมือนกำลังโบยบินอยู่ในเมฆหมอก

อารมณ์ดื่มด่ำและความลืมตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของเขาเปลี่ยนจากฝ่ายรับกลายเป็นฝ่ายรุก จากนั้น จากนั้นก็...

คนในอ้อมแขนของเขากำลังหายใจอย่างสม่ำเสมอ ที่แท้ก็ผล็อยหลับไปแล้ว!

อารมณ์ของโฉวซือเส่าถูกเบรกจนแทบหัวทิ่ม เขาขบกรามแน่นพลางสบถออกมาด้วยความโกรธ “เจ้าหมูเอ๊ย!”

เขาลุกขึ้นอย่างเหนื่อยหน่าย ทันทีที่หันหน้าผละออกไป ก็ได้เห็นเหลิ่งชิงฮวนกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตู ดวงตาของนางเบิกโพลงมองดูอย่างตื่นเต้น แก้มของนางแดง ‘เรื่อ’ ไปหมดแล้ว

“ต่อสิ ต่อเลย!” ด้วยความร้อนใจจึงทำให้เหลิ่งชิงฮวนพรวดพราดวิ่งเข้ามา แต่กลับได้มาเจอกับฉากนี้เข้าโดยบังเอิญ นางเองก็แอบทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน “คิดเสียว่าข้าไม่ได้มาที่นี่”

ต่อให้กระโดดลงไปในแม่น้ำเหลือง โฉวซือเส่าก็ไม่สามารถล้างมลทินนี้ได้ ช่างมัน ปล่อยเลยตามเลยก็แล้วกัน “เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็น มันเสียมารยาท รู้ไหม เป็นสาวเป็นนาง ไม่รู้จักละอายเสียบ้าง”

“ทีท่านยังฉวยโอกาส อาศัยตอนที่เฟิงเหล่ยอวี้เมามายไม่ได้สติกระทำมิดีมิร้ายต่อนาง ท่านยังไม่เห็นละอายเลย ใยข้าจะต้องละอายด้วยเล่า” เหลิ่งชิงฮวนตอบกลับอย่างฉะฉาน

“ข้า? ฉวยโอกาส?” โฉวซือเส่าชี้ไปที่จมูกตัวเอง ก่อนจะชี้ไปที่เฟิงเหล่ยอวี้ “นางน่ะ เมาเหมือนหมู! ข้าไม่ถึงขนาดกินไม่เลือกหรอกนะ”

“แม้แต่หมูก็ยังไม่ละเว้น ท่านนี่มันยิ่งกว่าสัตว์ร้ายเสียอีก!”

โฉวซือเส่ากระโดดลุกขึ้นจากเตียง แล้วพูดด้วยความโกรธ “ไม่ใช่เพราะเจ้าหรอกหรือ! ข้าอุตส่าห์ได้มีโอกาสไปเที่ยวสนุกที่เรือนหลิงหลาง แต่เจ้ากลับให้นางตามติดข้าทุกย่างก้าว น่าเบื่อเสียจริง!”

มู่หรงฉีชะงักฝีเท้าแล้วก้มลงมองเหลิ่งชิงฮวน พลางพูดขู่นางขึ้นหนึ่งเสียง “หืม?”

เมื่อได้เห็นท่าทางของเหลิ่งชิงฮวนที่พยายามอธิบายและฉีกยิ้มอย่างประจบประแจงให้กับมู่หรงฉีนั้นเหมือนกับเจ้าฮวนฮวนสุนัขสีขาวที่กำลังกระดิกหางไม่มีผิด โฉวซือเส่าจึงรู้สึกสบายใจขึ้นเล็กน้อย

แต่เมื่อหันกลับไปเห็นเฟิงเหล่ยอวี้ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียง เขาก็รู้สึกปวดหัวอีกครั้ง

เมื่อสักครู่นี้น่าจะฟังคำพูดของเหลิ่งชิงฮวน มอบเหล่ยอวี้ให้นางช่วยดูแล ตนเองเป็นนายท่าน จะไปสะดวกได้อย่างไร

โดยเฉพาะชุดกุมารน้ำเต้าทองที่นางใส่ สีแดงคู่เขียว ช่างโง่เง่าสิ้นดี แต่นางกลับอิ่มเอมใจและภูมิใจ เอาแต่พูดอะไรๆ ชุดคู่

โฉวซือเส่าเริ่มต้นจากการดึงกระโปรงที่กองอยู่ตรงบั้นท้ายของนางออก เสื้อผ้าบนตัวของนางก็เปื้อนเหล้าด้วยเช่นกัน แต่เพราะการดิ้นรนขัดขืนเมื่อสักครู่นี้ คอปกเสื้อจึงยุ่งเหยิง เผยให้เห็นผืนภาพที่ชวนหนาวสะท้านยิ่งกว่าผืนหิมะ เสื้อสีแดงสะท้อนให้ภายในกลายเป็นสีแดงเรื่อเหมือนทาชาดแดงบางๆ

โฉวซือเส่ารีบเบือนสายตาไปทางอื่น ไม่กล้ามองไปมากกว่านี้แล้ว แล้วรีบดึงผ้านวมขึ้นมาคลุมตัวของนาง

เฟิงเหล่ยอวี้พลิกตัวคว้าผ้านวมมากอดไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะยิ้มแหะๆ ออกมาสองครั้ง ก้นน้อยๆ งอนขึ้น เรียวขาทั้งสองข้างพันกันแน่น

ไม่รู้ว่ารองเท้าหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แถมถุงเท้ายังหลุดออกไปข้างหนึ่งตอนที่กำลังเมามาย เผยให้เห็นเท้าขาวราวหิมะและข้อเท้าเรียวยาว

เนื้ออูมๆ ที่ปลายเท้าของนางสูงเล็กน้อย นิ้วเท้าเป็นปล้องเหมือนเมล็ดถั่ว แต่นิ้วหัวแม่มือกลับพยายามเชิดหัวขึ้นสูง เล็บเป็นสีชมพู ดูน่ารักเหมือนเท้าเด็ก

จู่ๆ โฉวซือเส่าก็รู้สึกหุนหันอยากจะเผด็จข้าศึก

มันก็เหมือนเมล็ดพืชที่ดูดซับน้ำ จากนั้นเปลือกก็กะเทาะออก แล้วยื่นใบสีเขียวอ่อนออกมาสองใบ

บ่งบอกว่าฤดูใบไม้ผลิกำลังจะมาถึงแล้ว ทุกอย่างจะมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา