ในวันรุ่งขึ้นใต้เท้าหลู่ต้องย้ายออกจากจวนท่านอ๋อง ย้ายเข้าไปอยู่ในจวนใหม่ที่ฮ่องเต้ประทานให้ มู่หรงฉีสร้างความวุ่นวายอีกครั้งด้วยการจัดงานเลี้ยงในหอฝูเซิง ทั้งยังเชิญท่านอ๋องและบุคคลสำคัญหลายคนในราชสำนักมาร่วมแสดงความยินดีกับใต้เท้าหลู่ นั่นเป็นผลให้ใต้เท้าหลู่ไม่สามารถหาโอกาสพูดคุยกับชิงฮวนตามลำพังได้ ยิ่งไม่สามารถข่มขู่เอาแหวนต่อหน้ามู่หรงฉีได้
เหลิ่งชิงฮวนสัมผัสได้ถึงแผนการช่วยเหลือบางอย่างที่มู่หรงฉีทำ
เมื่อมู่หรงฉีรู้ว่าไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรกับมั่วเป่ย เขาจึงไม่ใส่ใจอีกต่อไป เว้นแต่จะมีการสมคบคิดบางอย่าง
มู่หรงฉีทำให้เธอมั่นใจโดยบอกว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขา แน่นอนว่าชิงฮวนเชื่อ...เธอเชื่อว่าชายคนนี้สามารถปกป้องเธอจากอุปสรรคต่างๆ ในโลกใบนี้ได้
เมื่อเวลาใกล้เที่ยง โฉวซือเส่าแอบปีนข้ามกำแพงเข้ามาด้านใน
ทันทีที่เท้าของเขากระทบกับพื้น ฮวนฮวนซึ่งไม่เป็นมิตรกับเขาสักเท่าไรเริ่มเห่าทันที โฉวซือเส่าหันไปแยกเขี้ยวพลางกระทืบเท้าใส่ฮวนฮวน
“ข้าเคยจับเจ้าใส่ไว้ในโลงหรืออย่างไร ทำไมถึงแค้นฝังใจเช่นนี้ ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วยังไม่ข้าอีกหรือ”
“โฮ่ง! โฮ่ง!” ฮวนฮวนเห่าด้วยความไม่เกรงกลัว
“ดูก็รู้ว่ามู่หรงฉีเป็นคนสอนเจ้าสินะ เขาคงกลัวว่าข้าจะแอบเข้าไปในเรือนของเขา”
“โฮ่ง!”
เหลิ่งชิงฮวนที่กำลังนอนอาบแดดอยู่ในสนามด้านหน้า โดยมองไปยังคนกับสุนัขที่กำลังโต้กันอย่างสนุกสนาน
โฉวซือเส่าแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีแดงซึ่งดูสว่างแสบตาเป็นพิเศษ
“ท่านใส่เสื้อผ้าสีสดใสเช่นนั้น ไม่แปลกเลยที่ฮวนฮวนของข้าจะไม่ชอบท่าน โชคดีที่สุนัขน่ะตาบอดสี ไม่เช่นนั้นท่านเดินไปไหนคงจะมีแต่สุนัขวิ่งไล่ตาม”
โฉวซือเส่าหันไปมองเหลิ่งชิงฮวนบนเก้าอี้หวาย “อ้อ ที่แท้เจ้านายของมันก็อยู่ตรงนี้นี่เอง ถึงว่าทำไมจึงเห่าเก่งนัก”
ชิงฮวนห้ามปรามฮวนฮวน ก่อนจะถามต่อว่า “ท่านมาที่นี่ทำไม”
“ข้าได้ยินมาว่าอวิ๋นเช่อไม่สนใจเหล่ยอวี้แล้ว แต่กลับไปแย่งภรรยากับเหล่าอวี๋ ในฐานะพ่อทูนหัวข้าจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคนจะครหาได้ว่าพ่อไม่สั่งสอน”
ชิงฮวนตอบเบาๆ “แม้ว่าอวิ๋นเช่อจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของท่าน แต่นิสัยชอบสาวงามนั้นมาจากท่านโดยแท้ ไม่โทษแล้วจะโทษใครล่ะ”
โฉวซือเส่าลูบจมูก “เฮ้อ ดังคำกล่าวที่ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นอย่างไรเล่า จะปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นต้องมีหญิงสาวอีกกี่คนที่ต้องเสียใจในอนาคต”
ชิงฮวนชำเลืองมองเขาด้วยความประหลาดใจ “แปลกจริง นั่นเป็นเพราะท่านสอนมาไม่ใช่หรือ ท่านบอกให้เขามีทายาทเอาไว้สืบทอดตระกูลโฉวเยอะๆ ตอนนี้จะมากลับคำแล้วหรือ”
โฉวซือเส่าเอานิ้วพันผมสีดำบนไหล่อย่างไม่ตั้งใจพร้อมกับเอนตัวพิงต้นไม้ “ตอนนี้มาตรฐานแตกต่างออกไปแล้ว ในอดีตข้าเลี้ยงเขาเหมือนลูกชาย แน่นอนว่ายิ่งมีลูกสะใภ้มากเท่าไรยิ่งดี”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“หากว่า...หากว่าข้ากับเหล่ยอวี้จะมีลูกกันจริงๆ ล่ะ”
ชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ตอนนี้ท่านเห็นอวิ๋นเช่อเป็นลูกเขยหรือไง ต่อให้ท่านจะพยายามหามรุ่งหามค่ำจนมีลูกสาว ก็ยังตามหลังอวิ๋นเช่ออยู่หกปีอยู่ดี”
“มันเรียกว่าตัดไฟแต่ต้นลม แม้ว่าเจ้าจะมีเด็กอยู่ในครรภ์อีก แต่ใครใช้ให้ข้าถูกใจอวิ๋นเช่อกันล่ะ แม้ว่าข้าจะต้องสูญเสียลูกสาวและสินสอดก็ไม่เป็นไร ข้าหวังแค่ว่าจะพาตัวลูกสาวของเจ้ากลับไปเป็นสะใภ้”
“ช่างคิดการณ์ไกลจริงเชียว” ชิงฮวนเม้มริมฝีปาก “คงทำอะไรอวิ๋นเช่อไม่ได้แล้ว เสด็จปู่ของเขาสอนโหดร้ายยิ่งกว่าท่านเสียอีก”
เมื่อพูดถึงฮ่องเต้ เขาได้แต่ก้มหน้าลง ไม่มีอะไรจะเถียงอีกต่อไป
ก่อนที่จะนั่งลงบนม้านั่งขนาดเล็กตรงหน้าชิงฮวนและเปลี่ยนเรื่องคุย “ข้าได้ยินมาว่าใต้เท้าหลู่กำลังจะย้ายออกไปแล้วในวันนี้ ข้าไม่ชอบเขาเสียเลย”
เดิมทีฉันก็เป็นลูกสะใภ้ที่ถูกรังแกมาตลอด จะทำอะไรได้ล่ะ
“ข้าจะดูแลธุรกิจการค้าที่ฉางอันให้ ท่านไม่ต้องห่วง หากพึ่งพาได้จริงๆ ข้าจะยอมให้ตี้ลี่กับเทียนซื่อดูแลธุรกิจอย่างเต็มตัว ส่วนเหรินเหอ... ข้าจะให้นางดูแลธุรกิจการค้าอยู่ที่เจียงหนานเพราะครอบครัวนางอยู่ที่นั่นกันหมด ท่านช่วยดูแลนางด้วยแล้วกัน”
โฉวซือเส่าเอามือปิดหู “ขี้บ่นจริงๆ”
ชิงฮวนยิ้ม “ข้าเตรียมของขวัญสำหรับท่านป้าไว้แล้ว และยังมีรถม้าที่หรูหราสะดวกสบายเป็นพิเศษ ท่านสองคนจะได้ออกเดินทางในบรรยากาศดอกไม้ไฟอันสวยงามในเดือนมีนาคม อย่าขี่ม้ากันเลย เหนื่อยเปล่าๆ”
ทางด้านโฉวซือเส่าชอบของขวัญชิ้นนี้มาก วันนี้ต่างจากเมื่อก่อนเพราะในวันนี้มีสาวสวยอยู่เคียงข้าง ใช้รถม้าทำให้สะดวก มากกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่หญิงสาวคนนี้ทำเรื่องสมเหตุสมผล
ชิงฮวนกำชับต่อเล็กน้อย “ส่วนร่างกายของท่าน... อะแฮ่ม ข้าตรวจสอบดูแล้ว หากท่านตั้งใจจริงและมีความขยันหมั่นเพียรเสียหน่อย ข้าเชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนจะต้องมีข่าวดี ถึงเวลานั้นท่านต้องรีบส่งจดหมายมาแจ้งข้า หากอายุไล่เลี่ยกับลูกของข้าละก็...ข้าอาจจะยอมทำการหมั้นหมายของเด็กๆ พวกข้าไม่รังเกียจที่ท่านร่ำรวยหรอก”
โฉวซือเส่าพูดอย่างมีเลศนัยว่า “ไม่ได้พ่อของลูกก็เลยมุ่งเป้าไปที่ลูกแทนใช่หรือไม่”
“ไสหัวไป”
โฉวซือเส่าออกไปอย่างรีบร้อน
เขาออกไปพร้อมกับรถม้า หมอนนุ่ม ผ้านวมหอมกรุ่นและหญิงสาวสวยในอ้อมแขน ท่องเที่ยวไปตามแม่น้ำลำธาร เดินทางออกจากเมืองหลวงตรงไปยังเจียงหนาน
ยามค่ำคืน เขาพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ทั้งสองปิดประตูก่อนเวลาและแขวนชุดสีแดงไว้ใต้หน้าต่าง
ใช้ประโยชน์จากค่ำคืนนี้เหินออกไปนอกหน้าต่าง บินข้ามชายคาและกำแพง จากนั้นขี่ม้าเร็วที่จัดเตรียมโดยหอกระบี่ กลับเข้าไปยังเมืองหลวง
คนโฉวซือเส่าต้องการฆ่านั้นไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ เขาไม่พอใจใต้เท้าหลู่เป็นอย่างมาก
คนที่กล้ากลั่นแกล้งผู้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของโฉวซือเส่า เขาจะไม่มีวันปล่อยไปง่ายๆ เป็นอันขาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...