ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 710

วันนี้เมืองหลวงดูคึกคักเป็นพิเศษ

ผู้คนในถนนใกล้ๆ ต่างตื่นตระหนกและพากันออกมาดูเรื่องน่าเต้นทั้งๆ ที่ยังถือเสื้อผ้าไว้ในมือ

ในขณะที่อุบัติเหตุขึ้นในจวนของเจ้าหน้าที่ทางหาร ทุกคนต่างอยากออกมาดูและตะโกนให้ภรรยาและลูกๆ กลับไปนอน

จิงจ้าวอิ่นถูกปลุกให้ออกจากผ้านวมอุ่น ขุนนางที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งถูกระเบิดในห้องจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

ส่วนลูกชายคนรองของจวนรองเสนาบดีกรมข้าราชการพลเรือน ปีนกำแพงบ้านภรรยาคนอื่นกลางดึก ถูกกลุ่มอันธพาลนิรนามทุบตีจนล้มลงแล้วถอดกางเกงใช้มีดกรีดจนกลายเป็นขันที

กรณีของจินเอ้อร์ไม่ร้ายแรงนัก อย่างน้อยจินซ่างซูอาจเป็นเสียใจแต่อับอายจนไม่กล้าบอกกับฮ่องเต้

ทว่าใต้เท้าหลู่ไม่เหมือนกัน

เขาเป็นถึงขุนนางคนโปรดขององค์ฮ่องเต้ เขามีจิตใจดี มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้นของใต้เท้าหลู่

และได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้อย่างถึงที่สุด

เขากลับถูกระเบิดจนไม่สามารถหาศพเจอเช่นนี้ ฮ่องเต้จะไม่ร้อนใจได้อย่างไร

เป็นเพราะเรื่องเกิดขึ้นในเมืองหลวง เขาจึงเป็นคนแบกรับทุกอย่างโดยไม่มีที่ให้ร้องเรียน

มู่หรงฉีกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับหาคนมารักษาบาดแผลของจินเอ้อร์ จากนั้นรีบกลับไปยังที่พักของใต้เท้าหลู่

โฉวซือเส่าไว้ใจไม่ได้จริงๆ เขาแอบบ่นในใจ

บอกแล้วว่าให้รอเขากลับไปถึงจวนก่อนแล้วค่อยระเบิด โชคดีที่เขาได้เจอกับจินเอ้อร์ ไม่เช่นนั้นแผนที่วางไว้อาจไร้ประโยชน์ขึ้นมาทันที

เมื่อไปถึงจวนใต้เท้าหลู่ ทหารมั่วเป่ยที่รอดชีวิตอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับจิงจ้าวอิ่นด้วยความกลัว

“เราเห็นเทียนไขในห้องของใต้เท้าสว่างขึ้น คิดว่าท่านอาจมีคำสั่งจึงเคาะประตูถาม พอได้ยินใต้เท้าส่งเสียงในลำคอดูไม่ชัดเจนนัก พวกเขาก็เปิดประตูเข้าไป แต่ข้าน้อยไม่ได้อยู่หน้าประตู พอได้ยินเสียงดังโครมครามดังไม่นาน พวกเขาสองคนก็กระเด็นมาหาข้าน้อยบ้านทั้งหลังพังทลายลงมากว่าครึ่ง หูของข้าอื้อไปชั่วขณะ ฝุ่นฟุ้งอยู่ในอากาศ ข้าไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไปและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก”

“เช่นนั้นมีคนน่าสงสัยเข้ามาในจวนหรือไม่”

ทหารคนนั้นส่ายหัว “พวกเราทำหน้าที่ลาดตระเวนอยู่แถวนี้ ไม่พบบุคคลน่าสงสัยเข้าหรือออก อีกอย่างหากมีใครอยู่ในห้องระหว่างระเบิดคงไม่รอดแน่นอน”

จิงจ้าวอิ่นฟังด้วยความฉงน

มู่หรงฉีถามขึ้นว่า “ระเบิดฟ้าคำรนมีพลังระเบิดรุนแรงหรือไม่”

ทหารคนนั้นพยักหน้า “ระเบิดฟ้าคำรนถือเป็นอาวุธอันตราย เคยเกิดเหตุไม่คาดฝันหลายครั้งในมั่วเป่ย มีคนตายมากมาย”

มู่หรงฉีพูดอย่างเฉยเมย “เมื่อคืนใต้เท้าหลู่ออกไปดื่มเหล้าและกลับมาที่จวนด้วยความเมามาย เขาไปยุ่งกับระเบิดฟ้าคำรนตอนที่กำลังเมาจนทำให้ระเบิดใส่ตัวเองจนสิ้นใจหรือไม่”

จิงจ้าวอิ่นอยากให้เป็นเช่นนั้นใจจะขาด

หากใต้เท้าหลูระเบิดตัวเองตาย จะไม่มีใครได้รับโทษและไม่ใช่เพราะกฎหมายในเมืองหลวงไม่ดี ไม่เกี่ยวอะไรกับตัวเขาเลย

“ไม่มีเบาะแสในที่เกิดเหตุ ไม่มีหลักฐานว่าบุคคลภายนอกเข้าออกหรือไม่ ก่อนที่ทหารจะเปิดประตูเข้าไป ใต้เท้าหลู่ก็ตื่นขึ้นอยู่แล้ว ดังนั้นเหตุผลของอ๋องฉีถือว่าสมเหตุสมผลมาก”

เมื่อมีข้อสงสัยและเหตุที่ต้องปัดความรับผิดชอบ สิ่งต่างๆ จึงกลายเป็นเรื่องง่ายได้

และยังเดินไปเจอคนขอความช่วยเหลืออีก ช่างบังเอิญเสียจริง

มู่หรงฉีรู้ดีว่าชายชราสงสัยในตนเอง แต่ไม่สามารถจับได้อย่างคาหนังคาเขา ดังนั้นจึงพยายามหาวิธีจัดการกับเขาแทน

มู่หรงฉีส่ายหัวอย่างเร่งรีบ “เช่นนั้นชิงฮวนคงจะโกรธมาก แพทย์ในจวนบอกว่าอารมณ์ของหญิงตั้งครรภ์มีความสำคัญมาก ควรรักษาอารมณ์ให้ดีแล้วทารกจะฉลาดเฉลียว”

จักรพรรดิถอนหายใจเบาๆ “พูดถึงการตั้งครรภ์ของชิงฮวน ข้าคิดว่าเจ้าควรย้ายไปอยู่ในค่ายทหารในช่วงสามเดือนแรกเพื่อลูก จะได้ฝึกทหารของข้าไปด้วยเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่จำเป็น”

“เสด็จพ่อทรงกังวลว่ามั่วเป่ยจะส่งทหารมาหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ชายชราเย้ยหยัน “ฉางอันของข้ามีทหารที่แข็งแกร่ง ยังต้องกลัวอีกหรือ”

“เสด็จพ่อกล่าวถูกต้อง มั่วเป่ยไม่เจียมตัวยิ่งนัก ลูกได้ยินมาว่าพวกเขาไม่ได้ผลิตปืนออกมาจริงๆ”

ฮ่องเต้มองเขาด้วยความประหลาดใจ “ไม่มีปืน? ข้าเห็นมากับตาของตัวเอง มันเป็นของปลอมหรืออย่างไร”

มู่หรงฉีตอบอย่างไม่รีบร้อน “เมื่อวานซืนลูกไปดื่มกับใต้เท้าหลู่ เขาดื่มจนเมาและบอกความจริงว่ามั่วเป่ยไม่ได้ผลิตปืนแต่อย่างใด เพราะกระสุนต้องการความแม่นยำ ต้องใช้ทรัพยากรมากขึ้น ในระยะเวลา 5 ปีมีการผลิตกระสุนมากกว่า 200 นัด ทว่าไม่น่ากังวลแต่อย่างใด

ดังนั้นปืนที่ถูกผลิตออกมาก่อนหน้าจึงเป็นเพียงเศษทองแดงและเหล็กที่แตกหัก ดังนั้นพวกมันจึงถูกใช้เพื่อแลกเปลี่ยนทองและเงินกับเสด็จอารองแทน”

ฮ่องเต้แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “จริงหรือ”

“หากเสด็จพ่อทรงไม่เชื่อ เสด็จพ่อลองสั่งให้คนไปสอบปากคำองค์ชายอันต๋าดู ลูกเดาว่าเขาพยายามที่จะฆ่าใต้เท้าหลู่เพื่อปิดปาก ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเขาจะเปิดเผยกระบวนการปลอมปืน แต่เป็นเพราะเขาไม่ต้องการให้เรารู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของมั่วเป่ย

กลัวว่าเราจะไม่มีความเกรงกลัวและส่งกองกำลังไปยังมั่วเป่ย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต”

แน่นอนว่าชายชราไม่เชื่อ เขาคิดว่านี่เป็นข้อแก้ตัวของมู่หรงฉีที่จะปัดความผิดของตนเอง ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนไปสอบปากคำองค์ชายอันต๋าจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา