ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 711

ไม่นานคนที่ไปสอบปากคำองค์ชายอันต๋าก็กลับมา

องค์ชายอันต๋ากล่าวดังนี้ว่า...

ในเวลาห้าปีที่ผ่านมา ใต้เท้าหลู่ใช้เวลาและเงินจำนวนมากในการผลิตกระสุนคุณภาพดี ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายนับไม่ถ้วน ในตอนแรกเรื่องนี้ยังคงเป็นความลับ ทว่าไม่มีความลับใดบนโลกใบนี้ที่จะเป็นความลับตลอดไป องค์ชายพระองค์อื่นทรงทราบเรื่องนี้

ทำให้หมดหวังในการผลิตกระสุนและสถานะขององค์ชายอันต๋าในพระเนตรของกษัตริย์แห่งมั่วเป่ยตกต่ำลง พระองค์จึงสั่งให้เขาหยุดการวิจัยและผลิตกระสุนทันที

องค์ชายอันต๋าและใต้เท้าหลู่ไม่ยินยอม หลังจากพยายามอย่างอุตสาหะมาหลายปี ทำให้พวกเขาไม่มีทางถอยกลับ ดังนั้นเมื่อพวกเขารู้ว่าเสด็จอารองต้องการซื้อปืนและกระสุนด้วยเงินจำนวนมากจึงตอบตกลงทันที

ขอแค่สามารถแลกเปลี่ยนเศษเหล็กทองแดงเหล่านี้กลายเป็นทองและเงินได้มากพอ พวกเขายังแอบปลอมแปลงระเบิดฟ้าคำรนและวิจัยเกี่ยวกับกระสุนต่อไป เพื่อจะได้มีโอกาสพลิกกลับมาอีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้ใต้เท้าหลู่จึงใช้เงินเป็นจำนวนมาก แบ่งกระสุนที่มีอยู่มากกว่า 200 นัดออกมา 50 นัดอย่างไม่เต็มใจ เพื่อมอบให้พรรคพวกเสด็จอารองเป็นตัวอย่างการซื้อขายชุดแรกและนั่นคือเหยื่อล่อ

หลังจากที่เสด็จอารองทดลองใช้ เขาพึงพอใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงเสี่ยงทำการปล้นบ้านตระกูลโฉว ในด้านองค์ชายอันต๋ายังสั่งให้คนขนปืนที่ถูกทิ้งจำนวนมากไปยังฉางอัน

เป็นผลให้เรื่องราวเปลี่ยนไป ทันทีที่มู่หรงฉีล่อเสือออกจากถ้ำ เขาก็เปิดเผยว่ามั่วเป่ยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นการทำธุรกรรมปืนที่ซ่อนอยู่ในเหอซีจึงไม่เสร็จสมบูรณ์ ทำให้พวกเขาไม่สามารถกลับไปยังมั่วเป่ยได้

ดังนั้นฉางอันจึงซักไซ้เอาความ มั่วเป่ยเชี่ยวชาญเทคโนโลยีการผลิตระเบิดฟ้าคำรนแล้ว ทำให้ใต้เท้าหลู่ไม่มีประโยชน์กับมั่วเป่ย แต่ก็เสียดายหากต้องกำจัดทิ้ง

สิ่งที่กษัตริย์มั่วเป่ยต้องการ นั่นคือการผลักให้ใต้เท้าหลู่กลายเป็นแพะรับบาปโดยแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมด ก่อนออกเดินทางเขาแอบสั่งให้องค์ชายอันต๋าพยายามกำจัดใต้เท้าหลู่ระหว่างทาง โดยเหลือผู้มีชีวิตรอดไว้เพียงคนเดียว

ใต้เท้าหลู่รู้สึกว่าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตรอดทำให้เขาต้องเสี่ยงชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า ลงเอยด้วยการลักพาตัวเหลิ่งชิงฮวนซึ่งทำให้เปิดเผยตัวตนของเขา

ในสถานการณ์อันสิ้นหวัง องค์ชายอันต๋าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลายเป็นฆาตกร เมื่อมีใต้เท้าหลู่เข้ามาเกี่ยวข้อง หลายสิ่งหลายต่างจากที่มู่หรงฉีคาดเอาไว้

หลังจากที่ฮ่องเต้ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด สุดท้ายจึงเชื่อว่าพระองค์เองก็ถูกใต้เท้าหลู่หลอกเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าเสียดายหากสังหารเขาทิ้งเสียแต่ตอนนี้

สมควรสังหารถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การตัดสินใจโดยพลการถือเป็นคนละเรื่องกัน

มู่หรงฉีกลัวว่าข้าจะไม่ให้ความเป็นธรรมกับชิงฮวนสินะ

มู่หรงฉีกล้าที่จะลงมือก่อนแล้วค่อยอธิบายทีหลัง หากไม่สั่งสอนบทเรียนให้เขา แล้วครั้งต่อไปเขายังจะมีความเกรงกลัวอยู่หรือไม่

ต้องการการ! ต้องจัดการให้เด็ดขาด!

ชายชรามีท่าทีสงบนิ่ง ดูมีเหตุผลเป็นอย่างมาก

“ด้วยเหตุนี้ ใต้เท้าหลู่มือเปื้อนเลือด ไม่คำนึงถึงชีวิตของผู้คน เพียงเพื่อพัฒนากระสุนและเติมเต็มความทะเยอทะยานของตนเอง เขาสมควรตาย ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม ลูกจะไม่ถือสาเอาความอีกต่อไป”

มู่หรงฉีพูดอย่างภาคภูมิ โดยคิดว่าชายชราเป็นคนใจกว้าง

ก่อนที่เขาจะชื่นชมยินดีชายชราก็หยุดเขาไว้อีกครั้ง “ทว่าความปลอดภัยในเมืองหลวงทำให้ข้ารู้สึกเป็นกังวล ขุนน้ำขุนนางที่เป็นเสาหลักของชาติกลับไม่มีความปลอดภัย แม้แต่ในบ้านของพวกเขาเอง จิงจ้าวอิ่นไร้ความสามารถจริงๆ”

ชายชราครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ข้าลำบากใจที่จะหาใครมาแทนจิงจ้าวอิ่น แต่เดิมนั้นคือเสิ่นหลินเฟิงผู้เก่งกาจแห่งจวนกั๋วกง น่าเสียดายที่เขาลักพาตัวลี่ว์อู๋และปฏิเสธที่จะเข้ายึดครองจวนราชบุตรเขย ตอนนี้มีเพียงเจ้า... ฉีเอ๋อที่จะพอเป็นผู้นำได้...”

มู่หรงฉีอดไม่ได้ที่จะตกใจ เสด็จพ่อคงไม่อยากให้เขาครองตำแหน่งแทนจิงจ้าวอิ่นใช่หรือไม่

เสิ่นหลินเฟิงอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องราววุ่นวายเช่นนี้ได้ ส่วนเขาเองต้องจัดการกองกำลังติดอาวุธและยังเลี้ยงลูกกับชิงฮวนอีก เขาจะมีเวลาได้อย่างไร

ตอนที่ชิงฮวนยังไม่ตั้งครรภ์ ชายชรากล่าวว่าการมีลูกมีความสำคัญมากกว่าเรื่องประเทศชาติ จึงปล่อยให้เขาจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินทางทหาร บัดนี้ ความปรารถนาของเขาเป็นจริงแล้ว ชิงฮวนตั้งครรภ์ เขาจึงไม่สนใจอะไรอีกต่อไป

มู่หรงฉีรีบปฏิเสธ “ลูกยังคงยุ่งกับงานในค่อยทหารอยู่”

คนว่างงานในราชสำนักมีอีกตั้งมาก ทำไมท่านถึงทำกับลูกชายแบบนี้ ทำไมคุณถึงปล่อยให้ฉันกับลูกชายทำคนเดียว จิงจ้าวอิ่นนะจิงจ้าวอิ่น ทำงานพลาดคนเดียวไม่พอ ยังลากข้าเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอีก

ในฐานะลูกพี่ลูกน้อง ข้าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเขา ตัวอย่างเช่นช่วยให้เขาได้เลื่อนตำแหน่ง

สนับสนุนเขาให้กลายเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามที่มีชื่อเสียง พร้อมกันนั้นค่อย ๆ ยึดอำนาจทางทหารคืน

ชายชราใช้ชีวิตมาทั้งชีวิต เขาจะไม่เข้าใจเรื่องแค่นี้งั้นหรือ ดังนั้นแม้ว่าเสิ่นหลินเฟิงต้องการที่จะต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาในสนามรบ ผู้เฒ่ากั๋วกงจะไม่มีทางไม่เห็นด้วยและปล่อยให้เขาทำสิ่งที่เขาชอบในเมืองหลวงต่อไปไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจ

ดังนั้นเสิ่นหลินเฟิงจึงไม่สนใจตำแหน่งชิงจ้าวอิ่น

แล้วเขาจะเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายออกมารับภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ได้อย่างไร

หลังจากออกจากวัง มู่หรงฉีตรงไปหาเสิ่นหลินเฟิงด้วยใบหน้าเศร้า

เสิ่นหลินเฟิงและคนกลุ่มหนึ่งกำลังหารือเกี่ยวกับกรณีที่จินเอ้อร์ถูกตอนเป็นขันทีเมื่อคืน กลุ่มคนเหล่านั้นต่างพากันหยอกล้อ

แม้แต่เรื่องใต้เท้าหลู่ถูกสังหารยังน่าสนใจน้อยกว่าเรื่องนี้เสียอีก

“ข้าได้ยินมาว่าจินเอ้อร์เพิ่งออกมาจากเตียงของภรรยาคนอื่น ดังนั้นผู้ชายจากครอบครัวนั้นน่าจะน่าสงสัยที่สุด”

“ไม่เกี่ยวหรอก เจ้าจินเอ้อร์นั่นทำเรื่องผิดศีลธรรมทุกวัน มีหญิงสาวมากมายในเมืองหลวงที่ถูกเขาทำร้าย ตัวเขาเองยังไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่ามีศัตรูกี่คน ข้าบอกได้เลยว่าคดีนี้น่ะ...ยาก!”

เมื่อหันหน้าออกไป มีคนเห็นมู่หรงฉีจึงรีบยืนขึ้นเพื่อทำความเคารพ

เสิ่นหลินเฟิงดีใจมาก “ท่านพี่ ท่านมาถูกเวลา ข้าได้ยินมาว่าท่านช่วยชีวิตบุตรชายคนที่สองของตระกูลจินเมื่อคืน มีอะไรจะบอกใบ้พวกเราบ้างหรือไม่”

มู่หรงฉีแสร้งทำเป็นลึกลับ “ข้าอยากจะคุยเรื่องนี้กับเจ้าอยู่พอดี เราไปดื่มกันสักแก้วดีหรือไม่”

“ได้สิ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา