ม้าเร็ววิ่งเร็วจนฝุ่นฟุ้งไม่เห็นรอยเท้า มันวิ่งอย่างเร่งด่วนหลายร้อยลี้เพื่อมาส่งข่าวให้ที่วังหลวง ว่าสงครามของฉางอันได้เริ่มขึ้นแล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่างมั่วเป่ยกับฉางอันเดิมทีก็ตึงเครียดอยู่แล้ว พอฝ่ายตรงข้ามชักดาบขึ้นมาเพราะเกิดเรื่องขึ้นกับองค์ชายอันต๋า จึงกลายเป็นชนวนเกิดสงครามขึ้น
แม้ว่าฉางอันจะให้คำอธิบายกับเรื่องของการหายตัวไปว่าเป็นเพราะถูกหนานจ้าวจับตัวไป แต่มั่วเป่ยที่เดิมทีมีท่าทีที่นิ่งเฉยในที่สุดก็นั่งไม่ติดเสียแล้ว
มั่วเป่ยอาศัยว่าตนเองมีระเบิดฟ้าคำรณอันทรงพลังจึงไม่มีความเกรงกลัวใด ๆ ตอนนี้ในที่สุดก็มีข้ออ้างที่จะทำสงครามด้วยแล้ว จึงรีบทำการรวบรวมกองกำลังนับหมื่นนายทันที ตอนนี้กำลังรวมตัวกันอยู่ที่ชายแดนพร้อมมุ่งหน้ามายังฉางอัน
ฉางอันมีการเตรียมการไว้อยู่นานแล้ว ตาเฒ่าฮ่องเต้สั่งให้มู่หรงฉีแอบส่งกำลังทหารและทหารม้าสองหมื่นนายไปประจำการที่ด่านมั่วเป่ยแล้ว มีการเตรียมพร้อมเพื่อป้องกันภัยอันตรายจึงไม่ต้องกังวลใจ เมื่อรู้ว่าสงครามมาถึงชายแดนแล้วนายพลของกองทัพผู้รักษาการณ์ก็รีบพาทหารเข้าสกัดกั้นกองทัพของทหารมั่วเป่ยเอาไว้ที่นอกด่าน จากนั้นก็รีบควบม้าเร็วเข้าสู่ฉางอันเพื่อรายงานและขอกำลังเสริมทันที
ฉางอันมีทหารที่แข็งแรงและกองทหารม้าที่แข็งแกร่ง เป็นประเทศที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ทหารของหนานจ้าวและมั่วเป่ยจะสู้ได้ อย่างไรก็ตามชาวมั่วเป่ยนั้นก็มีความกล้าหาญและเก่งกาจในการต่อสู้เช่นกัน และตอนนี้ก็ยังมีระเบิดฟ้าคำรณอีกด้วยไม่สามารถมองข้ามไปได้
เมื่อสงครามเกิดขึ้นมู่หรงฉีในฐานะที่เป็นเทพเจ้าสงครามที่ค่อยปกป้องคุ้มครองชาวฉางอัน แน่นอนว่าต้องเป็นผู้รับหน้าและมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อก่อนถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบสงคราม แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการยั่วยุของประเทศอื่น เลือดร้อนในตัวของเขาก็จะเดือดพล่านฮึกเหิมขึ้นมา ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะกลายร่างเป็นมีดคม ๆ แล้วแทงทะลวงเข้าไปตรงหน้าอกของศัตรูทันที
แต่ว่าในตอนนี้ชิงฮวนกำลังตั้งครรภ์อยู่ และเพราะว่าเป็นฝาแฝดจึงทำให้การตั้งครรภ์ของนางในครั้งนี้ค่อนข้างบอกบาง
ก่อนหน้านี้ก็มีอาการอาเจียนแพ้ท้อง ช่วงหลังก็เหนื่อยง่ายและได้ยินจากแม่นมเตียวมาว่าต่อจากนี้จะยิ่งทรมานมากขึ้นไปอีก ยิ่งตอนคลอดก็ยิ่งอันตรายเฉียดเป็นเฉียดตายเลยทีเดียว
เขาจะวางใจปล่อยให้ชิงฮวนอกสั่นขวัญแขวนอยู่คนเดียวในเมืองหลวงแล้วจากไปได้อย่างไร?
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน เมืองหลวงยังเป็นสถานที่อันตรายอย่างมาก ยังมีคนค่อยจ้องที่จะเขมือบชิงฮวนกับอวิ๋นเช่ออยู่ เขาคิดอย่างไรก็ไม่สามารถวางใจได้
รองแม่ทัพอวี๋ก็มีตาหามีแววไม่ พอได้ยินว่าจะมีศึกสงคราม ก็ตื่นเต้นเหมือนกระดี่ได้น้ำ รีบวิ่งไปหามู่หรงฉีเพื่อขอนำทัพออกรบ หน้าที่คอยคุ้มกันจวนแห่งนี้ตัวเองตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่ทำ ข้าเหล่าอวี๋ผู้นี้จะไปตีพวกลูกกระจ๊อกพวกนั้นเอง
มู่หรงฉีกำลังกลุ้มอยู่ พอได้ฟังคำพูดของเหล่าอวี๋จึงเหมือนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ
เขาเงยหน้าขึ้นมองอย่างเย็นชาและขยับริมฝีปากช้า ๆ “เจ้าพูดว่าอะไรนะ?”
เหล่าอวี๋ยังคงดีใจระริกระรี้อยู่ “ทำสงครามไงขอรับ ข้าเหล่าอวี๋ผู้นี้อยู่แต่ในจวนอ๋อง เกือบจะอัดอั้นตายกลายเป็นปูโสมเฝ้าทรัพย์อยู่แล้วนะขอรับ”
มู่หรงฉีกวักมือเรียกเขา “มานี่!”
เหล่าอวี๋ไม่มีความเอะใจแต่อย่างใด วิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปหา
มู่หรงฉียกชายเสื้อขึ้นแล้วยกขายาวขึ้นมาเพื่อที่จะแตะเขา
รองแม่ทัพอวี๋ไม่ทันได้ป้องกันตัว จึงถูกมู่หรงฉีแตะเข้าไปหนึ่งที โชคยังดีที่มีฝีมือโซเซถอยหลังไปสองก้าวก็ตั้งหลักได้ เหลือทิ้งไว้แต่รอยเท้าขนาดใหญ่บนเสื้อผ้า
เหล่าอวี๋รู้สึกมึนงงและกะพริบตาปริบ ๆ ตอนนี้เพิ่งจะเห็นไฟโกรธที่ลุกโชนทั่วทั้งตัวของมู่หรงฉี
แต่ว่าเพราะอะไรถึงโกรธได้ล่ะ? ชั่วขณะหนึ่งจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกน้อยใจอย่างมาก
แต่ทว่ามู่หรงฉีกลับไม่สนใจไยดีเขาและหันหน้าหนีเดินจากออกไป
เหล่าอวี๋ยังคงตามหลังไปติด ๆ เพราะอยากถามให้ชัดเจน
“ไม่ใช่สิ ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ข้าเหล่าอวี๋พูดผิดตรงไหนล่ะขอรับ? ท่านไม่พูดไม่จาก็แตะมาเลยแบบนี้ พอแตะเสร็จก็ไม่อธิบายอะไรเดินจากไปดื้อ ๆ เช่นนี้ ช่างไม่มีความรับผิดชอบเลยนะขอรับ!”
ผู้ชายเลว
มู่หรงฉีหยุดฝีเท้าลงและหันหน้ากลับมาทันที “เจ้ามีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติบ้านเมือง ยอมเสียสละคนในครอบครัวเพื่อปกป้องคนทั้งปวง ช่างประเสริฐเหลือเกิน! จะมีความผิดอะไรได้อย่างไร? เจ้าไปซะเถอะ หากเจ้าออกเดินทางไปสนามรบแล้ว หลังจากนั้นพระชายาก็จะให้ตี้ลี่แต่งงานออกไป”
นี่...นี่...
รองแม่ทัพอวี๋ยังคงรู้สึกสับสน ว่าท่านอ๋องกำลังชมตัวเองอยู่หรือว่ากำลังว่าเขากันแน่? ทำสงครามเกี่ยวอะไรกับการแต่งงานมีภรรยาด้วยเล่า?
“ข้าก็แค่รู้สึกว่าเอาแต่คลุกตัวอยู่ในจวนอ๋องตลอดเวลา ไม่สามารถสร้างความดีความชอบได้ ตี้ลี่อาจจะดูแคลนข้าได้ ข้าอยากให้นางเห็นว่า ข้าเหล่าอวี๋ได้รับเกียรติอันรุ่งโรจน์หลังจากกลับมาอย่างมีชัยจากสมรภูมิอันนองเลือด!”
มู่หรงฉีถอนหายใจในใจ ข้าเองก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน ชิงฮวนยังไม่เคยเห็นช่วงเวลาอันมีเกียรติและสง่างามน่าเกรงขามบนหลังม้าของข้าเลย
เขาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา “สนามรบแล้วยังไงล่ะ ก็แค่ฟันดาบเข่นฆ่ากันไปมา แต่เจ้าลองคิดดูสิ สถานการณ์ตอนนี้ในเมืองหลวงก็อันตรายอย่างมาก นี่เป็นสนามรบที่ต้องการเจ้ามากที่สุดน่ะ
ชิงฮวนเงยหน้าขึ้นและเม้มริมฝีปากพร้อมกับยิ้ม “ท่านกำลังจะฝากหม่อมฉันให้โฉวซือเส่าดูแลหรือเพคะ? ท่านเลิกหึงแล้วหรือ?”
มู่หรงฉีฮึดฮัดเบา ๆ “หึงสิ! พอเห็นหน้าเขาก็อยากจะต่อยเขาสักหมัด ใบหน้าของเขาชวนให้อยากต่อยนะ”
แต่โฉวซือเส่ากลับเป็นคนที่เหมาะสม ไว้วางใจได้ ข้อนี้ขอยอมรับว่าไม่อาจโต้แย้งได้
ขอเพียงชิงฮวนอยู่ให้ห่างจากวังวนวุ่นวายในเมืองหลวงแห่งนี้ และกลับไปที่เจียงหนาน มีโฉวซือเส่าคอยปกป้อง เขาจึงจะวางใจลงได้
ชิงฮวนถอนหายใจเบา ๆ “คนผู้นั้นไม่มีทางปล่อยหม่อมฉันกับอวิ๋นเช่อไปหรอกเพคะ แม้ว่าจะไม่เคยเผชิญหน้ากับคนผู้นั้นซึ่ง ๆ หน้า แต่หม่อมฉันก็สามารถสัมผัสได้ว่านางมีความพยาบาทอาฆาตพวกเราอย่างแรงกล้า แม้ว่าพวกเราจะออกจากเมืองหลวงไป นางก็จะไล่ตามไปอย่างไม่ลดละ
หากชาวบ้านต้องต่อต้านขุนนาง นี่คือข้อด้อย แม้แต่โฉวซือเส่าเองก็ไม่สามารถปกป้องพวกเราได้ ถ้าเช่นนั้นอยู่ที่นี่ยังดีเสียกว่าอยู่ภายใต้การคุ้มครองของเสด็จพ่อ แบบนี้ถึงจะปลอดภัยกว่า”
“เสด็จพ่อ?” มู่หรงฉีฮึดฮัดเสียงเบา เชื่อไม่ได้ที่สุดก็คือเสด็จพ่อคนนี้ที่ชอบขุดหลุมดักลูกชายตัวเองคนนี้นี่แหละ พึ่งพาไม่ได้ที่สุด
อยู่ ๆ ชิงฮวนก็นึกถึงอะไรบางอย่างได้ จึงหยิบถุงหอมเล็ก ๆ ที่ทำอย่างประณีตออกมาจากแขนเสื้อแล้วยัดใส่มือของมู่หรงฉี
มู่หรงฉีพินิจพิจารณาอย่างละเอียด แววตาเผยให้เห็นถึงความประหลาดใจและซาบซึ้ง “เจ้าปักเองหรือ? ข้าจะพกติดตัวเอาไว้อย่างแน่นอน เมื่อคิดถึงเจ้าก็หยิบออกมาดู เสมือนได้เห็นหน้าเจ้า”
เอ่อ...ชิงฮวนรู้สึกเหงื่อตกเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าเมื่อสามีต้องออกไปสู้รบ ผู้ที่เป็นภรรยาก็ควรจะเตรียมเสื้อกันหนาวที่ทำด้วยมือให้ แล้วก็เอ่ยกำชับอย่างไม่วางใจว่า หิวก็กินข้าวเยอะ ๆ หนาวก็สวมเสื้อหนา ๆ ต้องปลอดภัยกลับมาและนำชัยชนะกลับมาให้ได้
แต่ว่าเขามีลูกน้องต้องหลายหมื่นคน คนที่ค่อยปรนนิบัติดูแลเอาใจใส่น่าจะมีอยู่มาก เขาไม่น่าจะหิวหรอกกระมัง?
ชิงฮวนกระแอมไอเบา ๆ อย่างไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย “อันนี้เป็นเสด็จพ่อมอบให้ท่าน”
“เสด็จพ่อ?”
มู่หรงฉีมองถุงหอมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตะลึงค้างในทันที “เสด็จพ่อ? มอบให้ข้าหรือ?”
ช่างเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างแปลกประหลาด ล้วนเป็นผู้ชายกันทั้งคู่ ให้ถุงหอมทำไมกัน? ตาเฒ่าคนนี้กำลังทำอะไรแผลงอีกละเนี่ย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...