ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 823

รถม้าแล่นอยู่บนถนนอันเงียบสงัด หลังจากเลี้ยวมาหลายโค้ง ก็เข้าไปในตรอกแล้ว ชิงฮวนยกผ้าม่านแล้วมองดูด้านนอกที่คุ้นตา

ไม่ใช่จวนมหาเสนาบดี แต่เป็นบ้านหลังหนึ่งที่เหลิ่งชิงเฮ่อจัดซื้อเอาไว้ก่อน เพื่อมอบให้ตนเองเป็นสินส่วนตัว ตอนนั้นตนเองยืนกรานว่าไม่รับ บ้านหลังนี้จึงตั้งอยู่เฉยๆ มาตลอด ทำไมเสิ่นหลินเฟิงถึงเลี้ยวมาทางนี้ล่ะ

เสิ่นหลินเฟิงลงไปข้างล่าง แล้วเข้าไปเคาะประตู ประตูลานบ้านเปิดออกทันที เหลิ่งชิงเฮ่อเดินออกมา พลันมองไปข้างหลังเสิ่นหลินเฟิงอย่างร้อนใจ พอเห็นเงาของชิงฮวน ถึงถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก

พอชิงฮวนเห็นคนที่เปิดประตูคือพี่ชายใหญ่ของตนเอง จึงรู้ว่าจวนมหาเสนาบดีทราบข่าวนานแล้ว

นางกับเหลิ่งชิงเฮ่อยังไม่ได้เอ่ยปาก ก็โดนเสิ่นหลินเฟิงขัดจังหวะ “พวกท่านเข้าไปคุยกันข้างในเถิด ข้าจะไปทักทายพวกสหายที่คอยเตือนภัยแถวนี้สักหน่อย ทุกอย่างต้องระมัดระวัง”

เหลิ่งชิงเฮ่อพยักหน้า แล้วหลีกตัวให้ชิงฮวนเข้าไป ปิดประตูลานบ้าน แล้วจึงเอ่ยปากว่า “จวนมหาเสนาบดีมีคนจับตาดูมากมาย ทำอะไรไม่สะดวก ได้รับข่าวจากรัชทายาทเสิ่นล่วงหน้า ข้ากับท่านพ่อได้แต่รอเจ้าอยู่ที่นี่”

ท่านพ่อไตร่ตรองรอบคอบจริงๆ

ทั้งสองยังไม่ได้เข้าไปในบ้าน เสนาบดีเหลิ่งได้ยินเสียงจึงออกมาต้อนรับ

ภายในบ้านจุดเทียนสว่างไสว แต่ประตูหน้าต่างถูกปิดด้วยผ้าม่านหนาทึบ

เหลิ่งชิงเหยานอนอยู่ภายในมุ้ง เพราะเอายาให้นางกินล่วงหน้า จึงนอนไม่ได้สติ

“กังวลว่าเป้าหมายจะมากเกินไป เลยไม่ได้พาอวิ๋นเช่อมาด้วย ตอนนี้เขาสบายดี แต่รำพันถึงเจ้าเป็นบางครั้ง” เสนาบดีเหลิ่งอธิบาย

ชิงฮวนโบกมือ ลูกซึ่งไร้จิตสำนึกคนนั้น เจอหรือไม่เจอก็ได้ ข้างกายเขามีสาวงามนับไม่ถ้วน มีนมก็คือแม่ คิดถึงตนเองถึงจะแปลก

“ตอนนี้สถานการณ์กำลังรุนแรง เกรงว่าอ๋องเฮ่ากับพระชายาเฮ่าจะฮึดสู้เพราะไม่มีทางเลือก แล้วหันมาสนใจจวนมหาเสนาบดี ไม่เพียงแต่อวิ๋นเช่อ ท่านกับพี่ใหญ่และพี่สะใภ้เข้าออกบ้านต้องระมัดระวัง อย่ามอบโอกาสให้คนอื่น”

เสนาบดีเหลิ่งพยักหน้า “เจ้าวางใจเถอะ ครอบครัวของพี่สะใภ้อย่างฉู่รั่วซีเป็นตระกูลแห่งศิลปะการต่อสู้ เลือกยอดฝีมือมาคุ้มครองจวนมหาเสนาบดีโดยเฉพาะ แต่เรื่องฮึดสู้เพราะไม่มีทางเลือกที่เจ้าพูดคงจะไม่ถึงขั้นนั้น เพราะโอกาสของอีกฝ่ายยังมาไม่ถึง”

“ทำไมถึงคิดเช่นนั้น”

“วันนี้อ๋องเฮ่าทราบข่าวแต่เช้า จึงรีบเดินทางกลับเมืองหลวง แล้วไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทกับพระสนมหลินเฟยเพื่อสารภาพผิด ระหว่างกลับจวน เขาผ่านมาทางจวนมหาเสนาบดี นึกไม่ถึงว่ายังจะลงจากม้าและเข้ามาเยี่ยมชิงเหยาในจวน”

“แล้วได้พบหรือเปล่า”

เสนาบดีเหลิ่งส่ายหน้า “เชิญเขาเข้าจวน แต่ไม่ได้ให้เข้าพบชิงเหยา”

จัดการแบบนี้เหมาะสมที่สุด ถ้าหากปฏิเสธไม่ให้พบ ต้องทำให้อ๋องเฮ่ารู้สึกตื่นตัวแน่ๆ ท่านพ่อจัดการได้เหมาะสม

ส่วนพระชายาเฮ่าซึ่งโดนคุมขังอยู่ในคุกสวรรค์ได้รับความลำบาก อ๋องเฮ่าไม่ได้มาเยี่ยมในทันที แต่กลับมาจวนเสนาบดีเหลิ่งเพื่อแสดงความสำนึกผิด เห็นนิดเดียวก็รู้แล้วว่าเขายังพยายามเสแสร้ง เพื่อถ่วงเวลา และรอคอยโอกาส”

สองสามีภรรยานี้ สามารถเรียกได้ว่านอนฟืนชิมน้ำดี ใช้สมองอย่างหนัก ทนในสิ่งที่คนทั่วไปทนไม่ได้เก่งจริงๆ

ชิงฮวนรู้สึกวางใจ จึงหันไปดูอาการของเหลิ่งชิงเหยา พอเห็นว่าบาดแผลของนางหายสนิทแล้ว จึงทำการเปลี่ยนยาให้นาง

เสนาบดีเหลิ่งบอกการวินิจฉัยกับวิธีการรักษาของหมอหลวงให้เหลิ่งชิงฮวนฟังอย่างง่ายๆ พิษภายในร่างกายของชิงเหยาค่อนข้างซับซ้อน หมอหลวงไม่กล้าบุ่มบ่ามให้ยาเป็นการชั่วคราว กลัวว่าจะทำลายความสมดุล จึงทำเพียงฝังเข็ม ภายในช่วงสั้นๆ จิตใจของเหลิ่งชิงเหยายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

พิษในร่างกายของเหลิ่งชิงเหยานั้นถอนยาก และสิ่งที่แปลกก็คือ มีพิษแฝงอยู่ในร่างกายของนางเยอะมาก แต่ดูเหมือนจะทำอันตรายกับนางไม่ได้เลย

สิ่งที่ชิงฮวนเป็นร้อนใจก็คือ รักษาอาการบ้าของชิงเหยาให้หายโดยเร็ว แล้วถามสิ่งที่นางรู้ว่าพระชายาเฮ่าทำอะไรกับนางกันแน่ ของที่ถูกเอาออกไปพวกนั้น สำหรับพระชายาเฮ่ามันมีประโยชน์อะไร

คราวนี้มีเวลา นางจึงทำการตรวจเหลิ่งชิงเหยาใหม่ทุกด้าน

สมองไม่มีความผิดปกติใดๆ ถ้าอย่างนั้นมีความเป็นไปได้ที่การทำงานทางจิตใจจะมีอุปสรรค เกี่ยวข้องกับพิษในร่างกายของนางหรือเปล่านะ

นางตัดสินใจว่าจะถอนพิษให้ชิงเหยาก่อน จากนั้นดุอาการของนางแล้วค่อยใช้ยา

หลังจากศึกษามาหลายวัน ชิงฮวนจึงรู้เกี่ยวกับพิษภายในร่างกายของชิงเหยาเป็นอย่างดี และจะถอนพิษให้นางอย่างไรก็มีใบสั่งยาอยู่ในใจแล้วด้วย

เสนาบดีเหลิ่งทำให้แสดงไฟสว่างเล็กน้อย ชิงฮวนเอายาทั้งหมดที่จะใช้ออกมาตามจำนวน แล้วปรุงยาตามอัตราส่วนอย่างชำนาญและแม่นยำ

พอเหลิ่งชิงเฮ่อกับเสนาบดีเหลิ่งเห็นการกระทำในมือของนาง แล้วก็ขวดกระปุกแปลกประหลาดพวกนั้นก็ตาเป็นประกาย แต่ไม่พูดอะไรมาก

ชิงฮวนเอาขวดแขวนไว้บนหัวเตียง ทำการฆ่าเชื้อบนหลังมือของชิงเหยาอย่างพิถีพิถัน แล้วจึงแทงเข็ม

“หมายความว่าอะไร” อีกสามคนพูดพร้อมกัน

“มันคือกู่กัดกร่อน พระชายาเฮ่าเลี้ยงหนอนพิษกู่ในตัวของชิงเหยา เรียกว่ากู่กัดกร่อน”

พูดจบ ชิงฮวนก็หายใจเข้าอย่างควบคุมอารมณ์ของตนเองไม่ได้ “พระชายาเฮ่าช่างวางแผน! ช่างโหดเหี้ยม! ช่างเหลี่ยมจัดจริงๆ!”

ทั้งสามคนมองไปทางเหลิ่งชิงฮวนพร้อมกัน และรอนางอธิบาย

ชิงฮวนขมวดคิ้วมากขึ้น ทำหน้าเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นมองไปทางเสนาบดีเหลิ่ง แล้วกล่าวอย่างจริงจังว่า “ท่านพ่อ มีเรื่องหนึ่งต้องรบกวนท่าน”

“เรื่องอะไร รีบพูดมาเถอะ”

“พรุ่งนี้รบกวนท่านพ่อไปเชิญเซียนออกจากเขาที”

“ใคร”

“ผู้ดูแลอารามเหมยฮวา”

เสนาบดีเหลิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย “คนคนนี้พ่อเคยได้ยินฝ่าบาทเอ่ยถึงหลายครั้ง เคยได้ยินว่านิสัยแปลกประหลาด ไม่ให้เกียรติใคร เจ้าจะเชิญเขามาทำไม ตอนนี้พระชายาเฮ่าโดนตัดเอ็นข้อมือแล้ว ซ้ำยังถูกขังอยู่ในคุกสวรรค์ ยังจะทำชั่วได้อีกหรือ”

“กลัวว่าคนที่รู้ไสยศาสตร์กู่จะไม่ได้มีแค่พระชายาเฮ่า”

“หมายความว่าอย่างไร”

ทั้งสามคนถามพร้อมกัน

“พระชายาเฮ่าใช้เวลาเรียนรู้ทักษะเพียงไม่กี่ปีก็ออกมาจากลัทธินักบุญหญิง ถึงแม้จะปัญญาดี แต่เกรงว่าจะไม่มีความสามารถอันยอดเยี่ยมในการเลี้ยงกู่กัดกร่อน ข้าสงสัยว่าหลังจากเจ้าสำนักของลัทธินักบุญหญิงหนีไป จะซ่อนตัวอยู่ข้างกายพระชายาเฮ่า แต่ว่าพวกเราไม่รู้เท่านั้นเอง”

“ลัทธินักบุญหญิงหรือ โดนกวาดล้างไปแล้วไม่ใช่หรือ”

“ตอนนั้นฝ่าบาทออกคำสั่งว่ากวาดล้างลัทธินักบุญหญิง เจ้าสำนักน่าจะทราบข่าวล่วงหน้า ตอนที่กองทัพใหญ่ล้อมลัทธินักบุญหญิงเอาไว้ ก็ชิงหนีไปก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าอยู่ไหนจนถึงตอนนี้ และตอนที่ขุนนางท้องถิ่นทำการรายงาน เพื่อคุณงามความดี จึงปกปิดเรื่องนี้เอาไว้ ดังนั้นพวกเราจึงไม่รู้รายละเอียด”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา