ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 843

“หืม?” ชิงฮวนเลิกคิ้ว “ในที่สุดน่าจาอี๋นั่วก็ทนไม่ไหวแล้วปรากฏตัวออกมา?”

เหลิ่งชิงเฮ่อเม้มปากบางของเขา “ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าวางแผน พระชายาเฮ่ายอมรับว่าแผนการเป็นไปอย่างราบรื่นดี ใครจะรู้กันเล่าว่าจู่ๆน่าจาอี๋นั่วจะฟื้นขึ้นมาจากความตายและกลับไปยังหนานจ้าว ถ้าจะคิดให้ละเอียด น่าจะเป็นเพราะรู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล หลุดจากการควบคุมของตัวเองไป แล้วจึงมาสงสัยในตัวเจ้า เนื่องจากนางรู้สึกผิดและสงสัยในการตายของอ๋องฉี ดังนั้นจึงได้มาหาความจริงจากเจ้า”

มิน่าเล่า ถ้าหากอ๋องเฮ่ารู้สึกสงสัย ศพของมู่หรงฉีเพิ่งจะถูกส่งกลับมาที่จวนอ๋องฉีเขาควรจะมาตรวจสอบเสียก่อน แต่ทำไมจะต้องรอให้ถึงตอนเช้าก่อนแล้วค่อยให้เปิดโลงพิสูจน์กัน?

ที่แท้การปรากฏตัวของน่าจาอี๋นั่วทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัย

งั้นหลังจากนี้เธอจะทำอะไรก็ต้องระวังยิ่งกว่าเดิม จะให้มีอะไรผิดพลาดไม่ได้

เดิมทีแผนการของตาเฒ่าคือล่องูออกจากถ้ำแล้วตีพวกนายพราน ถ้าหากว่าไปแหวกหญ้าให้งูตื่นก็จะเป็นการเสียแรงเปล่าน่ะสิ

เหลิ่งชิงเฮ่อบ่นออกมาว่า “ชิงฮวนเจ้าก็เก่งจริงๆ นะที่ทนติดคุกได้ไหว แล้วยังเก็บเรื่องที่น่าจาอี๋นั่วปลอดภัยไว้ได้ไม่มีหลุด แบกรับเรื่องลำบากใจไว้ขนาดนี้ เรื่องนี้ฝ่าบาทน่าจะรู้เรื่องใช่หรือไม่”

ชิงฮวนยิ้มออกมาเล็กน้อย “ทั้งหมดเป็นแผนของฝ่าบาท ข้าเองรู้แค่ว่าน่าจาอี๋นั่วตามกองทัพกลับไปที่หนานจ้าวแล้วก็เท่านั้น ตอนนี้สถานการณ์ทางแคว้นหนานจ้าวเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ”

“กษัตริย์แคว้นหนานจ้าวกับราชินีจะต้องร่วมมือกับน่าจาอี๋นั่วเพื่อช่วยตัวเองแล้วก็แก้แค้นให้ลูกชาย มีอ๋องเซวียนนำทัพไปช่วย สถานการณ์ของกษัตริย์แคว้นหนานจ้าวดูจะสิ้นหวัง”

ทั้งหมดนี้ตรงกับที่ฮ่องเต้ชราคาดเดาไว้ทั้งหมด เขามองนิสัยใจคอของผู้คนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

กษัตริย์แคว้นหนานจ้าวรักลูกราวกับแก้วตาดวงใจ จู่ๆก็เสียลูกชายสุดที่รักไป ต่อให้รวมกำลังพลทั้งประเทศหรือสูญเสียอำนาจจนอับอาย ก็ยอมเพื่อ แก้แค้นให้กับลูกรัก

ส่วนอ๋องเฮ่ากันพระชายาเฮ่าเองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ตอนนี้พวกเขาเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วจะไม่ลงมือก็คงไม่ได้ พวกเขาจะต้องเดิมพันครั้งสุดท้ายนี้แน่นอนและเร่งดำเนินแผนการแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะรอให้สถานการณ์หนานจ้าวกับมั่วเป่ยสงบลงและชิงโจมตีเสียก่อน แต่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันทั่วทั้งเมืองหลวงนั้นไม่ได้รับรายงานการรบเลยสักฉบับ

สถานการณ์แบบนี้นั้นแปลกมาก ตามหลักแล้วพวกเขาควรที่จะมีความเคลื่อนไหวสิ คงไม่ใช่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่างกะทันหันหรอกนะ?

ยิ่งอีกฝ่ายอดกลั้นได้มากเท่าไรยิ่งแสดงให้เห็นว่าในมือของอีกฝ่ายมีไม้ตายอยู่ และไม้ตายนี้สามารถเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะได้

นี่อาจจะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นที่สามที่พระชายาเฮ่ามอบให้กับเธอก็ได้

“อ้อ จริงสิ” เหลิ่งชิงเอ๋อนึกเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน “หมายจับฉบับนั้นข้าได้มอบมันให้กับเสิ่นหลินเฟิงแล้วและได้ให้องค์หญิงลี่ว์อู๋ไปสืบมาโดยเฉพาะเลย นางสามารถยืนยันได้ว่าลัทธินักบุญหญิงนั้นได้รับใช้พระสนมหลินในวังมาระยะหนึ่งแล้ว พวกนางได้ไปที่สุสานหลวงกับพระสนมหลิน”

“นั่นหมายความว่าการที่นางซ่อนตัวอยู่ในสุสานหลวงก็ต้องมีคนใหญ่คนโตซึ่งก็คือพระสนมหลินคอยช่วยปิดบัง

มิน่าเล่าตอนที่นางไปที่จวนอ๋องเฮ่าเพื่อรับใช้เหลิ่งชิงเหยาถึงได้จำเป็นต้องแปลงกาย ก็เพราะนางกลัวว่าคนในวังจะจำนางได้นั่นเอง งั้นตอนนี้มีข่าวอะไรในวังบ้างไหมเจ้าคะ หาตราพระราชลัญจกรพบหรือยัง”

เหลิ่งชิงเฮ่อส่ายหน้า “ไม่มีข่าวอะไรเลย แต่ว่าแน่ใจได้อย่างหนึ่งว่าพระสนมฮุ่ยนั่นสบายดี คนในวังบอกว่าเพียงแค่กำแพงวังกั้นก็สามารถได้ยินเสียงร้องไห้ของนางแล้ว นี่ก็แปลกอีกอย่าง วังเยี่ยนซิ่งก็มีที่แค่นั้น ตราพระราชลัญจกรจะไปซ่อนอยู่ที่นั่นได้อย่างไรกัน”

ชิงฮวนลอบเม้มปาก นี่ยังต้องบอกอีกหรือไง นั้นต้องเป็นเพราะตาเฒ่าซ่อนมันเอาไว้ล่วงหน้าอย่างไรล่ะ

ปกติแล้วตราพระราชลัญจกรนั่นไม่ได้วางอย่างหลบๆซ่อนๆแต่มันวางอยู่บนโต๊ะทรงพระอักษร ปกติแล้วเวลาออกราชโองการหรืออะไรก็ตามก็สามารถใช้มันได้ทันที ไม่อย่างนั้นเจ้าเด็กดื้อเสี่ยวอวิ๋นเช่อคงไม่ขโมยมันออกมาเล่นนอกวัง

แต่ว่าตาเฒ่านี่ก็ขี้เหนียว อีกทั้งยังขี้สงสัย เขาไม่เชื่อใครทั้งนั้น เช่นนี้เขาก็ต้องพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้เปิดเผยแผนการทั้งหมดของเขาออกไปตามความเป็นจริง ตราพระราชลัญจกรที่สำคัญนี้เขาต้องไม่มีวันยกมันให้กับใครแน่ ตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเขาเอามันไปซ่อนไว้ที่ไหนล่วงหน้าก่อนกันแน่

ถ้าหากว่าสามารถหาตราพระราชลัญจกรพบก็ดี อย่างน้อยก็สามารถเคลื่อนกองทัพได้ ตราพยัคฆ์เองก็ไม่อยู่ที่เมืองหลวงและต้องประทับตราพระราชลัญจกรก่อนมันจึงจะมีผล การเคลื่อนกำลังพลไว้ล่วงหน้าและให้องครักษ์เข้ามาในเมืองหลวงนั้นก็จะเตรียมพร้อมได้ง่ายกว่า

ไม่สิ ชิงฮวนได้กลิ่นแปลกๆจากเรื่องนี้ เธอเข้าใจถึงความลำบากของตาเฒ่าแล้ว

มีตราพระราชลัญจกรอยู่ในมือ ความคิดแรกของทุกคนคือการเคลื่อนกำลังพลกองทัพ ถ้าหากว่าพวกที่เหลืออยู่ของเสด็จลุงรองแฝงตัวเป็นทหารประจำเมืองล่ะ นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เหมาะสมของโจรพวกนี้ในการเข้ามาในฉางอันหรือ เมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะเป็นการช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามมาเล่นงานตัวเองแบบนี้จะลงมือก็คงไม่ทันการแล้ว

คิดมากไป?

หลายวันมานี้รองแม่ทัพสูงสุดอวี๋ระวังตัวขึ้นมาก เพียงแค่ลมพัดจนปลายหญ้าปลิวเล็กน้อยเขาก็ระวังตัวขึ้นแล้ว และรู้สึกระแวงไปหมด

เขาสูดหายใจเข้าและอ้าหุบปากของตัวเอง จากนั้นเขาก็เช็ดน้ำตาและเศร้าสร้อยต่อไป

เพียงแค่เขาก้มหน้าลงก็รู้สึกว่าบริเวณด้านบนศีรษะนั้นเหมือนมีลมเย็นๆพัดอีกแล้ว จนแม้แต่ผมของเขาก็ถูกพัดปลิว

ครั้งนี้ชัดเจนมาก เขารู้แล้วว่าด้านบนหลังคานั้นจะต้องมีอะไรแน่และวิ่งผ่านไปแล้ว

เขาแค่ใช้ปลายเท้าดีดตัวขึ้นไปก็ขึ้นไปบนหลังคาแล้ว จากนั้นก็กวาดสายตาไปรอบๆ

บนนั้นไม่มีอะไรทั้งนั้น

เขาหย่อนก้นนั่งลงบนหลังคา ชายฉกรรจ์คนหนึ่งนั่งร้องไห้คร่ำครวญอย่างโศกเศร้า

“ท่านอ๋อง ข้ารู้ว่าท่านไม่เต็มใจที่จะจากไป ท่านจะต้องไม่สามารถวางใจเรื่องพระชายากับทายาทน้อยได้แน่ แต่ตอนนี้ยังไม่ทันครบเจ็ดคืนทำไมท่านถึงได้กลับมาก่อนล่ะขอรับ พระชายาเศร้าโศกมาก วันนี้นางเกือบจะเป็นลมไปหลายรอบ ท่านอย่าได้ทำให้นางตกใจเลย ท่านเฝ้ามองนางอยู่อย่างเดียวก็พอแล้วขอรับ”

เขาบ่นอยู่นานก็ได้ยินเสียงอู้อี้ดังมาจากห้องสักการะ เสียงไม่ดังนักแต่หูของเขาดี หูของเขาขยับทันที

แย่แล้ว จะต้องกำลังทำให้พระชายาตกใจแน่ ต่อให้นางใจกล้าแค่ไหน แต่ท่านอ๋องของตัวเองถูกสายฟ้าฟาดจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ ใครบ้างเห็นแล้วจะไม่รู้สึกสยดสยอง

เขาลงไปตามแนวกระเบื้องและกระโดดลอยไปทางห้องสักการะ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา