เมื่อเห็นสายตาเหมือนผีห่าซาตานของพระชายาจ้องมองมาที่ตน รองแม่ทัพอวี๋ก็รู้ได้ว่าเรื่องดีของตี้ลี่ที่เพิ่งจะคุยจบไปเมื่อครู่ เกรงว่ามันคงยังห่างไกลที่จะไปถึงจุดนั้น
เขาจึงรีบประจบประแจงทันที “พระชายาเป็นคนฉลาด แค่มองก็มั่นใจได้แล้วว่าชนะแน่นอน หนำซ้ำยังวางแผนไว้ก่อนแล้วด้วย”
โฉวซือเส่าพินิจพิเคราะห์และจ้องมองไปที่ชิงฮวนอย่างสงสัยใคร่รู้ “ตั้งแต่ต้นจนตอนนี้ ดูเหมือนเจ้าจะมิได้กระวนกระวายใจอันใดเลยนะ เหลิ่งชิงฮวน เจ้ากำลังปิดบังอันใดพวกข้าอยู่หรือไม่? หรือว่า เจ้ารู้แผนการของอ๋องเฮ่ามาตั้งแต่แรกแล้ว?”
รู้ดีว่ามิว่าเรื่องอันใดก็มิสามารถปิดบังจากเขาได้
ชิงฮวนเม้มริมฝีปากยิ้ม “ข้ามิรู้อันใดเลยจริงๆ เพียงแต่ว่าฝ่าบาทมอบแผนงานที่ทำให้รู้สึกสบายใจมาให้ล่วงหน้าแล้วก็เท่านั้นเอง” “แผนงานที่ทำให้รู้สึกสบายใจอันใด?”
“ฝ่าบาทมีหลายสิ่งหลายอย่างอยู่ในใจ ทั้งเตรียมการล่วงหน้า และวางหมากตัวใหญ่ไว้แล้ว ฉะนั้นข้าก็เลยคิดว่า ไม่ว่าอ๋องเฮ่ากับพระชายาเฮ่าจะใช้สมองคิดหนักขนาดไหน ก็ล้วนหนีมิพ้นเงื้อมมือของฝ่าบาทอยู่ดี”
โฉวซือเส่าส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างดูถูดเบาๆ “เจ้าปัดมันออกไปเลย ตอนนี้ฝ่าบาทเองก็กำลังตกที่นั่งลำบาก เจ้ายังจะหวังอีกหรือว่าเขาจะพลิกแพลงสถานการณ์ได้น่ะ?”
พูดจบ ก็รู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของตนดูจะมิค่อยสุภาพสักเท่าไหร่ จึงเหล่ตามองไปทางมู่หรงฉี
มู่หรงฉีขมวดคิ้วเป็นปมแน่น แววตาสุกใส “ได้ยินมาว่าเสด็จพ่อได้ข่าวว่าเกิดเรื่องขึ้นกับข้าที่ชายแดน ก็เลยเป็นลมหมดสติไป นั่นเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?”
ชิงฮวนพยักหน้า “จริงเพคะ ตอนนี้เสด็จแม่กำลังเฝ้าอยู่เคียงข้างฝ่าบาท แต่ท่านมิต้องกังวล อ๋องเฮ่ายังหาตราราชลัญจกรหยกมิพบ ช่วงนี้คงมิกล้าทำอันใดเสด็จพ่อหรอก”
“ในเมื่อเสด็จพ่อเป็นคนมองการณ์ไกลเช่นนี้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาแสร้งทำเป็นหมดสติ ก็แค่สร้างโอกาสล่อให้งูออกมาจากถ้ำเท่านั้นน่ะ?”
ชิงฮวนเงียบไป ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “มิได้แสร้งทำ มันเป็นความจริง มิเช่นนั้นเหตุใดจึงต้องปิดบังคนของพระสนมหลินเฟย แล้วทำให้พวกนางดีใจจนลืมตัวด้วยเล่า? ทว่าเขามิได้หมดสติเพราะความทุกข์ระทมใจ หากแต่เกิดจากการโดนวางยาพิษ”
“โดนวางยาพิษรึ?!”
ทั้งสามพูดพร้อมกัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ชิงฮวนพยักหน้า “ก่อนหน้าที่เสด็จพ่อจะหมดสติ เขาเคยเรียกหม่อมฉันให้ไปเดินรอบวังเยี่ยนชิ่งลับๆ ครั้งหนึ่ง หม่อมฉันเห็นว่าเขาปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง ก็เลยตรวจดู
ผลปรากฏว่า มิทราบเลยว่าเขาถูกวางยาตั้งแต่เมื่อไหร่ และหมอหลวงจงที่พระสนมหลินเฟยแนะนำให้ ก็เตรียมยาต้มไว้ให้เขา ลำพังดูแล้วก็มิได้มีปัญหาอันใด แต่มันกลับสามารถกระตุ้นการทำงานของพิษในร่างกายเขาได้”
มู่หรงฉีใจกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง “อาหารสามมื้อต่อวันของเสด็จพ่อ ไหนจะเครื่องดื่ม ล้วนอยู่ในความดูแลพิเศษจากขันที จะถูกวางยาพิษได้เยี่ยงไร?”
ชิงฮวนส่ายหน้า “วิธีวางยาพิษมีหลายวิธี มิจำเป็นต้องใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่มก็ได้ แต่มันสามารถติดได้ทางเลือด หรือระบบทางเดินหายใจ หรือการสัมผัสทางตาก็ได้ ในตอนนั้นหม่อมฉันมิสะดวกที่จะอยู่ในวังได้เป็นเวลานาน ก็เลยมิสามารถหาสาเหตุได้ว่าเสด็จพ่อถูกวางยาพิษได้เยี่ยงไร”
“แล้ว แล้วจะถอนพิษได้หรือไม่”
ชิงฮวนส่ายหน้าเบาๆ “ถอนได้ แต่เสด็จพ่อมิยอม” ทั้งสามก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น “เหตุใดถึงมิยอมรึ?”
“เสด็จพ่อตรัสว่า มิพบสาเหตุของการเป็นพิษมาระยะหนึ่งแล้ว อีกฝ่ายก็ยังสามารถลงมือได้อีก มิใช่แค่ป้องกันยากเท่านั้น แต่ยังแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียด้วย เขาจะต้องเดิมพันกับมัน”
“เสด็จพ่อช่างเลอะเลือนเสียจริง!” มู่หรงฉีร้อนรนใจเล็กน้อย “เขาจะเอาชีวิตของตัวเองไปเดิมพันได้เยี่ยงไร?”
โฉวซือเส่าไขว้ขา ทำเหมือนมันเป็นเรื่องที่มิเกี่ยวกับตนเองเลย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกี่ยวกับเหลิ่งชิงฮวน มันเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องอื่นๆ ต่อให้ฟ้าถล่มลงมา ก็เป็นเรื่องที่มิเกี่ยวกับตัวเองงั้นรึ?
ทั้งชิงฮวนและมู่หรงฉีก็มิมีผู้ใดเอื้อนเอ่ย ท้ายที่สุดการเข้าออกวังหลวงนั้นเป็นเรื่องที่อันตรายมากเรื่องหนึ่งจริงๆ หากตนบุกเข้าไปเองก็มิเป็นไร จะปล่อยให้คนอื่นเข้าไปตายได้เยี่ยงไรกัน?
โฉวซือเส่าที่กำลังเอามือลูบคางชะงักไปอย่างอดมิได้
คำพูดธรรมดาๆ หากแต่มีเหตุผล ดูเหมือนมันจะเป็นเช่นนั้น “ช่างเถิด เรื่องออกคำสั่งให้ลูกน้องกระเสือกกระสนทำตาม เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว พอข้าสะสางเรื่องข้างนอกเสร็จแล้ว หากมิมีอันใดก็จะไปเดินรอบๆ วัง แล้วชิมอาหารของฮ่องเต้เสียหน่อย”
มู่หรงฉีเงียบไป ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างซาบซึ้งใจเล็กน้อย “ความปลอดภัยในวังของเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ จะปล่อยให้เป็นหน้าที่เจ้าละกัน ส่วนหัวหน้าเหอนั่น ข้าจะรับช่วงต่อเอง”
โฉวซือเส่าบิดขี้เกียจ ก่อนจะยื่นมือไปทางชิงฮวน “แผนภูมิในวังยังมีการจัดวางกำลังป้องกันที่เป็นจุดบอดอยู่ ไหนจะระเบิดควันนั่น ไหนจะระเบิดฟ้าคำรณอะไรนั่นอีก เอามาให้ข้ามากกว่านี้ก็คงได้ละ”
“เจ้าจะไปสืบข่าว หรือจะไประเบิดวังหลวงกันแน่? ขอเตือนเจ้าไว้ก่อนเลย เสด็จพ่อของข้าเป็นคนตระหนี่ขี้เหนียว ภายหลังอาจจะต้องเอาเงินจากเจ้ามาบูรณะวังหลวงใหม่”
“อ้อ ลืมไปเลยว่าวังหลวงเป็นของตระกูลเจ้า” โฉวซือเส่าพูดอย่างไม่ยี่หระ “ก็ให้สำนักใหญ่ป้องกันตัวเองให้น้อยลงสิ?”
แน่นอนอยู่แล้ว
“วังเหยี่ยนชิ่งมีการปกป้องกันอย่างแน่นหนา ท่านเองก็ระวังตัวไว้ให้มากๆ ถ้าหากพบเห็นพระสนมฮุ่ยเฟยล่ะก็ เอายาถอนพิษทั้งสามเม็ดให้นาง หาโอกาสให้ฝ่าบาทกลืนมันเข้าไป ถ้าหากเข้าไปในวังเหยี่ยนชิ่งมิได้ ท่านก็ไปหาลู่กงกงและถามเขาว่ารู้แผนการพิเศษของฝ่าบาทหรือไม่”
“เสด็จพ่อมิมีแผนอันใด” มู่หรงฉีพูดเสียงเข้ม “เจ้าลืมการดึงดูดวิญญานของจิ่นอวี๋ไปแล้วหรือ? พระชายาเฮ่าก็เป็นคนของลัทธินักบุญหญิง เสด็จพ่อจะต้องระวังการเคลื่อนไหวนี้อยู่แล้ว มิเช่นนั้น หากพวกอ๋องเฮ่าไต่สวนเรื่องนี้ ลู่กงกงจะหนีไปได้เยี่ยงไร?”
ชิงฮวนถอนหายใจ “ถ้าเช่นนั้นเราก็ยิ่งต้องวางแผนให้รอบคอบ เป็นสะใภ้ของลูกชายตระกูลมู่หรงของท่านมันยากจัง หวังว่าเสด็จพ่อจะทิ้งแผนอื่นๆ ไว้บ้างนะ ถึงตอนนั้นจะได้เปลี่ยนความประหลาดใจให้เราได้ในยามคับขัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...