ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 859

ผู้ดูแลพิธีกล่าวอย่างไม่ปิดบังแม้แต่น้อย “อุทยานหลวงแห่งนี้ว่ากันว่าไทเฮามีราชโองการสร้างขึ้นล่วงหน้าให้ท่านอ๋องรอง ตอนแรกตรัสว่าแม้ท่านอ๋องรองจะมีที่ดินศักดินาก็ตาม แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งร้อยปีก็สามารถนำมาฝังไว้ที่สุสานหลวงแห่งนี้เพื่อที่จะได้อยู่เป็นเพื่อนกับพระนางได้”

ผลปรากฏว่าเสด็จลุงรองก่อกบฏและถูกตาเฒ่าฮ่องเต้ตัดสินโทษจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะฝังในสุสานหลวงได้ จึงแค่หาที่ฝังใกล้ ๆ สุสานหลวงเท่านั้น

ดังนั้นอุทยานสุสานหลวงแห่งนี้จึงว่างเปล่า จากนั้นอ๋องเฮ่าจึงมอบที่ดินฮวงจุ้ยแห่งนี้ให้อ๋องฉี

โดยปกติแล้วการจัดการเช่นนี้ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่สิ่งที่ไม่เหมาะสมก็คือ ทำไมอ๋องเฮ่าถึงปล่อยให้คนอื่นมาครอบครองที่ดินของพ่อตัวเองได้เล่า?

ชิงฮวนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย จิตใจหวาดหวั่นไม่สงบ และมักจะมีลางสังหรณ์ไม่ดีแปลกๆ

เธอไม่สามารถนั่งต่อไปได้อีกจึงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้

“ไม่ได้การล่ะ ข้าต้องเข้าไปดูสักหน่อย”

“ทำเช่นนั้นมันไม่เหมาะสมขอรับ” ผู้ดูแลพิธีปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด และปฏิเสธทันควันอีกหนึ่งประโยค “มันไม่เป็นมงคลและไม่เป็นผลดีต่อทารกในครรภ์ขอรับ”

ไม่คิดมากก็คงดี พอยิ่งคิดชิงฮวนก็รู้สึกว่ามีเรื่องไม่ชอบมาพากล จึงปัดมือของผู้ดูแลพิธีที่ขวางกั้นเอาไว้ออก แล้วบุกเข้าไปข้างใน

เมื่อเดินไปตามทางต้องที่ผ่านห้องโถงด้านตะวันออกและตะวันตก ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องในห้องโถงด้านหลัง

ด้วยความตกใจชิงฮวนก็ไม่สนใจกฎเกณฑ์ของบรรพบุรุษที่มีอีกต่อไปบุกเข้าไปยังห้องโถงด้านหลังทันที

พอเข้าไปชิงฮวนถึงกลับตกตะลึง

ที่ทางเข้าอุทยานสุสานมีคนสองคนล้มอยู่ บนลำตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยงูหลากสีสันเลื้อยอยู่ ดูจากลูกปัดและเสื้อผ้า รองเท้าที่ทิ้งไว้ข้าง ๆ สามารถระบุตัวตนพอได้คร่าว ๆ ว่า เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่สวดมนต์และผู้ที่ทำพิธีบวงสรวง

อากาศในนี้ก็มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์อย่างมาก ชิงฮวนเข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่

ธูปนี้ถูกใครบางคนเล่นตุกติกเตรียมการเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว พอจุดแล้วจะมีกลิ่นที่สามารถดึงดูดงูได้

เป็นอย่างที่คาดไว้ไม่มีผิดในวังใต้ดินเต็มไปด้วยฝูงงูหนาแน่นและทั้งหมดล้วนเป็นงูที่มีพิษสูง พวกมันล้อมรอบอ๋องรุ่ยกับอวิ๋นเช่อเอาไว้ตรงกลาง อวิ๋นเช่อยืนอยู่ด้านบนโต๊ะบูชา มีอ๋องรุ่ยคอยปกป้องอยู่ข้างหน้าเขา แต่ในมือเขาไร้ซึ่งอาวุธ และมีใบหน้าที่หวาดกลัว ทั่วทั้งร่างกายแปดเปื้อนไปด้วยเลือด

ส่วนองครักษ์ที่เดิมทีต้องมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องพวกเขาทั้งสอง มีสามคนล้มลงกับพื้นแล้ว ร่างกายของพวกเขาก็เต็มไปด้วยงูพิษเช่นกัน และยังมีเลือดกระจายอยู่เต็มตัวพวกเขา คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ยืนหันหลังให้และแบกทองสัมฤทธิ์สามขาที่เอาไว้ใช้จุดธูปขึ้น คาดไม่ถึงว่าจะทุบใส่หัวอ๋องรุ่ย

ดูเหมือนว่าเลือดบนร่างกายของอ๋องรุ่ยน่าจะมาจากองครักษ์เหล่านี้ ต้องขอบคุณที่วังใต้ดินแห่งนี้ไม่สามารถพกอาวุธเข้ามาได้ มิฉะนั้นในเวลานี้อ๋องรุ่ยที่มีกำลังน้อยนิดคงยากที่จะทำอะไรได้ เกรงว่าคงรอดได้ยากจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้

ยังดีที่มาทันเวลา

เมื่อเห็นอันตรายเกิดขึ้นตรงหน้า ชิงฮวนรีบดึงปิ่นปักผมปาออกไปแทงแขนขององครักษ์ เขาได้รับความเจ็บปวดทันทีจนทิ้งกระถางธูปทองสัมฤทธิ์สามขาร่วงสู่พื้นเสียงดัง หึ่ง ๆ ออกมา

ส่วนอ๋องรุ่ยมองเห็นโอกาสก็ใช้เท้าโจมตีไปที่หน้าอกขององครักษ์แตะจนเขาลอยออกไป

ทันใดนั้นก็มีงูกลุ่มหนึ่งกระโจมไปบนตัวเขา รัดตัวองครักษ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสคนนี้เอาไว้ องครักษ์กลิ้งตัวไปมาบนพื้นแล้วกรีดร้องอย่างน่าสังเวชด้วยความเจ็บปวด

งูพิษตัวอื่น ๆ เลื้อยอ้อมองครักษ์และจ้องมองอ๋องรุ่ยกับอวิ๋นเช่ออย่างดุร้าย

อ๋องรุ่ยเทน้ำมันตะเกียงรอบขาและจุดเปลวไฟขึ้น เพื่อหยุดการโจมตีของงูชั่วคราว

เมื่อเห็นชิงฮวนเข้ามา อวิ๋นเช่อก็กรีดร้องด้วยความกลัว “ท่านแม่ ช่วยลูกด้วยขอรับ!”

ตอนนี้สายเกินไปแล้วที่จะขอกำลังเสริมมาช่วย เมื่อเห็นว่าเปลวไฟกำลังจะมอดลง ฝูงงูที่อยู่บนพื้นก็รวมตัวกันเตรียมพร้อมที่จะโจมตี

การขับไล่งูสำหรับชิงฮวนแล้วเป็นเรื่องง่ายมาก

ขณะที่เธอแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกก็เอื้อมมือไปหยิบผงไล่งูออกมาจากแหวนนาโนและโรยใส่ฝูงงู

แม้ว่างูสีเขียวมรกตสามตัวนี้จะเป็นงูตัวเล็ก ๆ แต่อย่ามองว่าเป็นแค่ลูกงูเชียว เพราะพิษของมันรุนแรงมาก และยังมีจิตวิญญาณเป็นเจ้าเหนือหัวในงู พวกมันดีดตัวขึ้นบนพื้น แล้วพุ่งตัวตรงไปยังโต๊ะบูชา จากนั้นก็เลื้อยตัวแขวนอยู่บนร่างของอวิ๋นเช่อ ส่งเสียงฟ่อฟ่อพูดภาษางูใส่กลุ่มงูที่อยู่บนพื้น

สถานการณ์กำลังอยู่ในขั้นวิกฤติ เธอคิดแต่เพียงว่าจะช่วยอวิ๋นเช่อออกมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไร จึงไม่อาจแยกสมาธิไปคิดว่างูเหล่านี้มาจากไหน และอยู่ภายใต้การควบคุมของใคร? และพระชายาเฮ่ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?

อ๋องรุ่ยปกป้องอวิ๋นเช่อเอาไว้ข้างหลังและค่อยถอยออกมาทีละก้าว หลังจากมารวมตัวกับชิงฮวนได้แล้วถึงผ่อนคลายลง

ชิงฮวนจ้องมองฝูงงูบนพื้นดินอย่างระมัดระวัง “พวกเจ้าออกไปกันก่อน ข้าจะตามหลังไป”

อ๋องรุ่ยไม่มีความเกรงใจเลยสักนิด จะว่าไปแล้ว ตัวเองเป็นถึงชายชาตรีแต่ต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาปกป้อง รู้สึกขายหน้าเหลือเกิน แต่เหลิ่งชิงฮวนเป็นคนที่สามารถทำให้คนอื่นรู้สึกปลอดภัยและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้

“ที่ปากทางเข้าวังมีประตูหินที่สามารถกั้นฝูงงูเอาไว้ได้ชั่วคราว ข้ากับอวิ๋นเช่อจะออกไปก่อนแล้วจะปิดประตูหินเอาไว้ครึ่งหนึ่ง หากพี่สะใภ้สามได้โอกาสก็ออกมานะ”

“ได้”

อ๋องรุ่ยแบกอวิ๋นเช่อเอาไว้บนหลังแล้วเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่ปลอดภัยก่อน

ชิงฮวนยังไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ทันใดนั้นข้างหลังมีเสียงนกหวีดดังขึ้น ฝูงงูที่เคยก้มศีรษะด้วยความเคารพอยู่ ๆ ก็เกิดบ้าคลั่งขึ้นมา พากันเปิดฉากโจมตีเธอกะทันหันพร้อม ๆ กัน

ชิงฮวนอดไม่ได้ที่จะตกใจ ยานี้ไม่น่าจะมีผลอะไรกับงูพิษเหล่านี้ เธอจึงดึงแส้หนังออกมาทันทีและโบกออกมากวาดล้างไปทั่ว ทำให้ผิวหนังและเนื้อของมันถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ นางทำลายการโจมตีระลอกแรกของฝูงงูลง

หลังจากที่ฝูงงูแย่งชิงกันโจมตี ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่สามารถหลบหนีไปได้ และไม่มีเวลาค้นหาสิ่งของที่สามารถรับมือพวกมันออกมาจากแหวนนาโนได้ และยิ่งไปกว่านั้นก็มีฝูงงูเลื้อยอ้อมตัวเธอไป พวกมันจะพุ่งตัวเข้าโจมตีอ๋องรุ่ยกับอวิ๋นเช่อที่อยู่ข้างหลัง ชิงฮวนรู้สึกว่าตัวเองควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ทั่วถึง

ชิงฮวนจึงรีบตะโกนบอกกับอ๋องรุ่ย “คนที่ควบคุมงูจะต้องซ่อนตัวอยู่ในวังใต้ดินแห่งนี้อย่างแน่นอน ขอเพียงกำจัดคนผู้นี้ทิ้ง ฝูงงูก็จะสลายตัวไป”

แต่วังใต้ดินไม่มีที่จะซ่อนตัวได้ อาจกล่าวได้ว่าสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็วในทันที และอ๋องรุ่ยที่แบกอวิ๋นเช่อไว้บนหลังได้จับสังเกตุเสียงนกหวีดที่ดังคมชัดและฉับพลันเมื่อสักครู่นี้ก่อนอยู่แล้ว จึงเดินตามเสียงที่ดังอยู่ไม่ไกลไป ที่กำแพงหินคาดไม่ถึงว่าจะมีรอยแตกออกจากัน และมีคนเดินออกมาจากข้างใน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา