ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 873

ทุกคนตกอยู่ในความงุนงง ไม่รู้ว่ามาดีหรือมาร้าย ทำให้อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก เมื่อคนเหล่านั้นทะลุวงล้อมของอ๋องเฮ่าเข้าใกล้วังใต้ดิน ในที่สุดทุกคนก็เห็นผู้นำทัพอย่างชัดเจนเต้มสองตา พวกเขาจึงเริ่มร้อนรนขึ้นมาทันใด

ผู้นำทัพไม่ใช่ใครอื่นนอกจากรองแม่ทัพอวี๋ที่หายสาบสูญไปแล้ว ส่วนคนที่ติดตามมาย่อมเป็นเหล่าทหารที่เขานำทัพออกไปนั่นเอง

คนที่รองแม่ทัพอวี๋พามามีไม่มากนัก

ทว่าพวกเขาเป็นเหมือนเสือร้ายเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว

เสิ่นหลินเฟิงตะโกนจากระยะไกล “รองแม่ทัพอวี๋ รีบสั่งให้คนดับไฟเร็วเข้า พระชายากำลังติดอยู่ในวังใต้ดินข้างใต้กองไฟนั่น”

คำพูดนั้นทำให้รองแม่ทัพอวี๋ตกใจและรีบสั่งคนที่อยู่ข้างหลัง “เร็วเข้า เอามังกรน้ำมาดับไฟ!”

ยิ่งมีคนมากขึ้นเท่าไรยิ่งจัดการได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น คนของอ๋องเฮ่าถูกฉีจิ่งอวิ๋นควบคุมไว้ เสิ่นหลินเฟิงจึงเข้าไปเผชิญหน้ากับอ๋องเฮ่าอย่างไม่เกรงกลัว

อ๋องเฮ่าตะโกนด้วยความโกรธ “รองแม่ทัพอวี๋ เจ้ากล้ามากนะที่บังอาจแอบระดมพลต่อต้านข้าเช่นนี้!”

รองแม่ทัพอวี้โต้กลับในขณะที่สั่งให้เคลื่อนพล “ท่านอย่าตำหนิกระหม่อมเช่นนั้นเลย กระหม่อมเองมีสิทธิ์ที่จะเคลื่อนย้ายกำลังพล คนพวกนี้เคยเป็นคนของค่ายทหาร แต่ตอนนี้ไม่ใช่อีกต่อไป พวกเขาปลดวางอาวุธและตามกระหม่อมมาเพื่อช่วยพระชายาของเรา”

“ค่ายทหารฉางอันเป็นที่ที่เจ้าอยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไปงั้นหรือ” อ๋องเฮ่าตะคอกอย่างเย็นชา

“ไม่เลยขอรับ” รองแม่ทัพอวี๋พูดอย่างมีเหตุผล “” พวกเขาทั้งหมดได้รับการอนุมัติจากนายพลแล้ว นายพลกล่าวว่าพวกเขาได้รับอนุญาตให้เป็นอิสระชั่วคราว และจะกลับไปทำงานให้เสร็จในภายหลัง พวกเขาต้องการกลับไปปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของตนเสียก่อน”

มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ

ทุกคนตกตะลึง สมแล้วที่เหลิ่งชิงอวนเป็นคนสอนเขา เขากำลังหาประโยชน์จากช่องโหว่ของสถานการณ์ตรงหน้า นี่ถือเป็นทักษะชั้นดี

อ๋องเฮ่าพูดอย่างเย็นชา “เอาเถอะ ในเมื่อคนเหล่านั้นเป็นแค่กลุ่มคนที่ต้องการกบฏ งั้นข้าจะสังหารให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

รองแม่ทัพอวี๋ตอบอย่างไม่ลังเล “ปกป้องความปลอดภัยของพระชายาอ๋องฉี นี่คือภารกิจที่อ๋องฉีมอบหมายให้เราตอนที่เขาจากไป ชายชาตรีย่อมรักษาคำพูด ทุกคนลุยเลย!”

ทหารที่อยู่ข้างหลังเขาตะโกนพร้อมกัน “บุก!”

อ๋องเฮ่าจ้องไปที่รองแม่ทัพอวี๋อย่างเย็นชา “หึ! ไม่มีประโยชน์หรอก ข้าจะทำลายพวกเจ้าที่เหลือให้หมดในคราเดียว ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มรสชาติหว่านถั่วเป็นกองทัพของข้า!”

เนื่องจากไฟที่โหมกระหน่ำต่อหน้า รองแม่ทัพอวี๋จะมีเวลาต่อปากต่อคำกับอ๋องเฮ่าได้อย่างไร พวกเขาสั่งร่วมกับเสิ่นหลินเฟิงและฉีจิ่งอวิ๋น ทหารถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งมีหน้าที่ต่อต้านทหารของอ๋องเฮ่า ส่วนอีกกลุ่มมีหน้าที่ดับไฟ

อ๋องเฮ่าออกคำสั่งเรียกทหารที่ไว้ใจมากที่สุด สั่งให้พวกเขากินยาลงไป พลังการต่อสู้จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่กลัวความตายแม้จะต้องต่อสู้หนึ่งต่อสิบ

รองแม่ทัพอวี๋และคนอื่นๆ พยายามช่วยกันต่อต้าน ประกอบกับน้ำที่ไหลช้าทำให้การดับไฟเป็นเรื่องยาก

เมื่อเวลาผ่านไปฃทั้งสองฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ ฉีจิ่งอวิ๋นและเสิ่นหลินเฟิงไม่สามารถเข้าใกล้อ๋องเฮ่าได้ระยะหนึ่ง ดวงตาของทุกคนเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เกรงว่าความหวังในการเอาชีวิตรอดของชิงฮวนอาจจะเลือนรางเสียแล้ว

ทว่าจู่ๆ ก็มีทหารนายหนึ่งวิ่งเข้ามาและทรุดลงกับพื้น

“รายงาน! ท่านอ๋องเฮ่า แย่แล้วขอรับ!”

อ๋องเฮ่าสะดุ้งโหยง ก่อนจะรีบก้าวไปด้านหน้าและโน้มตัวถาม “เกิดอะไรขึ้น”

“อ๋องฉี อ๋องฉีกลับมาแล้วขอรับ!”

อ๋องเฮ่าอดไม่ได้ที่จะหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ “มู่หรงฉี?เขายังไม่ตายงั้นหรือ”

“ไม่ขอรับ เขายังไม่ตาย ตอนนี้เขากำลังนำกองทหารพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง คนของเราต้านทานไว้ไม่ไหวแล้ว!”

เส้นเลือดบนหน้าผากของอ๋องเฮ่าสั่นระริกและพูดอะไรไม่ออกพักหนึ่ง

เขเริ่มตื่นตระหนก ครั้งนี้เขาตื่นตระหนกแล้วจริงๆ

ทหารม้ารักษาพระองค์สองถึงสามร้อยคน?

หยางรุ่ยสั่งให้ทหารเลิกต่อสู้และปล่อยให้มู่หรงฉีกับทหารม้ารักษาพระองค์เข้ามาในสุสานหลวง

เสิ่นหลินเฟิง ฉีจิ่งอวิ๋นและคนอื่นๆ พยายามที่จะจับแขนที่ถือดาบนั้น ร่างกายของพวกเขาเหนื่อยล้าจนเกินจะทนไหว ทหารและแม่ทัพต่างก็บาดเจ็บจำนวนมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป พวกเขาจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ทันใดนั้นเมื่อพวกเขาเห็นคนของอ๋องเฮ่าล่าถอยจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที ก่อนจะหันหน้าไปมองอีกฝั่งด้วยความประหลาดใจ มู่หรงฉีกำลังนำทหารม้ารักษาพระองค์วิ่งเข้ามาในสุสานด้วยความรวดเร็ว

ทันทีที่ได้เห็นร่างสูงโปร่ง ทั้งสองจึงอุทานด้วยความประหลาดใจพร้อมกัน “ท่านพี่!”

บรรดาทหารต่างรู้สึกเหมือนได้เจอกับสายฝนยามหน้าแล้ง พวกเขาชูมือขึ้นตะโกนเสียงดังกึกก้อง

คนอื่นในสุสานรวมถึงเหล่าบรรดาขุนนางที่ยืนดูเหตุการณ์อย่างเฉยเมยต่างพากันตกใจ พวกเขาตกใจมากที่เห็นมู่หรงฉีปรากฏตัว

“ท่านอ๋องฉี!”

“อ๋องฉียังมีชีวิตอยู่?”

“แล้วชายที่อยู่ในโลงศพคือใคร”

“ใครก็ได้ช่วยบอกข้าทีว่าเกิดอะไรขึ้น”

มู่หรงฉีไม่สนใจบทสนทนาเสียงดังเหล่านั้น เขาเอ่ยปากถามเสิ่นหลินเฟิงโดยไม่ได้มองอ๋องเฮ่าที่ได้รับการปกป้องอย่างแน่นหนา “ชิงฮวนอยู่ที่ไหน”

ดวงตาของเสิ่นหลินเฟิงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาคิดว่าเหลิ่งชิงฮวนคงทนไม่ไหวแล้ว ก่อนจะร้องไห้สะอึกสะอื้นพร้อมกับชี้ไปที่ซากปรักหักพังของวังใต้ดิน

“ท่านพี่ ข้าขอโทษ ข้า...ข้าเกรงว่านางจะตกอยู่ในอันตราย!”

มู่หรงฉีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขามองวังใต้ดินที่แตกกระจายเป็นซากปรักหักพังและมีเปลวไฟลุกโชติช่วงด้วยความเหลือเชื่อ “เจ้าบอกว่า...ชิงฮวนยังอยู่ในวังใต้ดินงั้นหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา