ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 892

ฉีจิ่งอวิ๋นเองก็คิดไม่ถึงว่าฮ่องเต้ชราไม่เพียงแต่ให้อภัยความผิดในอดีตของเขาแต่ยังใจกว้างให้เขาเป็นขุนนางด้วย

โทษในการขายชาตินั้นไม่สามารถละเว้นได้ เขานึกว่าตัวเองจะต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆเหมือนกับมด ความผิดพลาดในอดีตนั้นอย่างน้อยเขาก็ต้อใช้เวลาทั้งชีวิตในการชดใช้

เหมือนกับว่าเขาแบกของหนักแล้วลื่นล้มในระหว่างข้าม เหมือนกับว่ามีภูเขาลูกหนึ่งกดทับเขาเอาไว้ทำให้หายใจไม่ออก การอภัยโทษของฮ่องเต้ทำให้เขาโล่งใจ ไม่ว่าอำนาจอะไรก็ไม่สำคัญแล้ว

ลูกผู้ชายต้องใช้ชีวิตอย่างซื่อตรง

เขาขอบพระทัยฮ่องเต้อย่างตื่นเต้นระคนดีใจ

ฮ่องเต้ชราเลื่อนสายตาไปยังเสิ่นหลินเฟิง

เสิ่นหลินเฟิงยืดอกขึ้นและรอให้ฮ่องเต้ให้รางวัลเขา

ฮ่องเต้ชราส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ “เจ้ามาทำอะไรที่นี่? มารอให้ข้าให้รางวัลเจ้างั้นหรือ? ลี่ว์อู่คนเดียวยังไม่พอหรือไง คิดจะให้ข้ายกองค์หญิงให้เจ้าอีกสักสองคนงั้นหรือ?”

คำพูดถูกพูดออกมารวดเดียวจนเสิ่นหลินเฟิงชะงักไป ตัวเขาเองก็วิ่งจนขาแทบหัก เขาทำงานจนลืมตัวเองไปแล้ว ไม่มีความชอบก็ไม่มีสิ ชายชรากำลังประหยัดอยู่ใช่ไหม

ยังดีที่เขาตอบโต้ได้เร็วจึงยิ้มแหย “มิบังอาจ มิบังอาจ หลินเฟิงเพียงแค่อยากจะฟังว่าฝ่าบาทมีอะไรจะสั่งอีกหรือไม่”

ชายชราจึงพูดอย่างโมโหว่า “ประมาณนี้แหละ เจ้าเป็นผู้สืบทอดของจวนกั๋วกงแล้ว อันกั๋วกงในอนาคต เจ้าเป็นลูกเขยของข้า เจ้าทำงานให้ข้า พวกเราเป็นครอบครัวกันแล้วเจ้ายังจะเอารางวัลอะไรอีก”

หลินเฟิงช่างน่าเบื่อจริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้ชราจะขี้งกแบบนี้ แม้ว่าจะตอบแทนโดยให้รางวัลเขาเป็นเงิน เขาเองก็จะไม่รู้สึกผิดหวัง

เป็นลูกชายของชายชรานั้นไม่ง่ายเลย การเป็นลูกเขยก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน

แต่เมื่อว่ากันแล้วขุนนางที่มีความดีความชอบทั้งสามคน แต่ละไม่ยอมเสียเปรียบแล้วยังชอบเอาเปรียบ ตัวเขายังต้องการอะไรอีก

ที่ควรให้รางวัลก็ให้ไปหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ชราค่อนข้างเหนื่อย เขาเพิ่งจะฟื้นขึ้นมาจึงไม่ได้มีสมาธิเต็มที่ จากนั้นเขาก็สะบัดมือแล้วสั่งให้พวกเขาถอยออกไป

ทั้งสามคนออกจากตำหนักเยี่ยนชิ่งแล้วก็คุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน

ชิงฮวนเขยิบเข้ามาด้านหน้าแล้วถามอย่างสงสัยว่า “เป็นอย่างไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง ฝ่าบาทให้อะไรพวกเจ้า”

โฉวซือเส่าเบ้ปาก “ให้แผ่นไม้ข้ามา”

เสิ่นหลินเฟิง “ให้ค้อนข้ามา!”

ฉีจิ่งอวิ๋นยิ้มเล็กน้อย “ให้ตำแหน่งขุนนางข้ามา”

ชิงฮวนรู้ว่าฉีจิ่งอวิ๋นได้รับอภัยโทษอีกทั้งยังถูกใช้อีกครั้ง เธอจึงโล่งใจ และหารือกันเพื่อจัดงานเลี้ยงที่จวนอ๋องเพื่อฉลองที่จิ่งอวิ๋นได้เป็นขุนนาง

พวกเขาเอามือปิดปากและหัวเราะพูดคุยกันก็ได้ยินเสียงของอวิ๋นเช่อตะโกนมาจากข้างหลัง “ท่านแม่ ท่านพ่อโฉว ท่านลุงหน้าผี ท่านอาพวกท่านรีบมาช่วยข้าเร็ว!”

ทุกคนหันไปมอง ตาเกือบบอด

อวิ๋นเช่อที่อยู่ด้านหลังไม่ว่าจะเป็นบนหัว บนแขน บนลำคอนั้นเต็มไปด้วยทองระยิบระยับ รวมถึงกุญแจทอง โซ่ ข้อมือที่ประดับไปด้วยอัญมณีล้ำค่า ความแวววาวนั้นแค่เดินก็พราวระยับราวกับเป็นกล่องเครื่องประดับเดินได้

ไม่เพียงเท่านั้นเขายังหอบหยกหรูอี้จำนวนมากและน้ำเต้าสีม่วงรวมถึงของชิ้นใหญ่อื่นๆเอาไว้ในอ้อมแขน มันดูหนักมากและเขาพยายามที่จะประคองมันเอาไว้จนทำให้เขาเหนื่อยจนหน้าแดง

เทียนซื่อกับตี้ลี่คอยคุ้มครองเขาอย่างระมัดระวังจากด้านหลัง ทำให้ดึงดูดสายตาอิจฉาของคนในวังที่อยู่ใกล้ๆ

เหลิ่งชิงฮวนตบศีรษะตัวเองเสียงดัง ทำไมเธอถึงได้คลอดเจ้าเด็กที่ล้มเหลวคนนี้มาได้นะ

ส่วนฮ่องเต้ชราก็เจ้าเล่ห์เกินไป ใช้คำพูดมาล่อลวง ในเมื่อเขามองมู่หรงฉีออกอยู่แล้วตัวเธอคิดที่จะหนีก็คงยาก

เธอค่อยๆหรี่ตาลงแล้วหัวเราะออกมาเสียงเย็น “วางแผนได้ดีนี่ มู่หรงอวิ๋นเช่อเจ้าไปขอสาวงามมาให้พ่อของเต้า ทำไมเจ้าถึงได้กตัญญู่แบบนี้ ไม่เหมือนใครเลยจริงๆ”

ประโยคนี้แฝงไปด้วยกาีข่มขู่ คิ้วของนางโค้งลงและเต็มไปด้วยความดุร้าย

อวิ๋นเช่อไปหลบด้านหลังของโฉวซือเส่า “ท่านพ่อโฉว ข้าอยากไปหาพี่เหลยอวี้ ไม่สิ ท่านน้าเหลยอวี้”

โฉวซือเส่าไม่ได้ส่ายหน้าในทันที “ข้าเองก็คิดว่านิสัยเรื่องเพศตรงข้ามของเจ้าควรได้รับการแก้ไข ไม่อย่างนั้นแล้วในอนาคตพ่อโฉวจะวางใจได้อย่างไร ไม่สิ ใครเขาจะปล่อยให้ลูกตัวเองมาแต่งกับเจ้า?”

อวิ๋นเช่อมองไปยังเสิ่นหลินเฟิงอย่างน่าสงสาร “ท่านอา ครั้งก่อนท่านน้ากงกงบอกว่าชอบข้ามาก อยากให้ข้าไปอยู่เป็นเพื่อนที่จวนกั๋วกงบ่อยๆ”

เสิ่นหลินเฟิงหัวเราะฮา “ได้สิ อย่างไรเสียจวนกั๋วกงก็อยู่ใกล้กับจวนอ๋องฉีมาก แม่เจ้าไม่มีธุระอะไรก็สามารถมาเยี่ยมเจ้าได้”

เสี่ยวอวิ๋นเช่อรู้สึกว่าไม่ค่อยปลอดภันเขาจึงส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางฉีจิ่งอวิ๋น “ท่านลุงหน้าผี ครั้งก่อนข้ารับปากท่านไว้แล้วไม่ใช่หรือขอรับว่าจะแนะนำท่านน้าสวยๆให้ ท่านรู้จักท่านน้าไหมขอรับ จู่ๆข้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าอารมณ์ของท่านน้าสี่ดีที่สุด นางปักดอกไม้ก็สวย ทำขนมก็อร่อย ท่านจะลองพิจารณานางหน่อยไหมขอรับ ท่านส่งข้าไปที่บ่านของท่านตาสิ?”

ทุกคนมองไปที่อวิ๋นเช่อแล้วหัวเราะ

ฉีจิ่งอวิ๋นเอากำปั้นของเขาไว้ที่ริมฝีปากแล้วพูดอึกอักพร้อมกับหัวเราะเสียงเบาว่า “ลุงไม่มีเงินแล้ว แต่งภรรยาไม่ได้หรอก ช่างเถอะ ช่างเถอะ”

อวิ๋นเช่อกางมือออกอย่างทำอะไรไม่ถูก “ว้า ถ้าหากว่าแต่งงานเอาภรรยาที่ใช้เงินเก่งก็ช่างเถอะขอรับ แต่อย่าแต่งกับคนที่ให้ลูกชายไร้ค่าเลยขอรับ เหมือนกับแม่ของข้า ต่อให้คลอดน้องชายออกมาอีกคนก็คงเอาชนะไม่ได้”

ทุกคนหัวเราะครืนออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา