พอตกกลางคืน
ควันจากปล่องเตาเผาทุกครัวเรือนทั่วทั้งเมืองหลวงก็ลอยคลุ้งขึ้นมา ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขร่มเย็น
โคมไฟแขวนประดับสูงตามร้านค้าริมถนนรถม้าวิ่งขวักไขว่ไปมาอย่างไม่ขาดสาย
เมืองหลวงหลังจากสงครามวุ่นวายก็ได้พลิกฟื้นตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากช่วงเวลาโกลาหลก็ดูเหมือนจะล้ำค่ามากขึ้น
ตามถนนและตรอกซอกซอยโรงเหล้า โรงน้ำชาผู้คนต่างพากันพูดถึงและแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องน่าใจหายใจคว่ำอย่างตื่นเต้น ความกล้าหาญของอ๋องฉีนั้นไม่ธรรมดากับแผนการอันฉลาดแยบยลของฮ่องเต้ทำให้ทุกคนต่างพูดถึงกันไม่จบไม่สิ้น
ส่วนด้านบนอู่เฟิงโหลวบุคคลลึกลับสองคนที่ท่าทางร่างกายแข็งแรงบึกบึนเพลงดาบไม่ธรรมดาก็เกิดการคาดเดาและคำชื่นชมจากพวกประชาชนทั้งหลาย
ข่าวเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสุสานหลวงฝั่งตะวันตกก็แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ภัยอันตรายของสัตว์พิษร้ายในวังหลวง วิกฤตไฟลามทุ่ง กลุ่มวีรบุรุษรวมตัวกัน ขุนนางเป็นกบฏ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของทุกคนในจวนมหาเสนาบดี เหล่าทหารยอมพลีชีพอย่างไม่กลัวเกรงรวมใจเป็นหนึ่งเดียวต่อต้านอ๋องเฮ่าเพื่อช่วยชีวิตพระชายาฉีอย่างดุเดือดทำให้ทุกคนล้วนเส้นเลือดไหลเวียนสูบฉีด คนทานลืมตะเกียบคนงานลืมเทพ
ส่วนเรื่องมืดหม่นในวังหลวงนั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่พระชายาเฮ่าตายเพราะสาเหตุใด พระชายาฉีสามารถหนีรอดออกมาจากกองไฟที่ลุกเผาไหม้โหมกระหน่ำอย่างปลอดภัยได้อย่างไรทั้งยังควบคุมสัตว์พิษร้ายแรงที่สุดพวกนั้นไว้ได้ยังไงนั้นทุกคนไม่สามารถรู้ได้แล้ว
พวกผู้คนต่างพูดกันว่าอ๋องฉีและพระชายาฉีสามารถหนีรอดจากความตายได้ เบื้องบนประทานนิมิต กลุ่มวีรบุรุษร่วมด้วยช่วยกันแน่นอนว่าเบื้องบนได้สำแดงฤทธิ์เดชลิขิตให้ทั้งสองกลับมาอย่างแน่นอน
จนกระทั่งกลางดึกผู้คนก็ยังคงไม่หลับไม่นอนยังคงตกอยู่กับเรื่องน่าตื่นเต้นเมื่อช่วงกลางวันและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างคึกคัก กลัวว่าพอตัวเองกลับไปจะพลาดเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นกลายเป็นคนที่โง่เขลาที่สุดในเมืองหลวง
จนกระทั่งโฉวซือเส่ากับเสิ่นหลินเฟิงและฉีจิ่งอวิ๋นทั้งสามคนแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างเต็มที่ เดินเข้าไปในภัตตาคารที่เปิดไฟสว่างไสวถูกสายตาเฉียบคมของผู้คนจำได้ก็ได้รับความเคารพนับถือจากผู้คนอย่างแรงกล้าอีกครั้งหนึ่ง
มีคนชี้ไปที่โฉวซือเส่าแล้วร้องอุทานออกมา “เหล่าวีรบุรุษที่ช่วยกอบกู้อยู่ที่นี่แล้ว! พวกเขานี่แหละ ไม่ผิดแน่นอน! ข้าอยู่ด้านหน้าเห็นจริง ๆนะ”
ในห้องโถงใหญ่เงียบไปครู่หนึ่ง แม้เข็มตกลงพื้นก็ยังได้ยิน
ทั้งสามคนเพิ่งจะก้าวเข้าประตูภัตตาคารมาทุกสายตามุ่งจับจ้องมาเท้าหลังก็หยุดชะงักลงทันที
จากนั้นหินก้อนหนึ่งก่อให้เกิดระลอกคลื่นนับพันผู้คนแห่กรูกันเข้ามาอย่างกระตือรือร้น โต๊ะเก้าอี้พลิกตะแคงคว่ำทันทีแล้วก็มีพวกแก้วจานชามหล่นลงพื้นอีกด้วย
เสิ่นหลินเฟิงตกตะลึง พระสูงหนึ่งจั้งสองฉื่อมิอาจคลำเศียรท่านไม่เข้าใจว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
โฉวซือเส่าและฉีจิ่งอวิ๋นมองหน้ากัน คิดตรงกันที่จะหนีเผ่นเอาตัวรอดก่อนจึงเบือนหน้าแล้วหนีไป
“ท่านวีรบุรุษ ท่านวีรบุรุษ ขอถามชื่อเสียงเรียงนามท่านหน่อยเป็นคนที่ไหนท่านแต่งงานแล้วหรือยัง?”
“ท่านวีรบุรุษวันนี้ในวังหลวงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?ได้ยินว่าฮ่องเต้ประชวรอยู่ยังไม่ฟื้นพระชายาฉีได้ถวายการรักษาหรือไม่?”
...
จนกระทั่งห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่กระตือรือร้นซุบซิบอีกครั้งเสิ่นหลินเฟิงถึงจะรู้ตัวอีกทีเมื่อหันหน้าไปโฉวซือเส่าและฉีจิ่งอวิ๋นก็ไร้คุณธรรมชิงหนีหายตัวไปก่อนแล้ว
บรรดาแขกที่มาทานอาหารมีดึงแขนเสื้อบ้าง จับมือบ้างแย่งกันพูดขังเขาไว้อยู่ตรงกลาง
เสิ่นหลินเฟิงรวบรวมสติทันทีแล้วชี้ไปทางที่ทั้งสองคนนั้นวิ่งหนีไป “ข้าเป็นเพียงคนขับรถม้า คุณชายทั้งสองของข้านั้นร่ำรวยล้นฟ้ายังไม่ได้แต่งงานกำลังเลือกคู่ครองอยู่ใครมาก่อนก็ได้ก่อน”
ครอบครัวที่มีหญิงสาวถึงวัยออกเรือนแล้วยังไม่ได้แต่งงานรีบเปลี่ยนเป้าหมายไล่ตามไปติด ๆทันที
เหล่าแขกเหรื่อเองก็ไม่ได้โง่มองตัวเขาก็ดูไม่ธรรมดาจะเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไปได้ยังไง?อีกอย่างเขายังเป็นคนแรกในเมืองหลวงที่ถูกจับกุม ชื่อเสียงของจิงจ้าวอิ่นก็ไม่ใช่เล็ก ๆด้านในย่อมมีคนรู้จักเขาอยู่แล้ว
“ท่านนี้ไม่ใช่ซื่อจื่ออ๋องแห่งจวนกั๋วกงเหรอ?”
เสิ่นหลินเฟิงครวญคราง “ข้าไม่ต้องหลีกเลี่ยงข้ออสงสัยเลยหรือไง?ข้าหน้าตาหล่อเหลาสง่างามไม่พอหรือยังไงกัน?”
“ใครจะไปรู้ท่านรัชทายาทเสิ่นผู้มีคุณธรรมสูงส่งเข้มแข็งและมีเกียรติและหยิ่งในศักดิ์ศรีล่ะ? มู่หรงฉีเชื่อใจท่านจะตายไป”
เสิ่นหลินเฟิงนึกถึงเรื่องที่เมื่อก่อนมู่หรงฉีปลอมตัวเป็นทหารองค์รักษ์ตามสืบเรื่องของตัวเองกับชิงฮวนก็รู้สึกว่าไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอน
แต่ตอนนี้จะออกไปซื้อเหล้าและอาหารนั้นก็ต้องเสี่ยงภัยขจัดอุปสรรคนานับประการทั้งสามคนวางแผนกันอยู่นานในท้องต่างก็ว่างเปล่าฝีมือพ่อครัวของจวนอ๋องฉียังคงเป็นที่น่าชมเชย
เสิ่นหลินเฟิงเกิดความคิดขึ้นมาอย่างเฉียบไว “ดึกดื่นเช่นนี้แล้ววิ่งไปรบกวนการพักผ่อนของพี่สะใภ้ก็คงไม่เป็นการดี เช่นนั้นพวกเราก็ขอยืมไปหน่อยก็แล้วกัน”
ขอยืมก็คือลงมือทำก่อนแล้วค่อยรายงานทีหลัง ขโมยมาดื่มก่อนแล้วค่อยบอกทีหลังไม่มีทางที่จะต้องคืนอย่างแน่นอน
ทั้งสามคนไม่มีใครเกรงใจเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ขโมยเหล้าไหไปสองสามไหแล้วไปที่ห้องครัวขโมยหมูพะโล้กับเมล็ดถั่วลิสงไปสนุกกันอย่างเต็มที่ในบ้านของโฉวซือเส่า
แน่นอนว่าทั้งสามคนเดินวางมาดที่ไปจวนอ๋องฉีเช่นนี้ องค์รักษ์เห็นตั้งนานแล้วทว่าก็รู้ดีใครก็ไม่สามารถยั่วยุได้ไม่มีกล้าเข้าไปก้าวก่ายเลย
ห้องเก็บสุราของมู่หรงฉีอยู่ที่ไหนทั้งสามคนล้วนชำนาญเป็นอย่างดี เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องเก็บสุราอย่างรู้ลู่ทางดีโฉวซือเส่าปลดกลอนกุญแจยังไม่ทันได้เข้าไปในห้องเก็บสุราเงาสีดำก็วิ่งออกมาพุ่งเข้าใส่ทั้งสามคนแล้วร้อง “โฮ่งโฮ่ง” อย่างโมโหหมอบลงครึ่งตัวพร้อมที่จะกระโจนใส่ตลอดเวลาท่าทางสู้สุดชีวิต
เสิ่นหลินเฟิงจ้องมองไม่คิดเลยว่าจะเป็นฮวนฮวนหมาน้อยตัวสีขาวที่เสี่ยวอวิ๋นเช่อเลี้ยงไว้
ตั้งแต่ที่ตัวเองเคยจับฮวาฮวาสุนัขตำรวจมาจุ๊บครั้งหนึ่งความสัมพันธ์ของตัวเองกับฮวนฮวนก็ไม่เลวเลย เชื่อฟังในการขอความช่วยเหลือ
เขาก้าวไปข้างหน้าอยากที่จะผูกมิตรด้วยเมื่อก้าวไปข้างหน้าฮวนฮวนก็ยิ่งเผยเขี้ยวเล็บอย่างดุร้ายมากยิ่งขึ้นและกระโจนเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...