ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 899

รองแม่ทัพอวี๋รีบโบกมือ “พูดล้อเล่นอะไรกันเนี่ย? คนเดียวก็เพียงพอแล้ว”

ชิงฮวนใส่เสื้อคลุมขนสุนัขจิ้งจอกสีเขียวฟ้าสะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ราวกับดอกบัว สวยสง่ามองดูแล้วอ่อนโยนไม่มีพิษภัย รอยยิ้มยิ่งทำให้ปั่นป่วนในหัวใจ

“อุดมคติยังต้องมีอยู่ แล้วถ้าเกิดเป็นจริงขึ้นมาล่ะ?”

รองแม่ทัพอวี๋ให้คำสัตย์สาบานกับเจ้าสาว “ชั่วชีวิตนี้ กระหม่อมเหล่าอวี๋จะยอมรับนางเพียงคนเดียว ปฎิบัติต่อนางเพียงผู้เดียวไม่เปลี่ยนเป็นใครอื่นใดทั้งนั้น”

ชิงฮวนขยิบตาอย่างทะเล้น “แน่ใจน่ะว่าจะไม่เปลี่ยน?”

รองแม่ทัพอวี๋ทำคอแข็ง “ต่อให้ตีจนตายก็จะไม่เปลี่ยน”

ในลานตำหนักฉาวเทียนคุณชายน้อยอวิ๋นเช่อหัวเราะคิกคัก เมื่อรองแม่ทัพอวี๋ได้ยินก็รู้สึกขนลุกคุณชายน้อยอวิ๋นเช่อหัวเราะเช่นนี้มักจะมีคนประสบกับหายนะ

เขาเดินตามเสียงไปทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนมีขนมตกลงมาจากฟากฟ้าเพิ่งออกมาจากหม้อยังร้อนจนมีไอควันขึ้นหล่นกระแทกใส่หัวตัวเอง

คุณชายน้อยอวิ๋นเช่อสวมชุดเสื้อคลุมยาวขนพังพอนสีแดงตัวใหญ่ห่อร่างกายจ้ำม่ำจนกลายเป็นก้อนซาลาเปาเนื้อ เดินวางมาดออกมาจากด้านใน

คุณชายน้อยอวิ๋นเช่อผิวขาวเนียนละเอียดเหมือนกับหยกขัดเงาดุร้ายแต่ก็น่ารัก สิ่งที่ทำให้รองแม่ทัพอวี๋รู้สึกโง่ก็คือด้านหลังของคุณชายอวิ๋นเช่อตามมาด้วยเจ้าสาวหกคนที่สวมชุดมงกุฎหงส์เหมือนกัน และก็อยู่ภายใต้การประคองของสาวใช้เช่นเดียวกันเหมือนลมอ่อนพัดโชยต้นหลิว เดินเรียงแถวอยู่ด้านหลังคุณชายน้อยอวิ๋นเช่อ

“ท่านลุงอวี๋ สุภาพบุรุษไม่กลืนน้ำลายตัวเองท่านบอกว่าจะไม่เปลี่ยน ถ้าเช่นนั้นก็ตกลงการค้าได้อย่างสบายใจแล้วสินะเมื่อก้าวพ้นประตูใหญ่นี้ไปก็ไม่สนที่จะเปลี่ยนคืนแล้ว”

รองแม่ทัพอวี๋ชะงักมองเจ้าสาวที่อยู่ข้างตัวเองที่กำลังยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข ต้มหูและปิ่นปักผมสั่นไหวแล้วมองไปที่สาวงามทั้งหกคนที่อยู่ด้านหลังคุณชายน้อยอวิ๋นเช่อ มือใหญ่รีบปล่อยมือที่ขาวนุ่มอ่อนเจ้าสาวออก

“นี่ นี่มัน...”รองแม่ทัพอวี๋เกาท้ายทอย “พระชายาท่านหมายความว่ายังไงกัน?”

ชิงฮวนเม้มปาก “ยังจะหมายความว่าอะไรได้อีกล่ะ? แบบทดสอบนะสิเลือกเพียงข้อเดียวถังป๋อหู่เลือกคนไหนล่ะคนไหนคือเจ้าสาวของท่าน หรือว่าท่านยังคิดว่าข้าจะให้เจ้าสาวทั้งหลายนี้แต่งงานกับท่านหรือยังไง?”

กลุ่มคนด้านหลังหัวเราะเสียงดัง

รองแม่ทัพอวี๋เบะปาก “พระชายาไม่เห็นจำเป็นต้องล้อเล่นอย่างนี้เลย”

อารมณ์ร้ายของสาวน้อยท่านท่านเองก็เข้าใจดีอยู่ ถ้าหากเลือกผิดคืนส่งตัวเข้าหอนี้ก็คงจะกลายเป็นสถานที่เกิดเหตุคดีฆาตกรรมได้

ชิงฮวนเอียงคอ “โอกาสแบบนี้ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้นะ ท่านไม่จำเป็นต้องซาบซึ้งใจข้าจนน้ำตาไหลก็ได้ ทั้งหมดนี้เป็นความคิดของทุกคน ทุกคนเข้าก็อยากเห็นกันสิ่งท่านพูดอยู่ตลอดว่าชอบตี้ลี่มันเป็นเพียงลมปากหรือเป็นสิ่งที่เก็บไว้อยู่ในใจกันแน่?”

“ใช่แล้ว!” ทุกคนตะโกนขึ้นมา “ถ้าวันนี้เลือกไม่ถูกเจ้าบ่าวอย่างท่านก็หลีกทางไปเสียเถอะ”

เรียกได้ว่ารองแม่ทัพอวี๋นั้นร้อนใจ พระชายาท่านนี่ช่างเข้าใจแกล้งเสียจริง

วันนี้มู่หรงฉีกลับจวนเร็วเพื่อมาดูเรื่องสนุกครึกครื้น

รองแม่ทัพอวี๋เดินเข้าไปหามู่หรงฉีแล้วพูดกระซิบ “ท่านอ๋องกระหม่อมซื่อสัตย์ภัคดีต่อท่านสิ่งนี้ท่านไม่ปฏิเสธใช่ไหมขอรับ?”

มู่หรงฉีพยักหน้าตบไหล่ของเขา “ถึงแม้ว่าเจ้าก่อกบฏเข้าสวามิภักดิ์กับพระชายา ข้าก็ยังคงอวยพรให้เข้ากับตี้ลี่ครองรักกันจนแก่เฒ่า”

รองแม่ทัพอวี๋ดึงแขนเสื้อมู่หรงฉีไว้ “ท่านอ๋องท่านอย่าพูดเช่นนี้สิขอรับ กระหม่อติดตามท่านฝ่าภัยอันตรายมาตั้งกี่ปี? นั่นเป็นความรู้สึกที่แท้จริงกระหม่อมอยู่ต่อหน้าพระชายานั่นก็แค่มีโอกาสเล่นสนุกไปบ้างครั้งคราว ท่านอย่าเอาเหตุผลนี้มาสงสัยจุดยืนและความจงรักภักดีของกระหม่อมสิขอรับ ท่านช่วยกระหม่อมให้ผ่านพ้นภัยร้ายไปได้อย่างสงบสุขในอนาคตกระหม่อมจะยอมเป็นวัวเป็นควายตอบแทนท่าน”

มู่หรงฉีมองพิจารณาเขาอย่างสงสัยทําให้เขาเข้าใจตัวเองด้วยสายตาดูถูก

“ต้องขอโทษด้วย ข้าเองก็ต้องรู้รักษาเอาตัวรอดเช่นกันคงช่วยเจ้าไม่ได้หรอกนะ”

รองแม่ทัพอวี๋แทบอยากจะร้องไห้แต่ร้องไม่ออก หันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากเสิ่นหลินเฟิง “รัชทายาทเสิ่น นี่มัน...”

สีหน้าของเสิ่นหลินเฟิงเองก็มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น “ต้องขอโทษด้วย ข้าเองก็ไม่ได้สนิทสนมกับแม่นางตี้ลี่สักเท่าไหร่ ข้าเองก็จำไม่ได้เช่นกัน”

ทุกคนเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจบนหลังคามีคนหนึ่งนอนตะแคงข้างด้วยมือเดียว เสื้อคลุมสีแดงขนาดใหญ่ถูกลมพัดปลิวจนเกิดเสียงหวีดหวิว

ทุกครั้งที่ปรากฏตัวก็ต้องโอ้อวดเช่นนี้

ชิงฮวนหรี่ตาลงเล็กน้อย “ท่านไม่สามารถเดินเข้าประตูหลักของจวนอ๋องข้าอย่างบริสุทธิ์ใจได้สักครั้งเลยหรือไง?

คุณชายน้อยอวิ๋นเช่อกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ “ท่านพ่อโฉว ท่านพ่อโฉว ข้าอยากขึ้นไปด้วย!”

โฉวซือเส่าลุกขึ้นยืนทำจมูกฟุดฟิด “เจ้าอย่าขึ้นมาเลยดีกว่าลมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คละคลุ้งด้วยละอองฝุ่นทรายจนแสบคอไปหมด”

เขาพลิกตัวลงจากหลังคามายืนบนพื้นอย่างมั่นคง ยิ้มเป็นประกายให้กับชิงฮวน

“นี่ไม่ใช่เพราะข้าเป็นห่วงเจ้าหรือไง? กังวลว่าเจ้าได้ยินว่าข้ากลับมาเมืองหลวงแล้วจะยังออกไปต้อนรับอย่างดีอกดีใจเกิดเหนื่อยขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ?”

มู่หรงฉีพูดเสียงเย็นชาไม่พอใจ “โฉวซือเส่า ข้าก็อยู่ตรงนี้นะ”

โฉวซือเส่าทำเหมือนกับเพิ่งเห็นมู่หรงฉีที่ยืนอยู่ข้างชิงฮวน กระพริบตาด้วยความประหลาดใจ “ขออภัยด้วย ขออภัยด้วย ใครใช้ให้วันนี้ชิงฮวนของข้างดงามเช่นนี้ล่ะ มองจนไม่อาจละสายตาไปได้เลยไม่ทันเห็นท่านอ๋องฉี”

รองแม่ทัพอวี๋รู้ว่าเมื่อทั้งสองคนเจอหน้ากันเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเห็นต่างไปคนละทิศทาง ดินทรายปลิวว่อนรุนแรงทำนองนั้น ตนเองจะแต่งงานได้อย่างไม่ลำบากไหม? อย่าให้ทั้งสองได้ทำลายสถานที่นี้จึงรีบพูดแทรกขึ้นเพื่อเปลี่ยนหัวเรื่อง

“นายท่านโฉวมีความคิดดี ๆแล้วจริงเหรอ? ขอร้องท่านอย่างอุบเงียบไว้เลย”

โฉวซือเส่าเบือนหน้ามามองเจ้าสาวที่แต่งตัวเหมือนกันทั้งหลายนั้น แล้วยิ้มร่า “เจ้าจะขอบคุณข้ายังไงล่ะ?”

รองแม่ทัพอวี๋กระวนกระวายเล็กน้อย “ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลแก่ท่านไม่รู้ว่าเป็นรางวัลอะไร ตอนนี้ข้าเหล่าอวี๋ติดหนี้ท่าน เหลือเพียงชายคนนี้ที่ยังมีค่ากว่าเงินทอง ไม่อย่างนั้นในอนาคตข้าเหล่าอวี้ก็จะเป็นคนของท่าน?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา